Be Careful What You Wish For….Your Wishes May Come True

ปกติถ้าบอกว่า “รอดูผลอีก 9 เดือน” คงไม่ต้องอธิบายความหมายใช่ไหมครับ?

แต่สำหรับแฟนๆ TikTok ในสหรัฐอเมริกา ความหมายจะแตกต่างโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Joe Biden ได้ลงนามอย่างเป็นทางการให้บริษัท Bytedance ขาย TikTok ในสหรัฐภายใน 9 เดือน หรือถ้าจะยืดเวลาออกไป ก็ยืดออกได้อีก 3 เดือน (แต่ยืดได้แค่ครั้งเดียว) ถ้าไม่ขาย หรือขายไม่ได้ TikTok ในสหรัฐจะถูก Ban ทันทีครับ

ผมไม่แน่ใจว่าจะใช้คำพูดไหนถูกกว่ากัน ระหว่าง Bytedance ต้องขาย TikTok ในสหรัฐ หรือ TikTok (ในสหรัฐ) ต้องแยกตัวออกจาก Bytedance ให้ได้? เพราะสหรัฐไม่ได้มีมาตรการคว่ำ TikTok เพราะความเป็น TikTok แต่มีมาตรการคว่ำเพราะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน Bytedance มากกว่า

TikTok ถือว่าเป็นเป้าของสหรัฐเป็นเวลานานพอสมควร อะไรที่เป็นภัยต่อสังคมด้านโซเชียล TikTok มักจะเป็นศัตรูหมายเลข 1 ในสายตาบรรดานักการเมือง หน่วยงานรัฐ และสื่อของสหรัฐ ไม่ได้หมายความว่า Facebook Yahoo หรือ Google จะเป็นวีรบุรุษ และไม่เคยโดนด่าอะไร เขาโดนของเขาหนักพอสมควร แต่ไม่ถึงขั้น TikTok

เมื่อพูดถึง TikTok ในสหรัฐ ภัยต่อสังคมผ่านสายตาผู้มีอำนาจ คือข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกที่อาจถูกเผยแพร่ให้กับรัฐบาลจีน หรือใครก็แล้วแต่ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่โปร่งใส ที่ TikTok เป็นเป้าถือว่าเป็นเรื่องยุติธรรมหรือไม่ อันนี้ต้องเถียงกันยาว (ทางสหรัฐคงคิดอยากหาโอกาส Ban อะไรของจีนบ้าง เหมือนที่จีน Ban Google/Facebook ในจีน)

ถึงแม้ Biden จะลงนามเป็นกฎหมายแล้วก็ตาม ในการที่ TikTok จะต้องรีบหาคนซื้อกิจการในสหรัฐทันทีนั้น ยังไม่จำเป็นครับ เพราะทาง TikTok ประกาศว่าจะฟ้องกลับ เพราะเห็นว่าเขาถูกกลั่นแกล้ง และการให้ TikTok เป็นศัตรูหมายเลข 1 ในสายตาหน่วยงานรัฐ เลยถูกบีบบังคับให้ต้องขายกิจการ ขัดต่อเจตนารัฐธรรมนูญสหรัฐ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของตน และสมาชิกของตน

ในอดีต TikTok เคยถูก Ban ในรัฐ Montana แต่ทาง TikTok ได้ฟ้องร้องกลับว่าถูกกลั่นแกล้ง และเป็นคำสั่งไม่ยุติธรรม ซึ่งเป็นการฟ้องกลับที่สำเร็จ เลยไม่ถูก Ban Montana ครับ แต่ล่าสุด Montana ได้อุทธรณ์คำสั่งศาล เรื่องเลยยังไม่จบ

ทั้ง 2 สภาของสหรัฐมีความเห็น (หรือจะเรียกว่าความเชื่อ) ว่า TikTok เป็นภัยต่อสังคมอเมริกัน ไม่ใช่เฉพาะเรื่อง เอาข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกไปอยู่ในมือของจีนอย่างเดียว แต่เขาเห็น (เชื่อ) ว่าอิทธิพลของ TikTok จะเปิดโอกาสให้รัฐบาลจีน (และ/หรือรัฐบาลอื่นที่ไม่เป็นมิตรต่อสหรัฐ) มีช่องทางเผยแพร่ข้อมูล และดีไม่ดี ช่องทางล้างสมองคนอเมริกันจำนวนมากผ่าน TikTok ซึ่งสมาชิกทั้ง 2 สภาอ้างรายงานลับเรื่องนี้โดยตรง แต่ข้อมูลในรายงานไม่เคยถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ

อีกความเชื่อของสมาชิกทั้ง 2 สภา คือ TikTok เป็นเครื่องมือการล้างสมองคนอเมริกัน อ้างว่าช่วงแรกสงครามอิสราเอลกับฮามาสจะมี content โจมตีและด่าอิสราเอลอย่างหนักผ่าน TikTok เลยรวมตัวกันออกกฎหมาย Ban TikTok ในสหรัฐให้ได้ (หรือถ้าพูดตรงๆ คือ…จนได้)

จากนี้นับไปอีก 9 เดือน (หรือยืดออกไปอีก 3 เดือน) TikTok มี 2 ช่องทางครับ ช่องทางแรก ตามประกาศของ CEO TikTok คือฟ้องกลับ และรอดูว่าศาลจะว่าอย่างไร แต่เขาคงรู้สึกมั่นใจเพราะมีบรรทัดฐานจากรัฐ Montana อยู่ แต่ถ้าสมมุติว่าฟ้องไม่สำเร็จ Bytedance ต้องขาย TikTok ให้กับใครก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่คนจีน หรือมีความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน ซึ่งก็แล้วแต่อีกครับ ถ้า Bytedance เลือกขายให้กับคนรัสเซีย ทางสหรัฐจะห้ามไหม? ถ้าเจ้าของใหม่ของ TikTok กลับ “แย่” กว่าเจ้าของปัจจุบัน สหรัฐจะทำยังไงต่อครับ?

เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเข้าข่าย Be careful what you wish for อย่างแรง

Be careful what you wish for คือสถานการณ์ที่คนผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลง จากปัจจุบันที่ไม่พอใจ หรือเปลี่ยนแปลงเพื่อเปลี่ยนแปลง เพราะเบื่อกับปัจจุบัน หรือกลัว (ไปเอง) ปัจจุบันจะนำพาไปทางไหนไม่รู้ เลยอยากเปลี่ยนแปลง เพราะคิดว่าเปลี่ยนปัจจุบันจะแก้ไขปัญหาและนำไปสู่ทางที่ดีกว่า

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีครับ

แต่ถ้าแก้ไขปัจจุบันเพื่อบังคับอนาคต แต่กลายเป็นอนาคตที่แย่กว่า อันนั้นคือ Be careful what you wish for แท้ๆ

บทเรียนที่เห็นชัดคือ สถานการณ์ปัจจุบันในไทยเราครับ คนที่เชียร์ให้ทหารยึดอำนาจ บริหารบ้านเมือง ร่างรัฐธรรมนูญ วางกฎกติกา และเชียร์สมาชิกวุฒิสภา กันไม่ให้พรรคที่คุณชอบบริหารประเทศ ไม่มีสิทธิ์บ่นหรือต่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นอยู่ เพราะเป็นสิ่งที่คุณมีส่วนร่วมให้เป็นครับ….Be careful what you wish for….your wishes may come true.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การประท้วงตามมหาวิทยาลัยในสหรัฐ (ตอนที่ 1)

อุณหภูมิบ้านเรามันร้อนเหลือเกินครับ ไปไหนมาไหนมีแต่คนพูดถึงความร้อน ซึ่งมันก็ร้อนจริงๆ แต่ยังโชคดีที่สัปดาห์หน้า อุณหภูมิจะไม่ร้อนระอุเหมือนที่ผ่านมา จากอุณหภูมิร้อนระอุจะกลับสู่ภาวะร้อนธรรมดา ก็ยังดีครับ

Sending a Message หรือ The Calm Before the Storm?

เมื่อสัปดาห์ก่อน ช่วงเวลาที่พวกเราสนุกและพักผ่อนกันเต็มที่ช่วงสงกรานต์นั้น มีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันเกิดได้ทุกเมื่อ และในที่สุดก็เกิดขึ้นจริงๆ ครับ

หลานชายคุณปู่

สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ช่วงเขียนคอลัมน์นี้ ผมยังอยู่ที่บ้านเฮา เจออากาศทั้งร้อนมากและร้อนธรรมดา เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเขียนเรื่องการขับรถขึ้นมาบ้านเฮากับลูกสาว

หลานคุณปู่

คอลัมน์สัปดาห์นี้กับสัปดาห์หน้า น่าจะเป็นคอลัมน์เบาๆ ครับ ผมเชื่อว่าแฟนๆ ครึ่งหนึ่งน่าจะหนีร้อนในไทยไปสูดอากาศเย็น (กว่า) ที่อื่น ส่วนใครที่ไม่ไปไหน คงไม่อยากอ่านเรื่องหนักๆ

'แก๊ง'ล้มรัฐบาลได้ด้วยเหรอ? (ตอน 2)

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมเขียนเรื่องราวแก๊งที่ผมสัมผัสและรู้จักสมัยอยู่สหรัฐ สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงแนว Gangster Rap ก็คงจะคุ้นเคยกับสิ่งที่ผมเขียนไป แต่สำหรับหลายท่านที่เติบโตคนละยุคคนละสมัยอาจไม่คุ้นเลย

'แก๊ง'ล้มรัฐบาลได้ด้วยเหรอ? (ตอน 1)

ผมมีความรู้สึกว่า ช่วงนี้มีข่าวประเภทแก๊งมีอิทธิพลในประเภทประเทศเอลซัลวาดอร์ โคลอมเบีย และเม็กซิโก มีผลต่อเสถียรภาพการเมืองระดับชาติประเทศเขา