๑ หมื่น 'ไม่ลื่นคอ' นะจ๊ะ

ปกติจ้อจน "จ๋อลพบุรี" ตกต้นไม้

แต่พอถึงเรื่อง "เงินแจก ๑ หมื่น"          

ชาวบ้านที่ไม่ต่างแมวถูกเศรษฐาเอาปลาย่างทาจมูก ต่างรอฟังผลประชุม ครม.ตกลงจะเคาะแจกวันไหน?

ปรากฏว่า "เศรษฐา" ผู้เจื้อยแจ้ว

เมื่อวาน (๒๓ เม.ย.๖๗) กลับจืดจ๋อย แถลงแบบล้างก้นไม่ทันสะเด็ดน้ำ ก็รีบโกยอ้าวออกจากเวจ

"เรื่องนี้จบแล้ว โอเคนะ"!?

"ฮ่วย...กะด้อกะเดี่ยอะไรของมันวะ" พึมไปทั้งทุ่ง

เพื่อไม่ต้องแหงนเถิ่งให้คอเคล็ด ผมฟันธงให้เลย

เงินแจก ๑ หมื่น มัน "จบ" แล้ว!

ถ้าแจกได้จริง แจกไปนานแล้ว แต่แจกแล้วเจอคุก กล้าซะที่ไหน ที่ทำได้คือ ตดหลอกหมา "ซื้อเวลา" อยู่ไปนานๆ เท่านั้นเอง

เพราะที่มาของเงิน ๓ ก้อน รวม ๕ แสนล้านที่จะแจกน่ะ

 -๑๗๕,๐๐๐ ล้านบาท จาก "งบเหลือ" ปี ๖๗  โมเมแบบมโนเรื่อยเปื่อย "พูดจริง-ทำจริง" มีโอกาส "ติดคุกจริง"

-๑๕๒,๗๐๐ ล้านบาท จาก "กู้มาแจก" ซุกในงบปี ๖๘ โดยขยายกรอบงบประมาณ จากเดิม ๓,๖๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เพิ่มเป็น ๓,๗๕๒,๗๐๐  ล้านบาท

การนำงบปี ๖๘ ที่เขาทำเสร็จแล้วมารื้อกรอบวงเงิน โดยเพิ่มตัวเลขขาดดุลเข้าไปในตัวงบประมาณ

เท่ากับอาศัยสถานะรัฐบาล "กู้ ๑.๕๒ แสนล้านบาท" มาให้ "พรรคเพื่อไทย" ในคราบรัฐบาลนำเงินนั้นไปแจกแก้บน

เศรษฐา-เพื่อไทยได้เสียง-ได้หน้า

แต่ประชาชนได้หนี้ ประเทศย่ำแย่ เพราะรัฐบาลย่ำยี จนไม่มีเงินพัฒนา

รัฐบาลแต่ละปี ก็ต้องตั้งงบขาดดุล "กู้หนี้-มาใช้หนี้" สะสมไปเรื่อยๆ จนหนี้เป็นดินพอกหางหมู

ส่อ ฉ้อฉล ปล้น ลอกคราบ ประเทศโดยแท้!

-เงิน ธ.ก.ส. ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาท บอกเป็นเงินให้ ธ.ก.ส.สำรองจ่ายไปก่อน ไม่ได้กู้ ไม่มีดอกเบี้ย

ธ.ก.ส.เป็นธนาคารนะพ่อดอหอม

ชะๆๆๆ มีธนาคารที่ไหนในโลกบ้าง บอกด้วย ว่าตั้งขึ้นมาเพื่อให้เงินยืม ไม่มีดอก ไม่มีกำหนดว่า วัน/เดือน/ปีไหน ต้องคืน จะได้ไปยืมบ้าง?

ถ้ามีแบบนั้น ไม่ใช่ธนาคาร น่าจะเป็น "มูลนิธิเพื่อสงเคราะห์หมาในคอก" มากกว่า!

แต่งั้นก็เถอะ ยัง "ต้องเห่า-ต้องเลีย" ให้อยู่ดี

จุดที่ผมว่า "แจกนั้น-มันจบแล้ว" ก็ตรงที่ว่า...

ยืมเงิน ธ.ก.ส. ๑.๗๒ แสนล้าน ให้ ธ.ก.ส.แจกเกษตรกร ๑๗ ล้านคน นั่นแหละ "จุดเป็น-จุดตาย" รัฐบาลเศรษฐา-เพื่อไทย

ถามว่า "เป็นยังไง-ตายยังไง?

คำตอบง่ายมาก "เศรษฐา-เพื่อไทย" แก้ผ้าแทนแจกแก้บน นั่นพอได้อยู่เป็นรัฐบาลต่อ

แต่ถ้าเอาเงิน ธ.ก.ส.มาแจก "ฟ้าทะลายโจร" นั่นสมุนไพรทีเด็ด แก้ไข้-แก้ร้อนใน ของ "อภัยภูเบศร"

แต่ "ประชาชนทลายโจร" ละก็ เจอแน่ เม็ดเดียว "ถอนราก-ถอนโคน" รัฐบาลไปเลย

แต่นายกฯ รวมทั้ง ครม.อาจ "ไม่ติดคุก"

คนที่ติดแน่ คือ "บอร์ด ธ.ก.ส." ที่อนุมัติเงิน  ๑.๗๒ แสนล้านทดรองจ่ายให้รัฐบาลไปแจกตามสัญญาว่าจะให้ของเพื่อไทยนั่นแหละ!

"ทักษิณ" ว่าคนขี่เสือ แต่ "เศรษฐา" นี่ "ขี่คนขี่เสือ" อีกที

ฉลาดเป็นกรด ปกติรัฐมนตรีคลัง ต้องเป็นประธานบอร์ด ธ.ก.ส.

แต่ยกให้ "นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" เป็นประธานบอร์ด ธ.ก.ส.แทน

มีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นรองประธาน ส่วนกรรมการคนอื่นๆ ก็มี           

นายชาญวิทย์ นาคบุรี, นางภัทรพร วรทรัพย์  กระทรวงคลัง, นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้แทนกระทรวงเกษตรฯ

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์, นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ผู้แทน สนง.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

นางวิเรขา สันตะพันธุ์ ผู้แทนแบงก์ชาติ, นายสุนทร ตาละลักษณ์ ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น, นายจรูญเดช เจนจรัสสกุล ผู้ทรงคุณวุฒิ, นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง ผู้ทรงคุณวุฒิ

และ "นายฉัตรชัย ศิริไล" ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เป็น กก.และเลขานุการ

นี่แหละ ตอนลงมติ ใครเป็น "เสียงข้างมาก" ให้เอาเงิน ธ.ก.ส.ไปแจกประจบรัฐบาลละก็

ไปอ่าน พ.ร.บ.ธ.ก.ส.มาตรา ๙ (๓) และท้าย (๔) ที่ว่าด้วย "กฎกระทรวง" ซึ่งถึงขั้นคุกไว้ให้ดีด้วย!

เพราะอย่างนี้ เศรษฐาถึงเอาเก้าอี้คุกผูกโบมอบให้ รมช.จุลพันธ์นั่งแทน

ไปเอาเงิน ธ.ก.ส.มาแจก "ตกเขียว" ย้อนหน้า-ย้อนหลังให้เพื่อไทยน่ะ เศรษฐาและคนเพื่อไทย อยากได้

แต่ผมเชื่อตัวแทนแต่ละคนที่เป็นบอร์ด ธ.ก.ส. (ยกเว้นจุลพันธ์) ไม่มีใครอยากให้ ๙๙% และจะ "ไม่ให้" ด้วย   

โดยเฉพาะ "ฉัตรชัย ศิริไล" ผจก.ธ.ก.ส. นอกจากเก่ง ปราดเปรียวแล้ว ยัง "ฉลาดลึก" มีอนาคตไกล

เขาไม่ต้องการเป็นอย่างข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ที่ "คาคุก" อยู่ทุกวันนี้แน่!

จะให้รัฐบาลแฮฟเอาเงิน ๑.๗๒ แสนล้านไปแจกถูกต้องหรือไม่ มีกรอบให้บอร์ดยึดในการตัดสินใจตามนี้

-พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา  ๒๗, ๒๘, ๕๓ ซึ่งต้องใช้คู่กัน

-พ.ร.บ.เงินตรา กฎหมายงบประมาณ

-พ.ร.บ.ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ (ธ.ก.ส.)  มาตรา ๙ (๓)

-กฎกระทรวงเกษตรฯ

และ ธ.ก.ส.มีวัตถุประสงค์ระบุไว้ชัดเจน เพียงบอร์ดยึดเป็นหลักไว้ หมาเห่าได้ แต่กัดไม่เข้า

"มุ่งให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อส่งเสริมอาชีพการเกษตร หรือการดำเนินงานของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร

ตลอดจนส่งเสริมให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร  หรือสหกรณ์การเกษตร สามารถประกอบอาชีพอย่างอื่นที่เกี่ยวเนื่องในการเกษตร

เพื่อเพิ่มรายได้ ให้แก่ครอบครัวเกษตรกร  รวมทั้งให้บริการรับ ฝากเงิน เช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์"

ยึดเป็นนะโมตั้งไว้ แค่นี้ "โจรกระจอก" ก็หงายท้องแล้ว!

และตามมาตรา ๒๗, ๒๘, ๕๓ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ดูแล้วจะเห็นรูปธรรมโครงการที่จะนำเงินไปใช้ได้เลย ว่าต้องเป็นโครงการแบบไหน-เพื่ออะไร

จะตัด "เฉพาะวรรค-เฉพาะท่อน-เฉพาะคำ" ที่สนองตอบตัณหาตัวเอง แล้วอ้างอิงเพื่อล้วงควักเอางบประมาณไปไขว้เขวใช้ไม่ได้เลย

อย่างที่เศรษฐา อ้างมาตรา ๒๘ พ.ร.บ.วินัยการเงินฯ เพื่อลากโยงไปมาตรา ๙ (๓) พ.ร.บ.ธ.ก.ส. ตัดเอาตรงวลีว่า

".......หรือเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจหรือเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต"

เพื่อล้วงเอาเงิน ธ.ก.ส. ๑.๗๒ แสนล้านไปแจก อย่างนั้นไม่ได้ เพราะต้นมาตรา เขาบอกกลุ่มเป้าหมายที่จะเอาเงิน ธ.ก.ส.ไปปล่อยสินเชื่อไว้ชัดแล้วว่า

"ให้ความช่วยเหลือทางการเงินหรือการบริหารจัดการแก่บุคคล กลุ่มบุคคล ผู้ประกอบการ กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชน รวมทั้งองค์กรที่จัดตั้งขึ้นในรูปแบบใดที่มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการประกอบอาชีพของเกษตรกรหรือชุมชน"

แต่ดันเสือก "ตัดตอน" หยิบตอนท้ายความมาอ้างอิง เอา ๑.๗๒ แสนล้านของ ธ.ก.ส.ไปแจกเกษตรกรตามทะเบียนเฉยเลย ซึ่งมันคนละเรื่องกัน

แล้วมันผิดมาตรา ๕๓ พ.ร.บ.วินัยการเงินฯ ด้วยนะ

มาตรา ๕๓ บอกว่า รัฐบาลจะกู้เงินไปแจกได้เฉพาะกรณีจําเป็นเร่งด่วนและมีความต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ ที่ไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจําปีได้ทันเท่านั้น

การเลี่ยงให้ ธ.ก.ส.เอาเงินไปแจกเกษตร โดยอ้างมาตรา ๙ (๓) มันจำเป็นเร่งด่วนต่อเนื่องตรงไหน เป็นปัญหาวิกฤตประเทศ ที่ตั้งงบประมาณเพื่อการนั้นไม่ทันตรงไหน....หือ?

ดังนั้น ผมจึงฟันรั้ว ฟันหัวหมาแบะว่า

นัวเนียเลียเอาจากงบประมาณไปแจก พอยื้อได้

เอาจาก ธ.ก.ส. ถ้าบอร์ดเขาให้ รัฐบาลก็...สะด๊วบไป

เศรษฐา "ไม่ติดคุก"

แต่บอร์ดที่อนุมัติ "ติดแทน"!

ที่เศรษฐาอู้อี้เหมือนผีอำ ให้ ครม.หรือคลัง ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาพิจารณาแง่กฎหมายว่า "ทำได้-ไม่ได้" ครั้งที่ ๑๐๐ นั้น

อาการมันชัด เริ่มเตะลูกออก "ไม่อาววววดีกว่า มันคุกนี่หว่าาาา"

จะต้องไปหลอกต้มชาวบ้านเรื่องส่งกฤษฎีกาทำไม

ในเมื่อประชุม ครม.ทุกนัด กฤษฎีกาก็ต้องร่วมประชุมอยู่แล้ว ถ้าจริงใจ-แน่จริง ก็ถามให้กฤษฎีกาเขาตอบใน ครม.

ถาม "ปุ๊บ-รู้ปั๊บ" แล้วทำไมไม่ถาม?

"ล้มจอ" เลิกโครงการแจกแล้ว ก็บอกชาวบ้านเขาไป

ตั้งหน้า-ตั้งตาไปเข็น "กฎหมายกาสิโน" ดีกว่า

"แกร๊กเดียว" กี่หมื่นล้าน ง่ายกว่า

เชื่อผมเต๊อะ! 

-เปลว สีเงิน

๒๔ เมษายน ๒๕๖๗

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รัฐมนตรีถุงขนม' ๒

เมื่อวาน ........ นำคำสั่งคดี "นายพิชิต ชื่นบาน" ติดคุก ๖ เดือน กรณี "ถุงขนม" ตั้งเป็นโจทย์ให้ศึกษากันไปแล้ว

'รัฐมนตรีถุงขนม' ๑

อีกปัญหาหนึ่งของรัฐบาล "เศรษฐา ๒" คือการแต่งตั้ง "นายพิชิต ชื่นบาน" ที่เรียกกันว่า "ทนายถุงขนม" เป็นรัฐมนตรี!

'ผู้กำลังจะมากับดาว'

"ดาวพฤหัสบดี" เทพเจ้าแห่งคุณธรรม "ดาวปราบมาร" ย้ายบ้านจาก "เมษ" ไปอยู่ "พฤษภ" แล้ว เมื่อวาน (๓๐ เม.ย.๖๗) พฤษภ เป็นภพ "กดุมภะ" ของดวงเมือง

"จะแถกไปได้ซักกี่เดือน?"

เรา "เห็นอะไร"..... จากการลาออกจากตำแหน่ง "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ" ของท่าน "ปานปรีย์ พหิทธานุกร"?

ความหวังคนกรุง ยกระดับ'รถเมล์ไทย'

ปัญหารถโดยสารประจำทางหรือ”รถเมล์” ยังเป็นที่พูดถึงมาทุกยุคสมัย โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการเดินทางด้วยรถเมล์ ผู้โดยสารมีทุกกลุ่มทุกวัย ไม่ว่าจะคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา คนต่างจังหวัดมาทำงานในเมือง คนแก่ คนพิการ ที่ใช้บริการรถเมล์ไทยสู่จุดหมายทั่วมุมเมือง