
การคาดการณ์ว่าจีนจะบุกไต้หวันหรือไม่...และจะบุกเมื่อไหร่เป็นหัวข้อของการถกแถลงที่ร้อนแรงที่สุดเรื่องหนึ่ง
โดยเฉพาะในหมู่นักวิเคราะห์ด้านยุทธศาสตร์ระดับสากล
เพราะทั้งฝ่ายจีนและตะวันตกต่างก็ต้องประเมินสถานการณ์เพื่อการเตรียมพร้อมของฝ่ายตน
และเพื่อวัดกำลังของอีกฝ่ายหนึ่ง
ทั้งสองฝ่ายคงต้องการจะสร้างอำนาจต่อรองเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องทำสงคราม
แต่ในท้ายที่สุดปัจจัยสำคัญว่าจีนจะบุกไต้หวันหรือไม่ หรือไต้หวันจะยั่วยุถึงจุดไหนจึงจะทำให้ปักกิ่ง
ตัดสินใจว่า “ข้ามเส้นแดง” แล้วคงจะอยู่ที่หลายปัจจัยที่เกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับปักกิ่งเป็นสำคัญ
จะว่าไปแล้ว สถานการณ์ที่จีนอาจยกพลขึ้นบกเพื่อยึดไต้หวันอาจมีความซับซ้อนและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการ
รวมถึงการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และ “พลวัตระหว่างประเทศ”
ผมรวบรวมแนวทางวิเคราะห์ของนักยุทธศาสตร์ที่เกาะติดสถานการณ์ที่น่าสนใจดังนี้:
- ความไม่มั่นคงทางการเมืองในไต้หวัน
ฉากทัศน์ที่ว่านี้คือไต้หวันประสบกับความไม่มั่นคงทางการเมืองอย่างมาก เช่น วิกฤตการปกครองหรือความไม่สงบทางสังคมครั้งใหญ่
รัฐบาลไต้หวันที่อ่อนแอลงอาจเปิดโอกาสให้จีนเข้าแทรกแซงภายใต้ข้ออ้างในการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยหรือปกป้องผลประโยชน์ของตน จีนอาจอ้างความจำเป็นในการปกป้องสิทธิของพลเมืองจีนหรือการลงทุนของจีนในไต้หวัน
- คำประกาศอิสรภาพของไต้หวัน
สมมุติว่าไต้หวันประกาศเอกราชจากจีนอย่างเป็นทางการ
นั่นแปลว่าไต้หวันตัดสินใจ “ข้ามเส้นสีแดง” ของปักกิ่ง จีนกล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าการเคลื่อนไหวใด ๆ ไปสู่เอกราชอย่างเป็นทางการของไต้หวันจะกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางทหาร การประกาศเอกราชอาจก่อให้เกิดการรุกรานทันทีในขณะที่จีนพยายามยืนยันการอ้างสิทธิ์เหนือไต้หวัน
- หรือสหรัฐฯลดความมุ่งมั่นที่จะปกป้องไต้หวัน
นั่นจะมากจากสัญญาณใด ๆ ว่าสหรัฐอเมริกาแสดงความมุ่งมั่นในการปกป้องไต้หวันลดลงอย่างมาก
หากจีนรับรู้ว่าสหรัฐฯ ไม่เต็มใจหรือไม่สามารถปกป้องไต้หวันได้ ปักกิ่งอาจมองว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดำเนินการ การขาดการสนับสนุนที่เข้มแข็งจากสหรัฐฯ อาจทำให้จีนมีกำลังใจที่จะใช้กำลังทหารโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีการแทรกแซงจากอเมริกาอย่างมีนัยสำคัญ
- ความเหนือกว่าทางยุทธศาสตร์ทางทหาร
จีนมีความเหนือกว่าทางการทหารอย่างชัดเจนในภูมิภาค
หากจีนเชื่อว่าตนได้เปรียบทางทหารเหนือไต้หวันและมีศักยภาพเพียงพอที่จะเปิดปฏิบัติการใหญ่ จีนอาจเลือกที่จะรุกรานโดยเชื่อว่าต้นทุนและความเสี่ยงของความขัดแย้งสามารถจัดการได้ สถานการณ์นี้จะโยงกับการจีนที่มีการพัฒนาขีดความสามารถทางเรือ ขีปนาวุธ และไซเบอร์อย่างมีนัยสำคัญ
- ความกดดันภายในประเทศจีน
ในฉากทัศน์นี้ มีสมมติฐานว่ารัฐบาลจีนเผชิญกับแรงกดดันภายในที่สำคัญ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจหรือความไม่สงบในสังคม
ผู้นำจีนอาจใช้ความขัดแย้งภายนอกเพื่อหันเหความสนใจจากปัญหาภายในประเทศและรวบรวมการสนับสนุนชาตินิยม
การบุกรุกไต้หวันอาจถูกมองว่าเป็นวิธีหนึ่งในการรวมประเทศและปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นพวกของพรรคคอมมิวนิสต์ เพื่อ “ปกปักรักษาเอกราชของชาติ”
- การประเมินสถานการณ์ผิดหรือความตึงเครียดถูกยกระดับโดยอุบัติเหตุ
มีตัวอย่างในประวัติษสตร์ว่าการคำนวณผิดหรือการเพิ่มระดับทางทหารโดยไม่ตั้งใจนำไปสู่ความขัดแย้งเต็มรูปแบบได้
เหตุการณ์ต่างๆ เช่น การฝึกซ้อมทางทหารเกิดข้อผิดพลาด การปะทะกันโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างกองกำลังจีนและไต้หวัน
หรือท่าทีที่ก้าวร้าวที่บานปลายจนควบคุมไม่ได้
การยกระดับความตึงเครียดโดยไม่ได้ตั้งใจอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่จีนรู้สึกว่าถูกบังคับให้ปฏิบัติตามด้วยการรุกรานเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ
- ในกรณีหนึ่งคือหากจีนถูกโดดเดี่ยวทางการทูตในการเมืองระหว่างประเทศ
เช่นจีนอาจเผชิญกับการแยกตัวหรือการคว่ำบาตรทางการทูตระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
หากจีนพบว่าตนเองโดดเดี่ยวมากขึ้นในเวทีโลก และมองเห็นช่องทางการรวมชาติอย่างสันติเป็นไปไม่ได้ จีนอาจหันไปใช้วิธีทางทหารเพื่อยืนยันการควบคุมไต้หวัน
สถานการณ์นี้สันนิษฐานว่าจีนประเมินว่าจะเกิดความสูญเสียเพียงเล็กน้อยและได้ประโยชน์มากมายจากการใช้หนทางด้านการทหารแทนวิถีทางการทูต
ภาพทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของปัญหาจีนกับไต้หวัน
และไม่ว่าจะด้วยฉากทัศน์ใดฉากหนึ่งก็อาจจะทำให้เกิดแรงกระตุ้นที่อาจเกิดขึ้นสำหรับการรุกรานไต้หวันโดยจีน
แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาที่ซับซ้อนอย่างลึกซึ้ง
ซึ่งอาจได้รับอิทธิพลจากตัวแปรที่คาดเดาไม่ได้มากมาย
ประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร ยังคงติดตามและเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉินต่างๆ เพื่อยับยั้งผลลัพธ์เช่นว่านี้
และเป็นฉากทัศน์ที่ฝ่ายความมั่นคง, การทูตและการเมืองของไทยเราจะต้องศึกษาและนำมาออกแบบยุทธศาสตร์ที่จะสามารถทำให้ประเทศไทยยืนอยู่ในจุดที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดในกรณีที่เกิด “เหตุอันคาดไม่ถึง” ที่อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ใด ๆ จากภาพที่เห็นอยู่วันนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

