
ผู้นำสิงคโปร์คนใหม่ลอเรนซ์หว่องกับนายกฯอันวาร์อิบราฮิมของมาเลเซียพบกันอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา...และตอกย้ำว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า “ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน”
ความเป็นเพื่อนบ้านที่แนบแน่นทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ แม้จะมีเรื่องระหองระแหงเหมือนลิ้นกับฟัน แต่ทั้งสองประเทศก็ไม่อาจจะมีรอยร้าวต่อกันได้
เพราะเสียหายทั้งคู่
พบกันวันก่อนทั้งสองยืนยันว่าจะมีความต่อเนื่องในแง่ของแนวทางความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
“สำหรับผม สิ่งที่สำคัญในช่วงเริ่มต้นนี้ เพิ่งเข้ามารับช่วงต่อ ไม่ใช่การพูดถึงลำดับความสำคัญในแง่ของโครงการหรือวาระการประชุมมากนัก แต่ต้องให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของกันและกันและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนายกรัฐมนตรี อันวาร์ นายกรัฐมนตรีของผม เพราะความไว้วางใจคือทุกสิ่งทุกอย่าง
“เมื่อมีความไว้วางใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างผู้นำ เราสามารถทำหลายๆ อย่างให้สำเร็จได้” หว่องบอกเพื่อนผู้พี่จากมาเลเซีย
อันวาร์ต้อนรับหว่องด้วยการเลี้ยงข้าวกลางวันที่อาคารเสรีเปอร์ดานา ซึ่งเป็นบ้านพักอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
ถือเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว
หว่องบอกว่าอันวาร์เป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่โทรหาเขาเช้าวันที่หลังจากที่เขาสาบานตนแสดงความยินดี
“เรากำลังสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งมากจากรุ่นก่อนๆ ” หว่องกล่าว
“นายกรัฐมนตรีอันวาร์มีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างยิ่งกับนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ซึ่งปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีอาวุโส และผมกำลังต่อยอดความสัมพันธ์นั้นและสานต่อความสัมพันธ์นั้นในระดับผู้นำ”
ความสำคัญของการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเพื่อนบ้านคือการสร้างกลไกทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ระดับ
เพราะเพียงแต่ระดับผู้นำเท่านั้นไม่อาจจะสร้างความสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพเหนียวแน่นได้
และไม่เพียงแต่จะเน้นเรื่องเก่าเท่านั้น แต่ยังต้องขยายความร่วมมือไปในด้านใหม่ ๆ
หว่องใช้คำว่า “the right spirit” ซึ่งมีความสำคัญมากในการทำให้สองประเทศทำงานร่วมกันอย่างจริงใจและจริงจังเ
เพราะมันแปลว่า “จิตวิญญาณที่ถูกต้องและตรงกัน”
และเน้นความร่วมมือที่ครอบคลุมถึงภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคประชาสังคม และมหาวิทยาลัยด้วย
เพราะลำพังแค่รัฐมนตรีและข้าราชการติดต่อกันอย่างเป็นทางการ ก็มิอาจจะสร้างความแน่นแฟ้นในทุก ๆ มิติได้
โครงการร่วมของสองประเทศที่หว่องเรียกว่า "ผู้เปลี่ยนเกมสำคัญ" หมายรวมถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์-สิงคโปร์ (SEZ) ที่กำลังจะมีขึ้น
และการเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนด่วนยะโฮร์บาห์รู-สิงคโปร์ (RTS)
แต่ทั้งสองผู้นำก็รู้ดีกว่าสองประเทศมีการแข่งขันกันในหลาย ๆ ด้าน
นายกฯสิงคโปร์บอกว่าแม้ว่าผู้คนจะพูดถึงการแข่งขันทางเศรษฐกิจระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซียค่อนข้างหนาหู แต่ทั้งสองประเทศก็เสริมซึ่งกันและกัน
และการแข่งขันระดับใหญ่กว่านั้นอยู่นอกเหนือพลวัตของสิงคโปร์-มาเลเซียและอยู่นอกภูมิภาค
"ในความเป็นจริง เรามีความคล้ายคลึงมากกว่าความแตกต่าง เราเป็นสองประเทศที่มีความผูกพันกันอย่างยั่งยืนทั้งในด้านวัฒนธรรม เครือญาติ และประวัติศาสตร์ เราทั้งสองมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมที่เปิดกว้างมากขึ้นบนพื้นฐานของธรรมาภิบาลและความสามัคคีในสังคม" หว่องกล่าว
ใช่ว่ามาเลเซียกับสิงคโปร์จะไม่มีข้อพิพาทที่ยังรอการแก้ไขอยู่
ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องน่านน้ำ น่านฟ้า และชายแดนทางทะเล
“ไม่ว่าความแตกต่างใดๆ ที่เราอาจมีในประเด็นเหล่านี้ ไม่ควรส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์โดยรวม และไม่ควรเบี่ยงเบนไปจากความเป็นไปได้ในการแสวงหาความร่วมมือด้านใหม่ๆ” หว่องย้ำ
นักข่าวถามว่ามีกรอบเวลาในการจัดการกับประเด็นเรื่องที่ยังค้างคาใจกันอยู่หรือไม่ อันวาร์ตอบทันควันว่า
“ความจริงควรจะแก้ไขมันไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานด้วยซ้ำ”
ทั้งสองประเทศกำลังคุยกันเรื่องรถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อมต่อกัน
แม้จะมีความเห็นแย้งกันอยู่ แต่ผู้นำเพื่อนบ้านทั้งสองก็ต้องพิสูจน์ให้ประชาชนของตนเห็นว่าต้องสามารถเคลียร์กันให้ได้
เพราะเศรษฐกิจของสองประเทศนี้ผูกพันกันอย่างเหนียวแน่น
ใครจะเล่นแง่อย่างไรในอดีต วันนี้ก็ต้องหาทางประสานกันเพื่ออนาคตเท่านั้น
โครงการรถไฟความเร็วสูงของทั้งสองชาติมีเป้าหมายเพื่อลดเวลาการเดินทางระหว่างสิงคโปร์และกัวลาลัมเปอร์ให้เหลือประมาณ 90 นาที
แต่ที่ผ่านมาก็มีอุปสรรคอยู่ไม่น้อย
เพราะเคยถูกยกเลิกแล้วหลังจากการเลื่อนหลายครั้งตามคำร้องขอของฝั่งมาเลเซีย
ถึงจุดหนึ่งถึงกับประเทศยกเลิกเมื่อเดือนธันวาคม 2563
ต้องคอยดูว่าผู้นำใหม่ทั้งสองจะหาทางฟันฝ่าอุปสรรคเรื่องนี้อย่างไร
อีกเรื่องหนึ่งคืออาเซียน
หว่องบอกว่าสิงคโปร์จะสนับสนุนมาเลเซียอย่างเต็มที่ในการดำรงตำแหน่งประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในปีหน้า
“เราหวังว่าจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดวาระที่ทะเยอทะยานและมองไปข้างหน้าสำหรับอาเซียนในอีก 10 ถึง 20 ปีข้างหน้า” เขากล่าว
หว่องบอกว่าสิงคโปร์และมาเลเซียกำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่อาเซียนควรทำในหลาย ๆ ด้านเพื่อเสริมสร้างการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจให้เป็นประชาคมเดียวกัน
ผู้นำสิงคโปร์คนใหม่ต้องข้อสังเกตว่าอาเซียนมีความก้าวหน้าในหลาย ๆ มิติในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
แต่ยังไม่พอ เขาเชื่อว่า "ยังมีขอบเขตอีกมากสำหรับเราที่จะมารวมตัวพลังเพื่อทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น"
ก้าวต่อไปของสองเพื่อนบ้านที่เป็นเพื่อนบ้านไทยด้วยมีความหมายต่อย่างก้าวของไทยอย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

