ทำบุญ..รู้รักษาสุขภาวะ

ยังคงอยู่วนเวียนอยู่ในเดือนเมษา.หน้าร้อน  และเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังเกี่ยวเนื่องกับเทศกาลวันสงกรานต์ ที่คนไทยนิยมเข้าวัดเข้าวา เพื่อกราบสักการบูชาและสรงน้ำพระเพื่อเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่แบบไทย

มนุษย์ป้าเห็นว่า เป็นเรื่องน่ารู้และพึงตระหนักของพุทธศาสนิกชนค่ะ โดยใครที่ไม่เคยรู้ หรือสังเกตรู้ ก็จะได้ช่วยกันระแวดระวัง เพื่อรักษาสุขภาวะของพระสงฆ์ สาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือเป็นการทำบุญที่ดีงามโดยอ้อมค่ะ

เรื่องของเรื่องมาจาก "เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๗" โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม ที่เล่าว่า วันนี้กระผม/อาตมภาพนั่งรับน้ำสรงจากพระภิกษุ สามเณร แม่ชีและฆราวาส ประมาณ ๑ ชั่วโมง

เมื่อเลิกจากการรับแล้ว ปรากฏว่าสองมือคันไปหมด ต้องรีบมาล้างน้ำฟอกสบู่เสียใหม่ คาดว่าเกิดจากดอกไม้ที่พวกเราใช้โรยหน้าน้ำอบน้ำหอม คงจะมีการไปแช่สารบางอย่าง ที่ทำให้ดอกไม้นั้นสดอยู่นาน แต่ว่าเป็นพิษกับผิว กระผม/อาตมภาพก็ยังเป็นห่วงว่า ถ้าเอาไปสาดใส่กันแล้วเกิดไปเข้าตาคนอื่น จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?!

บ้านเราเมืองเราส่วนหนึ่ง คนเราเห็นแก่เงินก็มักจะทำในสิ่งที่บางทีกฎหมายก็ห้าม อย่างเช่นว่าเอาอาหารทะเลไปแช่สารฟอร์มาลดีไฮด์ เพื่อที่ให้สดอยู่ในท้องตลาดได้นานๆ ส่วนคนกินจะเป็นจะตายอย่างไรก็ช่างมัน..! หรือว่าในส่วนที่เจอมา ก็คือเรื่องของดอกไม้สด มักจะใช้สารประเภทนี้ในการฉีดพ่น หรือว่าผสมน้ำแล้วแช่ เพื่อที่ให้ดอกไม้อยู่ได้นานๆ

แต่ถ้าท่านทั้งหลายรู้จักสังเกตจะเห็นว่า ถ้าเป็นพวงมาลัยหรือดอกไม้สดที่ผ่านสารพวกนี้มา จะสดชื่นอยู่ได้หลายวัน แล้วก็ปุบปับเน่าไปเลย จะไม่มีการค่อยๆ เหี่ยว ค่อยๆ เฉา เหมือนดอกไม้ตามปกติ เหมือนอย่างกับว่าพอสารที่แช่เอาไว้หมดฤทธิ์ ดอกไม้เหล่านั้นก็จะอยู่ในสภาพที่ว่าค้างมาหลายวัน ถ้าปล่อยตามปกติ ก็จะเหี่ยวแห้งไป แต่ด้วยความที่เซลล์ต่างๆ ของดอกไม้น่าจะโดนทำลายด้วยน้ำยาเหล่านี้ เมื่อถึงเวลาจึงหมดสภาพเน่าเละไปเลย

ดังนั้น..วันนี้ที่ปรารภก็คือว่า เรื่องที่ไม่น่าจะเกิด ไม่น่าจะเป็น ก็เป็นขึ้นมา ทั้งๆ ที่เป็นการรดน้ำขอพรธรรมดา แต่ทำเอากระผม/อาตมภาพต้องไปล้างมือเสียใหม่แทบไม่ทัน ก็ขอให้ทุกท่านระมัดระวังเอาไว้ด้วย ว่าถ้าเอาน้ำนั้นไปสาดใส่คนอื่น อาจจะทำให้เขาเดือดร้อนถึงขนาดตาบอดหรือเปล่าก็ไม่รู้?!

พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย..ทราบแล้วเปลี่ยนและปฏิบัติ เพื่อช่วยการทำนุบำรุงสาวกผู้เผยแผ่ศาสนา ..ก็จะได้บุญไม่มากก็น้อยนะคะ.

"ป้าเอง"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!

ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า

“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่

ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย

ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป

เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ

เรื่องของ..มิวเซียม

เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง