แม้ว่ารัฐสภาสหรัฐฯจะเปิดไฟเขียวให้งบประมาณช่วยเหลือทางทหารก้อนใหม่ แต่ยูเครนก็ยังต้องดิ้นรนไม่ให้แพ้สงครามกับรัสเซีย
หลายสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงที่ยากลำบากในการพิสูจน์ว่าเมื่อได้ “ท่อน้ำเลี้ยง” จากวอชิงตันแล้ว จะสามารถสกัดกั้นการรุกคืบของทหารรัสเซียในสมรภูมิรบได้
สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาผ่านแพ็คเกจความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท) เมื่อสัปดาห์ก่อน
หลังยื้อกันมาหลายเดือนเพราะการต่อรองกันทางการเมืองในสภาคองเกรสสหรัฐฯ
มีผลให้ยูเครนโวยมาตลอดว่าถ้าสหรัฐฯไม่ต่อท่อความช่วยเหลือมาทันท่วงที รัสเซียจะชนะสงคราม
เชื่อกันว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ของอเมริกาจะเริ่มไหลเข้าสู่ยูเครนภายในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
“เวลาระหว่างการตัดสินใจทางการเมืองและความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อศัตรูในแนวหน้า ระหว่างการอนุมัติแพ็คเกจและการเสริมกำลังของนักรบของเรา จะต้องสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีออกมาตอกย้ำหลังสภาสหรัฐฯผ่านเงินช่วยเหลือก้อนใหญ่
ความช่วยเหลือที่สำคัญต่อการสู้รบรวมถึงอาวุธและกระสุน ได้เตรียมบรรจุในคลังแสงในโปแลนด์และจุดอื่นๆ ในยุโรปแล้ว... พร้อมจะขนส่งเข้าสู่สนามรบ
แต่สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะที่น่ากังวลสำหรับนักวิเคราะห์ด้านยุทธศาสตร์ในภาคสนาม
เพราะโอกาสที่กองทัพยูเครนจะเพลี่ยงพล้ำยังมีสูง
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โอเล็คซานเดอร์ เซียร์สกี เตือนว่าสถานการณ์ “แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด” หลังจากกองกำลังรัสเซียเพิ่มปฏิบัติการรุกตามจุดต่างๆ ในแนวหน้า 1,000 กิโลเมตร นับตั้งแต่ยึดเมืองอุตสาหกรรมอาฟดิฟกาในเดือนกุมภาพันธ์
สส. พรรครีพับลิกันฝ่ายขวาจัดในสภาสหรัฐฯพยายามขัดขวางการส่งความช่วยเหลือทางทหารในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้ทหารรัสเซียสามารถเสริมรุกหนักและยึดครองดินแดนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของยูเครนได้
นั่นหมายถึงการที่รัสเซียเป็นฝ่ายรุกหนักขึ้นและทหารยูเครนเป็นฝ่ายล่าถอยในหลาย ๆ สมรภูมิ
นักข่าวที่ไปถึงแนวหน้ายบอกว่าทหารยูเครนในหลายหน่วยรบยอมรับว่าโดนกระหน่ำอย่างหนักจากการโหมโจมตีของรัสเซียอย่างไม่หยุดยั้ง
การรุกหนักของฝ่ายรัสเซียมีผลให้ทหารยูเครนในหลายแนวรบต้องยอมรับว่าไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างสมสัดส่วน
นักข่าวฝรั่งบอกว่าไปคุยกับนายทหารยูเครนในแนวหน้าแล้วก็สัมผัสได้ถึงปัญหาขวัญกำลังใจไม่น้อย
“ผมหวังว่าเงินช่วยเหลือก้อนใหม่จากอเมริกาจะช่วยพลิกสถานการณ์ในสนามรบ” นายทหารยูเครนในแนวหน้าบอก
แต่ก็ยอมรับว่าแม้อาวุธชุดใหม่จากตะวันตกจะเริ่มไหลเข้าในเร็ว ๆ นี้โดยเฉพาะกระสุนปืนใหญ่และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศก็จะเป็นเพียงช่วยชะลอการรุกคืบของรัสเซียเท่านั้น
ยังไม่อาจจะหยุดยั้งกองทัพรัสเซียในแนวหน้าหลาย ๆ จุดได้
บางสำนักวิเคราะห์ว่าเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ก้อนใหม่จะสามารถซื้อเวลาให้ยูเครนได้ประมาณหนึ่งปี
แต่นักวิเคราะห์ด้านสงครามยังเชื่อว่าแม้จะได้รับความช่วยเหลือจากอเมริการอบใหม่แต่รัสเซียจะยังคงได้เปรียบด้านการมีกองกำลังปืนใหญ่ที่สร้างความเสียหายให้กับกองทัพยูเครนได้
ท้ายที่สุดจะอยู่ที่ว่างบประมาณก้อนใหม่จะสามารถซื้อหาอาวุธที่จำเป็นได้มากน้อยเพียงใด
และจะสามารถส่งมอบได้ทันกับสถานการณ์ที่ร้อนแรงในแนวรบหรือไม่อย่างไร
กฎหมายของสหรัฐฯ ที่ผ่านสภาระบุเฉพาะการจัดหาเงินทุนเพื่อซื้ออาวุธแต่ไม่ได้กำหนดจำนวนเงินที่วอชิงตันจะจัดหาให้ในแต่ละระบบของอาวุธ
เซเลนสกีกล่าวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ทหารยูเครนสามารถยิงปืนใหญ่ได้เพียง 1 นัดต่อทุก ๆ 10 นัดของศัตรู
เงินช่วยเหลือก้อนใหม่จากตะวันตกอาจจะช่วยลดช่องว่างนี้แต่ก็อาจจะไม่สามารถผลักดันให้ยูเครนขยับล้ำหน้ารัสเซียไปได้
แต่ความท้าทายที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าแสนยานุภาพทางอาวุธคือเรื่องกำลังคน
ทุกวันนี้ รัสเซียสามารถระดมทหารได้ประมาณ 30,000 นายในแต่ละเดือน ตามการประมาณการของสหรัฐฯ และยูเครน
อาจจะเพียงพอที่จะชดเชยการสูญเสียในสนามรบ แต่ก็ยังเป็นกำลังพลที่จำกัดหากมองไปข้างหน้าที่ต้องทำสงครามยืดเยื้อและพิชิตสงครามนี้ให้ได้
มาตรการผ่อนปรนเรื่องคุณสมบัติของทหารใหม่จึงเป็นหนึ่งในทางออก
เซเลนสกีเพิ่มลงนามในกฎหมายลดอายุในการระดมพลลงเหลือ 25 ปีจาก 27 ปี
อาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะถูกส่งมอบในอีกไม่กี่วันและสัปดาห์ข้างหน้าอาจช่วยปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพราะโครงสร้างทางทหารเหล่านี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักหรือถูกทำลายโดยขีปนาวุธและโดรนของรัสเซียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
เพราะในช่วงหลังนี้ ยูเครนขาดระบบต่อต้านอากาศยานที่เหนียวแน่นเพียงพอ
อาวุธใหม่ที่ทยอยส่งมอบจะรวมถึงขีปนาวุธ Patriot ซึ่งจะช่วยป้องกันการโจมตีทางอากาศระยะไกลของรัสเซีย
ในขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบพกพาหรือ MANPADS เช่น ระบบ American Stinger ก็อาจจะเสริมระบบป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย
ซึ่งจะช่วยป้องกันกองกำลังในแนวหน้าซึ่งเครื่องบินไอพ่นของรัสเซียเข้าโจมตีตำแหน่งของยูเครนมากขึ้น
แวดวงเสนาธิการทหารยูเครน เชื่อว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินอาจสั่งให้ทหารรัสเซียเข้ายึดจุดยุทธศาสตร์ชาซิฟ ยาร์ ก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม
เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่มอสโกเฉลิมฉลองชัยชนะของสหภาพโซเวียตเหนือนาซีเยอรมนี
หากยูเครนสูญเสียการยึดครอง ชาซิฟ ยาร์ก็จะทำให้ทหารรัสเซียสร้างความได้เปรียบในฐานะที่สามารถ “ควบคุมการยิง” เหนือเมืองยุทธศาสตร์ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง
เปิดทางให้รัสเซียสามารถเปิดการโจมตีครั้งใหม่ลึกเข้าไปในยูเครนได้
หากวิเคราะห์สถานการณ์จากแนวรบ และการขับเคลื่อนด้านการเมือง, การทูตและการเงินแล้ว จะเห็นว่ายูเครนก็ยังต้องเผชิญกับความผันผวนในวันข้างหน้าอีกไม่น้อย
สงครามยูเครนยังไม่มีทีท่าจะสงบได้ในเร็ววันแน่นอน!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อนาคตประเทศไทย ที่ยังเต็มไปด้วยอุปสรรค!
พอมองว่ารัฐบาลเศรษฐา 1/1 จะต้องวางยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจอย่างไรก็ต้องฟังความเห็นของผู้ที่ช่วยกันคิดว่าเราจะต้องทำอะไรบ้างจึงจะกระชากประเทศชาติจาก “กับดัก” รายได้ปานกลางที่เราติดอยู่ยาวนาน
ครม.เศรษฐกิจเศรษฐา 1/1: ปัญหาอำนาจเชิงซ้อน
คำถามใหญ่สำหรับ ครม. เศรษฐา 1/1 คือทีมเศรษฐกิจจะมีหน้าตาอย่างไร
ตัวชี้วัดเศรษฐกิจล้วนไปทางลบ... ท้าทายฝีมือ ครม. เศรษฐา 1/1
ตัวเลขชี้วัดเศรษฐกิจไทยที่โผล่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาล้วนเป็นข่าวชวนคิดและกังวล
ตัวแปรหลักในสงคราม คือ ‘เจ้าพ่อเมียวดี’
คนที่ชายแดนแม่สอดบอกว่า ถ้าอยากจะเข้าใจสถานการณ์ความขัดแย้งในเมียวดีต้องรู้จักคนชื่อ พันเอก หม่อง ชิตตู่
เวียดนามกวาดล้างโกงกิน ระดับนำร่วงคนที่ 3 ในปีเดียว
เวียดนามเขย่าระดับสูงอย่างต่อเนื่อง...เป็นการยืนยันว่าจะต้อง “ชำระสะสาง” ให้สามารถจะบอกประชาชนและชาวโลกว่ายึดมั่นเรื่องธรรมาภิบาลและความโปร่งใสอย่างจริงจัง
สี จิ้นผิงบอกบลิงเกน: จีน-มะกัน ควรเป็น ‘หุ้นส่วน’ ไม่ใช่ ‘ปรปักษ์’
รัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเกนไปเมืองจีนครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนเจอกับ “เล็กเชอร์” จากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเป็นชุด