แบงก์ชาติ "ภาคเอกชน"

"แบงก์ชาติ" ประหนึ่ง "เจ้าหญิงนิทรา"

เธอ "ตื่นแล้ว" วันนี้

ตื่นในความสนใจผู้คนผู้มีต้นทุนรักต่อเธอ

ต่างปรารถนา ทะนุถนอม พร้อมปกป้อง มิให้เธอต้องชอกช้ำได้ แม้เพียงตีนแมลงโสโครกสัมผัส!

ก็ต้องขอบคุณ "คุณอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร" กันให้มากๆ นะ

เพราะถ้าเธอไม่โชว์ "ผลึก" วิสัยทัศน์....

"แบงก์ชาติเป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ"

แบงก์ชาติก็จะนิทราเรื่อยไป

"ไม่รู้วันตื่น" ในหัวใจผู้คน ว่าในหัวอก ซ่อนปรารถนาเยี่ยงใดไว้ ต่อการทำหน้าที่

"แบงก์ชาติ-เพื่อมาตรฐานการเงินชาติ"

หรือ "แบงก์ชาติ-เพื่้อการเมืองกินชาติ"?

ตอนนี้ก็ชัดแล้วว่า "มาตรฐานประเทศ" ผ่าน "มาตรฐานประชาชาติ"

มิใช่ต้องการให้ฝ่ายการเงินคือ "แบงก์ชาติ" อยู่เหนือฝ่ายการคลัง คือ "รัฐบาล"

เท่ากับมิใช่ต้องการให้ฝ่ายการคลัง คือ "รัฐบาล" เอาการเมืองไปอยู่เหนือ "แบงก์ชาติ"

นั่นคือ ในคำว่า "อิสระ" ของแบงก์ชาติ

ไม่ได้หมายความว่า "ฝ่ายการคลัง" คือรัฐบาล จะเข้าไปแตะ "ฝ่ายการเงิน" คือแบงก์ไม่ได้เลย

แตะได้...

และในทางที่ควร คลังกับแบงก์ชาติ ก็ควรต้องทำงานแตะซึ่งกันและกัน บนเป้าหมายเดียวกัน

คือสร้างสรรค์ พัฒนา วางระบบและบริหารเศรษฐกิจการเงิน-การคลัง ให้ประเทศมั่งคั่ง มีมาตรฐาน ประชาชนศานติสุข     

ต้องเข้าใจกันว่า "รัฐมนตรีคลัง" มีอำนาจปลดและเสนอคนแต่งตั้งเป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติได้

ทั้ง "บอร์ดบริหารแบงก์ชาติ" ๑๑-๑๒ คน ดูตามที่มาแล้ว กว่าครึ่ง มาจากฝ่ายการเมือง คือ "คนรัฐบาล"

และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ๗ คน เป็นคนแบงก์ชาติแค่ ๓ อีก ๔ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก

ก็จะเห็นว่า "แบงก์ชาติ" ไม่ได้เป็น "รัฐอิสระ" อะไรเลย!

การเมือง คือ "รัฐบาล" คุมอยู่ด้วยซ้ำ

ด้วยเสียงคนฝั่งรัฐบาลในแบงก์ชาติ มากกว่าคน "เลือดเนื้อเชื้อแบงก์ชาติ" โดยตรง

ดังนั้น ใครมองว่า "แบงก์ชาติอิสระ" แล้วคิดแก้กฎหมาย หวังจับเข้าคอก ให้แบงก์ชาติเป็น "หมาในคอก" ละก็

"รัฐบาลนั้น-คนนั้น" ถ้าไม่บ้า ก็งั่งเต็มขั้น

ถ้าไม่บ้า ไม่งั่ง

ก็แสดงว่า "เล่ห์ลึกล้ำ" ไปถึงสมบัติใน "ท้องพระคลัง"

มีทอง "ผ้าป่าช่วยชาติ" ขององค์หลวงตา "พระมหาบัว ญาณสัมปันโน" เก็บอยู่ตั้ง ๑๓,๑๑๗.๓๕๑.๕ กิโลกรัม!

ก็เคลียร์ชัดไป ๒ ประเด็นแล้วนะ คือ

๑.แบงก์ชาติ ไม่ใช่รัฐอิสระ

๒.รัฐบาล-แบงก์ชาติ ต้องทำงานร่วมกัน

๓.รัฐมนตรีคลัง ปลดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติได้

ประเด็นต่อไป....

ถ้าอย่างนั้น ทำไม "แบงก์ชาติ" จึงไม่สนองนโยบาย "กู้มาแจก" ของรัฐบาล "เศรษฐา-เพื่อไทย" เขาล่ะ?

สนอง-ไม่สนอง "ไม่เป็นปัญหา" เท่าว่าเรารู้ "ปัญหา" ในระยะปานกลางและระยะยาวของประเทศเราก่อนหรือยัง

"นโยบายรัฐบาล" เลือกตั้งน่ะ....

มักทำเพื่อตอบโจทย์ "การเมืองฉวยกิน" ระยะสั้น แล้วทิ้งเปลือกให้เป็นปัญหาทาง "หนี้สาธารณะ" ประเทศ

สบน. (สำนักบริหารหนี้สาธารณะ) รายงานไว้

"หนี้สาธารณะ" คงค้าง ถึงปี ๖๖ คิดเป็น ๖๒.๔๔% ของ GDP เหลือเพดานให้สร้างหนี้ "ต้องไม่เกิน ๗๐%" อีกไม่เท่าไหร่

ในภาคประชาชน.....

หนี้ครัวเรือนของไทยขณะนี้ สูงขนาดไหน รู้มั้ย...ร่วม ๒๐ ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP ประเทศ มันสูงกว่า ๙๐% แล้ว!

ประเด็นต้องคิด ทั้งหนี้สาธารณะจากภาครัฐและหนี้ครัวเรือนของชาวบ้าน

ขืนปล่อยให้รัฐบาลออกนโยบายประชานิยม ประเภทเอางบประมาณบ้าง กู้บ้าง แจกเพื่อกินแล้วขี้ แทนที่จะใช้สร้างคน-สร้างงาน เป็นเศรษฐกิจยั่งยืน

มันก็จะฉิบหายทั้ง ๒ ทาง งบประมาณต้องกู้ทุกปี แถมกู้แฝงรัฐวิสาหกิจ หนี้สาธารณะก็จะท่วม

เกิดกรณีฉุกเฉิน เช่น น้ำท่วม แผ่นไหว ซึ่งปลายปีนี้ "เกิดแน่"

แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายล่ะ?

ถ้าหนี้สาธารณะเกินเพดาน ๗๐ เครดิตประเทศจะ "ถูกหั่น" กู้ที่ไหน ดอกเบี้ยก็แพงขึ้น เมื่อฐานะประเทศไม่เสถียร

"มาตรฐานไทย" ที่เพียรสร้าง-เพียรรักษา

ก็จะเข้ามาตรฐาน "เวเนซุเอลา" ประทับตรา "เศรษฐา-เพื่อไทย" กู้มาแจก!

ด้าน "หนี้สินครัวเรือน" สูงระดับนี้ มองเห็นว่า ขืนไม่แก้ไข                  สังคมประเทศจะติดกับดักหนี้สิน "กู้มากินเพื่อขี้ทิ้ง" จากภาระครัวเรือน เป็น "ภาระถ่วงชาติ" ชนิดมองหาจุดจบไม่เจอทันที

เงินจะไหลไปจุกอยู่ที่พวก "คนรวย-ธุรกิจใหญ่" หมด

ส่วน "หนี้สิน-ความจน" จุกอยู่ที่คนไทย "๔๐-๕๐ ล้านคน" ทั้งหมด

ทุกวันนี้ ดูตัวเลขแล้วจะตกใจ

-การลงทุนภาครัฐ ไม่มี (มีแต่ขมิบไว้แจกหาเสียง)

-ภาคเอกชน ลดการลงทุน

-เงินทุนนอกไหลเข้า มีแต่ตัวเลข ยังไม่มีตัวเงิน

-การผลิตทั้งระบบลดลง ส่งออกก็ลดตามเป็นเงา

-เหลือ "การท่องเที่ยว" ตัวเดียว ที่เป็นชีพจรเต้นอยู่

และโปรดรู้ และตระหนักกันไว้ด้วย....

ในขณะที่ "เศรษฐกิจ" ทุกขาในประเทศมีแต่ลดลง

ที่เพิ่มขึ้นก็มี แต่มันคืออะไร...รู้มั้ย?

คนไทย "รูดบัตรเครดิต" เอาเงินที่ไม่มีในอนาคตมาใช้ในปัจจุบัน "เพิ่มสูงขึ้น" กว่าเท่าตัว ติดต่อกันมาร่วม "ครึ่งปี" แล้ว!

รูด...รูด...ทั้งที่ตัวเองก็รู้ ถึงเวลาก็ "ไม่มีจ่าย"

แบบนี้ "สุดท้าย" จะจบแบบไหน คงไม่ต้องบอกกระมัง!

เพิ่มตัวที่สอง ดอกเบี้ยไทย ๒.๕๐% แหกปาก บอกว่าสูง ทั้งบีบ-ทั้งเคล้น ให้แบงก์ชาติลด

แต่ขณะเดียวกัน ดอกเบี้ยสหรัฐ ๕.๒๕-๕๐% นักลงทุน พากันขายพันธบัตร เทขายหุ้นไทย

ขนเงินจากดอกเบี้ยร้อยละ ๒.๕๐ ออกไปซื้อพันธบัตรสหรัฐที่ได้ร้อยละ ๕.๒๕-๕๐

ปี ๖๖ ปีเดียว ต่างชาติเทขายหุ้น ขนเงินออกไป ๒ แสนกว่าล้านบาท

ดอกเบี้ยสหรัฐ "จะคง-จะลด" ก็ต้องไปดูเดือนกันยา.หรือไม่ก็พฤศจิกา. "เลือกตั้งประธานาธิบดี" โน่น

ฉะนั้น ช่วงนี้ของปี ๖๗ ต่างชาติจะขายพันธบัตร-ขายหุ้น ขนเงินกลับไปเข้าตลาดพันธบัตรสหรัฐอีกเท่าไหร่ ก็ยังไม่รู้

เพิ่มตัวที่สาม รู้แล้วจะตกใจ!

"นักธุรกิจ-เศรษฐีไทย" ขนเงินออกไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเขา โดยไปซื้อพันธบัตรสหรัฐบ้าง ซื้อหุ้นสหรัฐ-ยุโรปบ้าง

กว่า "๘ แสนล้านบาท"!

เงินเศรษฐีไทยที่หมุนออกไป ขณะนี้ ยังไม่หมุนกลับเข้ามา

เนี่ย สถานการณ์ "เศรษฐกิจ-การเงิน-การลงทุน" บ้านเรา หยาบๆ มันสภาพนี้

เราก็ลองสมมุติตัวเองเป็น "ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ดูก็ได้ ในฐานะผู้ต้องรักษา "เครดิตประเทศ"

"เงินบาท=เสถียรไทย"

นโยบายลักษณะ "ผลาญชาติเพื่อหาเสียง" เอาเงินตั้ง ๕ แสนล้าน ไปเล่น "ผีผ้าห่ม" ขย่มกันทั้งขึ้น-ทั้งล่องเห็นๆ อย่างนี้

ทางมโนธรรมสำนึก "ผิดหรือถูก"

ทางกฎหมาย "ผิดหรือถูก"

แล้วเรา..ในฐานะผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ จะยอมสนองการเมืองให้เขายำประเทศ เพียงเพื่อก้นตัวเองยังมีเก้าอี้ให้นั่งอย่างนั้นหรือ?

ผู้ว่าฯ ไม่ได้ค้านการแจก แต่ท่านให้แจกตามเหตุปัจจัยจำเป็น คือ "กลุ่มเปราะบาง" ซึ่งใช้เงินแสนกว่าล้าน

ใช้แอปที่มีอยู่ ไม่ต้องทำใหม่

เอาเงินใส่ไปเลย ถึงแน่-ได้ใช้ชัวร์ ไม่ต้องไปเล่นแร่-แปรธาตุเป็นโทเคน แจกผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต เหมือนการเล่นกล "มีเงินหล่นหาย" อะไรนั่นหรอก

แต่ไม่ "ตรงใจ-ตรงแผน" เศรษฐา-เพื่อไทย ที่ ๘ เดือนไม่เป็นอันทำอะไร หมกมุ่นจะเอากันแต่ ๕ แสนล้านไปแจก

วันนี้ "ไม่หนุก" เพราะเรื่องมันหนักไปหน่อย

งั้น "จบดีกว่า"

พรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันใหม่ เอากันให้ถึงขั้น "ตั้งแบงก์ชาติ" ภาคเอกชน เป็นงาแซง "ธนาคารแห่งประเทศไทย"

เอาให้มันเหมือน Fed "แบงก์ชาติสหรัฐ"  แต่ "เอกชน" เป็น "เจ้าของ" ไปเลย!.

-เปลว สีเงิน

๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เวลา 'กับปัญหา' รอระเบิด

"หายไปวัน" ก็ไม่ได้ไปไหน "ไข้ทับหัวฝน" ปนเปกับ "โรคขาประจำ" มันจรมาเยี่ยมพร้อมๆ กัน เลยต้องนอนต้อนรับเขาหน่อย

ทัพเรือ 'กระแอม-กระไอ'

"เศรษฐาทัวร์"ออกเดินทางไป "ฝรั่งเศส-อิตาลี-ญี่ปุ่น" วันนี้ หนึ่งในภารกิจสำคัญเพื่อชาติ ครั้งนี้

"แผ่นดินประเทศ" อ่อนล้า

หมู่นี้ "รัฐบาลเศรษฐา" ออกอาการแกว่งๆ ชอบกล!? แกว่งทั้ง "พรรคร่วม-พรรคแกน" จนหาทิศทางประเทศไม่เจอ