"ขายเพื่อน" ใครจะคบ?

"บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล"

สมแล้ว ที่มีคนเรียก

"เทพโจ๊ก" บ้าง "มารโจ๊ก" บ้าง "แมวเก้าชีวิต" บ้าง "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" บ้าง

ชีวิตราชการตำรวจพุ่งปรี๊ดเหมือน "น้ำจรวด" งานวัด

ในรอบ ๒๐ ปี

อายุแค่ ๔๐ ปลาย ๕๐ ต้นๆ ก็คั่วเก้าอี้ "ผบ.ตร." แล้ว!

"ฝีมือ-ผลงานอะไร" ทำให้โตเร็วปานไก่ซีพี ไม่ต้องถาม

ภาพ "บิ๊กโจ๊ก" ยศ "พล.ต.ต." แต่ระดับ "พล.ต.ท.-พล.ต.อ.ยืนหลังงอ มือกุมเป้า ตอนยืนคุยด้วย

แค่นั้นจบ....

เพราะเป็นที่เข้าใจในสังคมอุปถัมภ์ไทยๆ ว่า บิ๊กโจ๊ก "เด็กนาย" ใครมีอะไรบอกผ่านได้

"บิ๊กโจ๊ก" บารมีจึงเบ่งพอง รู้จักกันทั้งผอง จาก "โจ๊กหวานเจี๊ยบ" ตำรวจเมืองใต้ ทำงานถูกใจ-รู้ใจนาย

ถึงได้โตใหญ่เป็น "บิ๊กโจ๊ก" แต่วัยเยาว์!

แต่มาวันนี้ หน้ามือเป็นหลังมือ โจ๊กหวานเจี๊ยบตกอยู่ในสภาพ "โจ๊กซีดจ๋อย"

จากคั่วเก้าอี้ ผบ.ตร.ที่จ่อปากหลุม

แต่ด้วยกลไก-กงกรรม ด้วยคดี "เว็บพนัน-บัญชีม้า" ทำให้ "แป๊กหัวคิว" จนคนดูครางฮือ

เพราะบิ๊กโจ๊ก "ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน"

จาก "บิ๊กโจ๊ก" ที่จับผู้ต้องหา จน "ผู้ร้ายปากแข็ง" บางรายร้องว่า "ผมไม่ผิด..ผมถูกกลั่นแกล้ง ผมจะฟ้องกลับ"

แต่วันนี้.........

"บิ๊กโจ๊ก" กลับต้องเป็นคนกล่าว ๒ ประโยคนี้เองบ้าง

"ถ้าสอบสวนอย่างเป็นธรรม แล้วผมผิดจริง ผมออกเลย              ถ้าเป็นคนอื่นคงหมอบไปแล้ว

แต่ที่อยู่สู้แบบนี้ เพราะการสอบสวนไม่ชอบ ทำเหมือนอาญาเถื่อน"

และ......

"ผมมาหาความยุติธรรมนอกองค์กร เพราะองค์กรของผม ให้ความยุติธรรมไม่ได้ วันนี้ ใครเกี่ยวข้อง ผมจะดำเนินคดีทั้งหมด"

ฟังดูคุ้นๆ เหมือนเทวดา ถูกคดีก็ตะโกน "ยุติไม่เป็นธรรม" พอหลุดคดีก็บอก "ศาลยุติธรรม"

ขนาดสารภาพในโทษโกงบ้าน-กินเมืองจนได้รับพระราชทาน "อภัยลดโทษ" แหม็บๆ

แต่ลับหลัง กลับพูดแผล็บๆ "ผมถูกยัดข้อหา"!

"บิ๊กโจ๊ก" อย่าเป็นอย่างนี้นะ ไม่อย่างนั้นความ "เห็นใจ-สงสาร" จากสังคม ที่คละเคล้าเหมือนขนมต้ม-มะพร้าวขูด จะหายไป

อย่างไรก็ตาม เจ็บนี้ ของบิ๊กโจ๊ก คงต้องเจ็บนาน แต่จะเจ็บถึงขั้นอวสานหรือไม่ ต้องบอกว่า ๕๐/๕๐!

ทำไม ๕๐/๕๐?

ในเรื่องคดี "ผิด-ถูก" ต้องรอ ป.ป.ช.และศาลเป็นผู้ให้คำตอบ

แต่ด้านวิถีต่อสู้คดี แสวงหาความเป็นธรรม

ผมดู "วิถี-ทางเดิน" ที่บิ๊กโจ๊กดำเนินอยู่ตอนนี้แล้ว นั่นแหละ มันทำให้ผมต้องใช้คำว่า ๕๐/๕๐

เมื่อวาน (๒๒ เม.ย.๖๗) บิ๊กโจ๊กออกรบตามแผน ๓ ทาง

-ร้องของความเป็นธรรมกับ ป.ป.ช.ร้องคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ ป.ป.ช.บางคน

-ร้องทุกข์กล่าวโทษนายกฯ เศรษฐา ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

-กล่าวโทษคณะพนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

-ขอความเป็นธรรมคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมตำรวจ

เหล่านี้แหละ เพราะเมื่อมองลงไปในองค์ประกอบในแต่ละเรื่อง การต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง

นั่นชอบธรรมและควรต้องทำ เช่น การยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม

และที่บิ๊กโจ๊กเรียกน้ำย่อยท่านผู้ชม โดยให้สัมภาษณ์เสียงดัง-ฟังชัดว่า

"การลงโทษทางวินัยให้ผมออกจากราชการ ทำได้ แต่ตอนจบ จะเป็นหนังคนละม้วน คดีลักษณะนี้มีฎีกาเป็นคดีตัวอย่างมาแล้ว”

นั่นก็อยู่ "ในบท-ในลีลา" เป็นสีสันฟังได้ แต่ประเด็นที่ร้อง ป.ป.ช.เนื้อหา คือ

"ขอคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช.คนหนึ่ง ในการพิจารณา/วินิจฉัยเรื่องกล่าวหาหรือคดีที่เกี่ยวข้องกับตัวบิ๊กโจ๊กเอง และตำรวจที่ถูกกล่าวหาร่วม

บิ๊กโจ๊กอ้างว่า....

ป.ป.ช.คนนั้น มีสาเหตุโกรธเคืองกับตัวเขาโดยตรง

ขอให้ป.ป.ช.ตรวจสอบพฤติกรรมของป.ป.ช.คนนั้น ในประเด็นว่า

เป็นบุคคลมีประวัติและพฤติกรรมเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ ป.ป.ช.หรือไม่

และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งเรื่องของ ป.ป.ช.คนนั้น ไปยัง "ประธานรัฐสภา"

เพื่อให้รัฐสภาตรวจสอบพฤติกรรม ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีข้อมูล

พูดชัดๆ คือ ต้องการให้ป.ป.ช.คนนั้นหลุดจากตำแหน่ง ว่างั้นเถอะ!

ครับ...ก็ไม่ผิดกฎหมาย-กฎกติกา ที่บิ๊กโจ๊กร้องเช่นนี้

แต่คนโบราณเขาบอกว่า แบบนี้มัน "ผิดนักเลง"

นักเลงจริง เขาไม่ทำกัน"!

เพราะอะไรน่ะหรือ?เพราะดูความ "เป็นมา-เป็นไป" ตามร้องเรียน ป.ป.ช.คนนั้น ก็คือ "คนกันเอง" กับบิ๊กโจ๊ก

อยากเป็น ป.ป.ช. ก็มาหาบิ๊กโจ๊ก เพราะรู้ว่าบิ๊กโจ๊กมี "นาย" สามารถช่วยให้เป็นได้

ก็ได้เป็นจริงๆ

แต่เป็นแล้ว "เพื่อนไม่ช่วยเพื่อน" อีหรอบนั้น มันก็เลยต้องแฉ!

จะใช้คำว่า "ลำเลิกเบิกประจาน" ก็ไม่ผิด

เพราะตอนผลประโยชน์เกื้อกัน ก็รักกัน อะไรๆ ที่ผิด-ที่ถูก ก็ช่วยปิดบัง-ซ่อนเร้นไว้ให้

แต่พอผลประโยชน์ไม่เกื้อกัน ก็โกรธกัน แล้วนำมาร้องเรียนทำนอง "เมื่อกูอยู่ไม่สุข มึงก็อย่าหวังว่าจะอยู่ได้เป็นสุข"!

เหมือนผัว-เมีย ตอนรักกัน เงียบฉี่

พอทะเลาะกัน ชาวบ้านรู้โหม้ดดด ไส้กี่ขดๆ ท่ากี่ท่าในมุ้ง เมียนำมาโพนทะนาเป็นซีรีส์ ฟังกันยาวข้ามปีก็ไม่เบื่อ!

นี่....ผมมองข้ามประเด็น "ใครผิด-ใครถูก"

มาให้น้ำหนักด้าน "บุญคุณ-ความแค้น" อันเป็นด้านจิตใจ จริงอยู่ที่บิ๊กโจ๊กร้องเรียน "ทำได้"

แต่คนอย่างนี้ ต่อไป "ใครจะคบ?"

ใครจะมาเป็นเพื่อน?

ใครจะเอาไปเป็นลูกน้อง?

ใครจะยอมเป็นนาย-ยอมให้เป็นหมาในคอก?

ในเมื่อ คนอย่างนี้ จะไว้ใจได้หรือว่า....

"ยามเป็น-ยามตาย" จะไม่ "ขายเพื่อน-ขายน้อง-ขายนาย" เพื่อเอาตัวมันเองรอด?

เห็นอ้างลุงป้อม "พลเอกประวิตร" เป็นพยานถึงเบื้องหน้า-เบื้องหลังของ ป.ป.ช.คนที่บิ๊กโจ๊กสาวไส้ให้สอบว่ามีพฤติกรรมและคุณสมบัติไม่เหมาะสม

ลุงป้อมของผม พลอยเดือดเนื้อ-ร้อนใจไปด้วย!

ที่หนักหนาสาหัสคือ.......

องค์กร ป.ป.ช.อยู่ดีๆ เหมือนถูกบิ๊กโจ๊กเอาขี้มาละเลงหน้าประตู จนฉาวโฉ่

ภาพลักษณ์องค์กร "ปราบปรามป้องกันการทุจริตแห่งชาติ" หมดกัน...หมด

ต่อจากนี้ จะหาความเชื่อถือมาจากไหน ในเมื่้อกลายเป็น "องค์กรตามใบสั่งนาย" ตามที่พฤติกรรม-พฤติการณ์ของการได้มาของ ป.ป.ช.แต่ละคน

เอาล่ะ...ในเมื่อ "เจ็บใจ" ป.ป.ช.คนที่ไม่ช่วยเพื่อน จะเล่นงานมัน บิ๊กโจ๊กจะร้องเรียน ป.ป.ช.ทำไม?

ป.ป.ช.มีอำนาจเอา "ใครเข้า-ใครออก" ซะที่ไหนล่ะ รัฐสภาโน่น โดย สส.-สว.เป็นผู้แต่งตั้ง ป.ป.ช.แต่ละคน

ถ้าอยากปลด บิ๊กโจ๊กอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๓๖ ซะ

 “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของทั้งสองสภา จํานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา

หรือประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน มีสิทธิ์เข้าชื่อกล่าวหาว่ากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติผู้ใดกระทำการตามมาตรา ๒๓๔ (๑) โดยยื่นต่อประธานรัฐสภาพร้อมด้วยหลักฐานตามสมควร

หากประธานรัฐสภาเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสงสัยว่ามีการกระทําตามที่ถูกกล่าวหา ให้ประธานรัฐสภาเสนอเรื่องไปยังประธานศาลฎีกาเพื่อตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระ จากผู้ซึ่งมีความเป็นกลางทางการเมืองและมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เพื่อไต่สวนหาข้อเท็จจริง

คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม หน้าที่และอํานาจ วิธีการไต่สวน ระยะเวลาการไต่สวน

และการดําเนินการอื่นที่จําเป็นของคณะผู้ไต่สวนอิสระให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ”          ก็อยากเห็น "ชีวิตที่ ๑๐" ของบิ๊กโจ๊ก "คัมแบ็ก" ได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.แบบ "มากบารมี-มากลูกน้อง" โดยลูกน้องไม่เกรงนายจะขายลูกน้องหรอกนะ ถึงแนะ

ยามเจ็บ ให้เลือดมันไหลโทรมกาย

ตายก็ให้มันตาย

แต่อย่าให้ "เลือดลูกผู้ชาย" กระเด็นเปื้อน "ลูกน้องและนาย"

นั่นแหละจะทำให้ "ตายแต่ไม่ตาย"

เพราะรักดอก จึงบอกให้!.

-เปลว สีเงิน

๒๓ เมษายน ๒๕๖๗

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รัฐมนตรีถุงขนม' ๒

เมื่อวาน ........ นำคำสั่งคดี "นายพิชิต ชื่นบาน" ติดคุก ๖ เดือน กรณี "ถุงขนม" ตั้งเป็นโจทย์ให้ศึกษากันไปแล้ว

'รัฐมนตรีถุงขนม' ๑

อีกปัญหาหนึ่งของรัฐบาล "เศรษฐา ๒" คือการแต่งตั้ง "นายพิชิต ชื่นบาน" ที่เรียกกันว่า "ทนายถุงขนม" เป็นรัฐมนตรี!

'ผู้กำลังจะมากับดาว'

"ดาวพฤหัสบดี" เทพเจ้าแห่งคุณธรรม "ดาวปราบมาร" ย้ายบ้านจาก "เมษ" ไปอยู่ "พฤษภ" แล้ว เมื่อวาน (๓๐ เม.ย.๖๗) พฤษภ เป็นภพ "กดุมภะ" ของดวงเมือง

"จะแถกไปได้ซักกี่เดือน?"

เรา "เห็นอะไร"..... จากการลาออกจากตำแหน่ง "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ" ของท่าน "ปานปรีย์ พหิทธานุกร"?

ความหวังคนกรุง ยกระดับ'รถเมล์ไทย'

ปัญหารถโดยสารประจำทางหรือ”รถเมล์” ยังเป็นที่พูดถึงมาทุกยุคสมัย โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการเดินทางด้วยรถเมล์ ผู้โดยสารมีทุกกลุ่มทุกวัย ไม่ว่าจะคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา คนต่างจังหวัดมาทำงานในเมือง คนแก่ คนพิการ ที่ใช้บริการรถเมล์ไทยสู่จุดหมายทั่วมุมเมือง