ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของจีนกับกัมพูชามาในหลายรูปแบบ...และหนึ่งในนั้นคือการสร้างสีหนุวิลล์เป็นศูนย์กลางด้านความบันเทิง หรือที่เรียกว่า Entertainment Complex
นั่นรวมหมายถึงสร้างกาสิโนที่จะดึงดูดนักการพนันจากทั่วโลก
วันนี้แผนการนั้นกำลังเผชิญปัญหา เพราะเมื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่บ้านเจอวิกฤต นักลงทุนจีนที่เตรียมจะเข้ามาทุ่มทุนสร้างสีหนุวิลล์ก็ถอนตัวกลับบ้าน
และยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่
มีภาพของโครงการที่สร้างเสร็จเพียงครึ่งเดียวหลายร้อยแห่งเต็มไปทั้งเมืองรีสอร์ตริมทะเลของเขมรแห่งนี้
ย้อนกลับไป 4 ปีก่อนเป็นจุดเริ่มต้นของการบูมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชา
นักลงทุนชาวจีนแห่กันมาลงทุนที่สีหนุวิลล์อย่างคึกคัก
รัฐบาลของนายกฯ ฮุน เซน ขณะนั้นก็ป่าวประกาศว่าจะสร้างเมืองชายทะเลแห่งนี้เป็นศูนย์กลางบันเทิงครบวงจร
โครงการยักษ์ๆ เริ่มผุด ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรูและห้างสรรพสินค้า
สีหนุวิลล์ถูกเรียกขานเป็น “มาเก๊าแห่งที่สอง” เพราะกาสิโนหลายสิบแห่งเตรียมจะถูกสร้างขึ้นอย่างหรูหราอลังการ
แล้วก็เกิดเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19
เหล่าบรรดานักลงทุนจีน (ทั้งที่มีเงินจริง กับที่เป็นสีเทา และที่มาเสี่ยงโชค) ก็ทยอยกันกลับบ้าน
เมืองจีนเจอปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนสำคัญคือเกิดปัญหาฟองสบู่ของอสังหาฯ และการร่วงหล่นของอำนาจซื้อของประชาชน
วันนี้พ้นวิกฤตโควิดแล้ว แต่ปัญหาอสังหาฯ ในจีนยังไม่เบาบางลง
สีหนุวิลล์กลายเป็นหนึ่งในโครงการที่ถูกทอดทิ้ง
เพราะจะหานักลงทุนในประเทศหรือเพื่อนบ้านก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
สีหนุวิลล์จึงเต็มไปด้วย “อาคารผีสิง”
รัฐบาลท้องถิ่นบอกว่ามีอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จประมาณ 360 หลัง
อาคารอื่นๆ อีกประมาณ 170 หลังที่สร้างเสร็จ แต่ยังคงว่างเปล่า
กัมพูชาเชื่อว่าสีหนุวิลล์ตั้งอยู่บนทำเลที่หายากบนชายฝั่งอ่าวไทย
และด้วยกระแสเงินลงทุนของจีน สีหนุวิลล์ก็ได้รับประโยชน์ที่ทำให้เฟื่องฟูในช่วงกลางทศวรรษ 2010
เงินลงทุนของจีนมาพร้อมกับนโยบาย “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI ของสี จิ้นผิง ของจีน
ผสมผสานระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับภูมิรัฐศาสตร์
ประกอบกับนโยบายนายกฯ ฮุน เซน ที่ขยับเข้าใกล้จีนและออกห่างจากสหรัฐฯ
ทำให้ปักกิ่งมองกัมพูชาเป็นมิตรที่คบหาได้ในหลายๆ มิติ
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าท้ายที่สุดทุกชาติก็จะปกป้องผลประโยชน์แห่งตนไว้ก่อน
และการจัดลำดับความสำคัญของแต่ละประเทศย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยแห่งปัญหาของแต่ละช่วงตอน
ไม่ว่าจีนจะอยากมาขยายอิทธิพลทางด้านธุรกิจที่สีหนุวิลล์เพียงใด แต่เมื่อเงินทองขาดแคลนก็ต้องจัดการเรื่องในบ้านในเรียบร้อยเสียก่อน
แม้โควิดจะหายแล้ว แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนก็ยังไม่ได้กลับมาเต็มที่
ปีที่แล้ว กัมพูชาดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนได้เพียงประมาณ 550,000 คน ลดลง 77% จากปี 2562
ตัวเลขของกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาแจ้งว่า ปีที่แล้วมีผู้โดยสารเดินทางถึงสนามบินนานาชาติสีหนุวิลล์เพียง 15,754 คน ลดลง 98% จากปี 2562
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข่าวร้ายสำหรับการท่องเที่ยวของกัมพูชา
เพราะอีกภาพหนึ่งคือการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่เสียมราฐ ซึ่งโด่งดังด้วยนครวัดโบราณอันเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก
อาจจะพิสูจน์ว่าการท่องเที่ยวที่เน้นเรื่องบันเทิงเต็มรูปแบบมีความเสี่ยงสูงกว่าการรักษาวัฒนธรรมอย่างเป็นระบบอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุหนึ่งที่เงินไหลกลับสู่สีหนุวิลล์ได้ช้าหลังจากการระบาดใหญ่ อาจจะเป็นเพราะนโยบายเข้มข้นมากขึ้นของรัฐบาลว่าด้วยกาสิโน
และอีกสาเหตุหนึ่งคือปัญหาอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ตกต่ำ
ตอนนี้ปัญหาคือรัฐบาลจะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติม 1.1 พันล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 40,000 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารที่ยังสร้างให้เสร็จ
โดยหวังว่าเมื่อผ่านพ้นช่วงตกต่ำนี้แล้ว ทุกอย่างจะกลับมาเฟื่องฟูตามแผน
หากทิ้งร้างไว้นาน มูลค่าตลาดก็อาจจะยิ่งตกต่ำ ไร้แรงจูงใจสำหรับการลงทุนในอนาคต
นายกฯ คนใหม่ ฮุน มาเนต ต้องเข้ามาทำกระตุ้นให้ประคองสถานการณ์เอาไว้
เดือนมกราคม รัฐบาลประกาศการลดหย่อนภาษีและเพิ่มสิทธิพิเศษในการยื่นขอใบอนุญาต เพื่อพยายามสนับสนุนให้นักลงทุนช่วยเหลืออาคารร้างในเมืองสีหนุวิลล์
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว
การที่จีนได้สยายปีกการลงทุนในหลายประเทศในอาเซียนในช่วงหลังนี้ ทำให้อาการชะงักงันของจีนมีผลกระทบต่อหลายโครงการในหลายประเทศในแถบนี้
นอกจากกัมพูชาแล้ว ทุนจีนก็กระจายไปหลายประเทศในอาเซียน รวมทั้งไทย
วิกฤตหนี้ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนอย่าง Country Garden Holdings ได้ลุกลามไปยังมาเลเซีย
หนึ่งในโครงการที่ถูกกระทบในมาเลเซียคือโครงการแบบผสมผสานมูลค่าพันล้านดอลลาร์ในรัฐยะโฮร์ ที่กำลังตกอยู่ในสภาพติดหล่ม
เป็นที่รู้กันว่ากัมพูชาพึ่งพาเงินลงทุนของจีนในระดับสูง
ปี 2565 บีโอไอของเขมรอนุมัติการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่าทั้งหมดประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์
ประมาณ 90% มาจากประเทศจีน
จะมีทุนจากชาติไหนมาถมช่องว่างของทุนจีนในระยะเวลาอันใกล้นี้คงจะหายากยิ่ง
สื่อ Nikkei Asia อ้างคำพูดของลอง ดิมันเช รองผู้ว่าราชการจังหวัด ว่าสีหนุวิลล์จำเป็นต้องลดความเสี่ยงด้วยการกระจายทั้งประเภทของอุตสาหกรรมและประเทศที่มาลงทุนเพื่อให้เศรษฐกิจมีพลวัตมากขึ้น
รัฐบาลฮุน มาเนต จำเป็นต้องเปิดกว้างการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อลดการพึ่งพาทุนจีนให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง
รัฐบาลเขมรมองไปที่ญี่ปุ่น ซึ่งด้วยเหตุผลทั้งการแข่งขันด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ อาจจะเป็น “ตัวเลือก” ที่น่าสนใจ
ตัวเลขที่ผ่านมาสะท้อนว่าบริษัทญี่ปุ่นมีบทบาทในกัมพูชาน้อยกว่าในประเทศไทยหรือเวียดนาม
แต่ญี่ปุ่นได้ให้การสนับสนุนท่าเรือสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวของกัมพูชามายาวนานแล้วประมาณ 3 ทศวรรษ
อีกภาพหนึ่งของการชะลอตัวของทุนจีนในกัมพูชาคือโครงการสร้างสนามบินในจังหวัดมณฑลคีรี
แต่ถึงวันนี้จุดนั้นมีเพียงเสารั้วคอนกรีตที่ขวางพื้นที่การเกษตรของชุมชนชนเผ่าพื้นเมือง
เป็นจุดที่ได้เคลียร์พื้นที่เพื่อสร้างรันเวย์ ที่ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ที่นี่เป็นหนึ่งในหลายๆ โครงการสร้างสนามบินของกัมพูชาที่เดิมได้รับความสนใจจากนักลงทุนจีน
แต่หลังเกิดโควิดและปัญหาอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองจีน โครงการเหล่านี้ก็มีอันต้องหยุดชะงัก
นี่คือบทเรียนสำหรับไทยเราด้วยว่า การพึ่งพาแหล่งการลงทุนใดแหล่งทุนหนึ่งมากเกินไป ย่อมจะนำมาซึ่งปัญหาที่มีผลกว้างไกลเกินว่าที่คาด
ยามเฟื่องฟูทุกคนก็ร้องเฮ
แต่ยามตกต่ำคนที่มีอำนาจต่อรองน้อยกว่าจะต้องเช็ดน้ำตาตัวเอง!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สมรภูมิยะไข่: อีกจุดเดือด กำหนดทิศทางสงครามพม่า
หนึ่งในกองกำลังชาติพันธุ์ที่กำลังกล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางว่าได้ปักหลักสู้กับรัฐบาลทหารพม่าอย่างแข็งแกร่งคือ “อาระกัน” หรือ Arakarn Army (AA) ในรัฐยะไข่ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ติดชายแดนบังคลาเทศ
ส่องกล้องสนามรบทั่วพม่า : แพ้ไม่ถาวร, ชนะไม่เบ็ดเสร็จ
แม้ว่าการสู้รบในเมียวดี ตรงข้ามกับแม่สอดดูจะแผ่วลง เพราะมีการต่อรองผลประโยชน์สีเทากันระหว่างกลุ่มต่างๆ แต่สงครามในเขตอื่นๆ ทั่วประเทศพม่ายังหนักหน่วงรุนแรงต่อไป
เมียวดี: สงคราม, ทุนสีเทา, กาสิโน, มาเฟียและยาเสพติด
สงครามในเมียวดีตรงข้ามแม่สอดของจังหวัดตากของไทยซับซ้อนกว่าเพียงแค่การสู้รบแย่งชิงพื้นที่ระหว่างฝ่ายกองทัพพม่ากับฝ่ายต่อต้านเท่านั้น
งบมะกันก้อนใหม่จะช่วยยูเครน พลิกสถานการณ์สู้รบได้แค่ไหน?
แม้ว่ารัฐสภาสหรัฐฯจะเปิดไฟเขียวให้งบประมาณช่วยเหลือทางทหารก้อนใหม่ แต่ยูเครนก็ยังต้องดิ้นรนไม่ให้แพ้สงครามกับรัสเซีย
ทิม คุกบินไปเวียดนาม-อินโดฯ ทำไมไม่แวะประเทศไทย?
สัปดาห์ก่อน ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บินข้ามไทยไปเวียดนาม, อินโดนีเซียและสิงคโปร์ เพื่อสรุปแผนการลงทุนหรือเพิ่มกิจกรรมในประเทศเหล่านั้น
มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!
งบประมาณก้อนใหญ่ที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดความกังวลของยูเครนว่ากำลังจะแพ้สงครามได้หรือไม่...ยังต้องคอยดูของจริงในสมรภูมิรบต่อไป