
ผลข้างเคียงจากสงครามกลางเมืองพม่าต่อไทยคือการบริหารแหล่งก๊าซยาดานา (Yadana) ที่ผู้ถือหุ้นสหรัฐฯ คือเชฟรอน เพิ่งประกาศถอนหุ้นออกไปเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา
โดย ปตท.สผ.แจ้งตลาดหลักทรัพย์ไทยว่าเชฟรอนได้ตัดสินใจถอนตัวออกและได้โอนหุ้น 41.1% ให้ ปตท.และรัฐวิสาหกิจเมียนมา
โดยบริษัทพลังงานยักษ์สหรัฐฯ แห่งนี้แจ้งว่าสาเหตุที่ถอนตัวเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ
และโยงถึงการก่อรัฐประหารในเมียนมา กับการปราบปรามประชาชนของรัฐบาลทหารที่ตามมา
ก่อนหน้านี้เป็นเวลากว่าสองปี บริษัทเชฟรอนได้ประณามเหตุความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เมียนมา และประกาศไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมีการถอนตัวจากแหล่งก๊าซแห่งนี้
แทนที่จะขายหุ้น 41.1 เปอร์เซ็นต์ ในบ่อก๊าซ ทางบริษัทเชฟรอนได้โอนหุ้นให้กับบริษัท ปตท.สผ.ของไทยและรัฐวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซของเมียนมาชื่อว่า บริษัทเมียนมา ออยล์ แอนด์ แก๊ส เอนเตอร์ไพรส์ (MOGE)
ปตท.สผ.ผู้ดำเนินการแหล่งก๊าซออกมากล่าวเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า หุ้นในยาดานาของบริษัทเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 62.95 เปอร์เซ็นต์
“การถอนตัวดังกล่าวสืบเนื่องมาจากความตั้งใจของเราที่จะออกจากเมียนมาในลักษณะที่ต้องมีการควบคุม และต้องการจะถอนตัวหลังการรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และหลังจากเหตุวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่กําลังดําเนินอยู่” โฆษกเชฟรอนบอกในแถลงการณ์
ในหนังสือของ ปตท.สผ.ถึงตลาดหลักทรัพย์นั้นได้แจ้งว่าจะเดินหน้าบริหารแหล่งก๊าซแห่งนี้ต่อไปเพราะมี “ความสำคัญทางยุทธศาสตร์พลังงาน” ต่อไทยและเมียนมา
แน่นอนว่ารัฐบาลไทยคงจะต้องถูกตั้งคำถามว่าการยังมีข้อตกลงกับรัฐบาลทหารพม่าในกรณีนี้จะทำให้ถูกตีความว่าสนับสนุนการปกครองปัจจุบันที่ถูกประณามโดยสหประชาชาติและหลายๆ องค์กรระหว่างประเทศหรือไม่
ถึงวันนี้ ปตท.สผ.ยังยืนยันจะดำเนินการต่อไปเช่นเดิม
แต่เชื่อได้ว่าคงมีการพูดจาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลตะวันตกที่ได้พยายามเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งไทยเข้าร่วมการคว่ำบาตรรัฐบาลทหารพม่าด้วย
เหตุผลที่ทางการไทยให้กับประเทศตะวันตกในเรื่องนี้ก็คือ การที่จะรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพด้านพลังงานของไทยและพม่าซึ่งมีผลกระทบต่อปากท้องของประชาชนทั้งสองประเทศ
มิได้มีผลกระทบต่อรัฐบาลทหารพม่าแต่เพียงฝ่ายเดียว
แหล่งก๊าซยาดานาตั้งอยู่ที่อ่าวเมาะตะมะ โดยมีอัตราการผลิตก๊าซอยู่ที่ 6 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
โดย 70 เปอร์เซ็นต์ของก๊าซถูกส่งให้กับประเทศไทย และอีก 30 เปอร์เซ็นต์ถูกส่งให้ MOGE เพื่อนำไปใช้ในเมียนมา
หน่วยงานของ MOGE ถูกยึดโดยรัฐบาลทหารหลังการรัฐประหารในปี 2564
ความจริงเชฟรอนได้เคยประกาศไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2565 แล้วว่าจะถอนกิจการออกจากเมียนมา
ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว บริษัทพลังงานยักษ์แห่งนี้ก็ได้ตกลงที่จะขายทรัพย์สินที่นั่น รวมถึงสัดส่วนการถือหุ้นในแหล่งก๊าซยาดานา
แต่ข้อตกลงนี้ถูกยกเลิกไปจนมีคำประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
กลุ่มเคลื่อนไหวไม่แสวงหาผลกำไร Justice for Myanmar แจ้งว่าที่เชฟรอนต้องถอนตัวนั้นเพราะเกิดแรงกดดันจากภาคประชาสังคมอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุผลที่ว่า การที่บริษัทส่งรายได้จากโครงการก๊าซให้รัฐบาลทหารเมียนมาย่อมกลายเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับเผด็จการทหาร
เชฟรอนอ้างว่าการตัดสินใจถอนตัวครั้งนี้กระทำด้วย “ความรับผิดชอบ เป็นระเบียบ และปลอดภัย ตามกฎหมายระหว่างประเทศและการคว่ำบาตรทางการค้า
ย้อนกลับไปในช่วงหลังรัฐประหาร เชฟรอนและ TotalEnergies กลุ่มบริษัทพลังงานจากฝรั่งเศสซึ่งเป็นหนึ่งหุ้นส่วนร่วมกันในโครงการในขณะนั้น ประกาศหยุดการรับส่งเงินจากธุรกิจยาดานาทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้มีเงินของทั้งสองบริษัทรั่วไหลไปสนับสนุนคณะรัฐประหาร
ก่อนที่ TotalEnergies จะถอนตัวไปเต็มตัวในปี 2565
ส่วนเชฟรอนก็ทยอยขายสินทรัพย์ ถอนตัวออกจากโครงการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564
ก่อนที่ในวันจันทร์ที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เชฟรอนจะออกมาประกาศถอนตัวจากยาดานาอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศโอนหุ้น 41.1% ให้กับบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.ของไทย
การโอนหุ้นครั้งนี้ทำให้ ปตท.สผ.กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโครงการยาดานาและหุ้นส่วนในโครงการหนึ่งเดียวของรัฐบาลทหารเมียนมา โดยถืออยู่ทั้งหมด 62.96% ขณะที่ MOGE ถืออยู่ 37.04%
นักวิเคราะห์มองว่ากิจกรรมในเมียนมาทั้งหมดของ ปตท.สผ. (ยาดานา + Zawtika) คิดเป็นประมาณ 8% ของยอดขายรวมของรัฐวิสาหกิจไทยแห่งนี้
โครงการ Yadana เป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติที่ตั้งอยู่ที่อ่าวเมาะตะมะ ทะเลอันดามัน เมียนมา ห่างจากชายฝั่งที่ใกล้ที่สุดราว 60 กิโลเมตร
แรกเริ่มเป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรท้องถิ่นและบริษัทน้ำมันจากชาติตะวันตกเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบท่อส่งก๊าซบนพื้นดิน
รวมไปถึงแท่นขุดเจาะและระบบท่อส่งก๊าซใต้ทะเล
ค้นพบก๊าซธรรมชาติในพื้นที่นี้ครั้งแรกเมื่อปี 2523 และการพัฒนาแหล่งผลิตก๊าซ Yadana ก็เริ่มขึ้นในปี 2535
เริ่มผลิตก๊าซสำหรับใช้ในเมียนมาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2544
ในตอนต้นบริษัท Total เป็นผู้ดำเนินการ มีหน้าที่พัฒนาแหล่งผลิตก๊าซและขนส่งก๊าซไปที่ชายแดนไทย-เมียนมา ภายใต้การร่วมทุนกับอีก 3 บริษัท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นดังนี้
บริษัท Total ถือหุ้น 31.23% Unocal ถือหุ้น 28.26% ปตท.สผ. 25.5% และ Myanmar Oil and Gas Enterprise ถือหุ้น 15%
โครงการนี้เป็นแหล่งก๊าซที่สำคัญ ใช้ผลิตไฟฟ้าในเมียนมา 30% ของปริมาณที่ผลิตได้
ส่วนอีก 70% ถูกส่งมายังประเทศไทย เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในภาคตะวันตกของไทย
โดยปริมาณดังกล่าวคิดเป็น 10-15% ของความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย
โครงการนี้มีปริมาณผลิตคิดเป็น 1.8% ของกำลังผลิตรวมของ ปตท.สผ. คิดเป็น 3% ของรายได้ทั้งหมด และทำกำไรคิดเป็น 6% ของกำไรทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ปตท.สผ.มีโครงการในเมียนมาทั้งหมด 3 โครงการ ประกอบด้วย Zawtika, Yadana และ Yetagun มีสัดส่วนการลงทุน 80%, 25% และ 19% ตามลำดับ
ตามข้อตกลง จากกรณีที่ผู้ร่วมทุนรายใดถอนตัวจากโครงการ สัดส่วนการถือครองหุ้นจะถูกจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่เหลือเท่าๆ กัน
มาถึงวันนี้ โครงการนี้จึงเหลือเพียงรัฐวิสาหกิจของไทยกับของรัฐบาลเมียนมาเท่านั้น
ยิ่งหากสามารถแสวงหาสันติภาพในพม่าได้เร็วเพียงใด ความยุ่งยากที่กระทบไทยก็จะยิ่งผ่อนเบาได้เร็วขึ้นขนาดนั้น
การเสนอตัวเพื่อเป็น “คนกลาง” เพื่อไกล่เกลี่ยให้ทุกฝ่ายหาทางเจรจาร่วมกันในพม่าจึงมีความสำคัญเร่งด่วนมากขึ้นทุกที.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

