กินฮอตดอกไหมครับ?

ขอแจ้งครับ ถ้าแฟนคอลัมน์ท่านใดอยากอ่านบทความที่มีเนื้อหาสาระ ที่มีประเด็น ที่สมศักดิ์ศรี มาตรฐานหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์นั้น โปรดข้ามคอลัมน์ผม (วันนี้) บอกเลยวันนี้เป็นบทความเบาสุดๆ และค่อนข้างไร้สาระ (สุดๆ) แต่เป็นบทความสนุกและให้ความรู้กับสิ่งที่ไม่น่ารู้ครับ

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นวันชาติสหรัฐอเมริกา น้อยคนจะเรียกว่า Independence Day เพราะจะเรียก The 4th of July มากกว่า เรียกจนบางคนเผลอเข้าใจว่า The 4th of July เป็นชื่ออย่างเป็นทางการ เหมือนวันคริสต์มาส วันฮัลโลวีน วันวาเลนไทน์ จนลืมว่าเป็นวันที่ และจะถามว่า The 4th of July ตรงกับวันอะไร? (ผมขอไม่เอ่ยนามเพื่อนผมที่เคยถาม แต่ขอแอบเผาครับ)

สำหรับวันชาติ และความเป็นอเมริกัน ภาพพจน์และสัญลักษณ์จะต้องหมุนเวียนอยู่รอบๆ เบสบอล การย่างปิ้งอาหาร กินเบียร์ ดูไฟพลุ ไปเที่ยวทะเล ไปเล่นน้ำ และหลังๆ นี้ ดูคนกินฮอตดอก (?!?!)

การนั่งดูคนกินฮอตดอกนั้น หมายถึง การแข่งขันการกินฮอตดอก ไม่ใช่นั่งคุยกับเพื่อนที่กินฮอตดอกอยู่ครับ แต่ดูการถ่ายทอดสดที่ Coney Island ผ่านช่องกีฬายักษ์ใหญ่ ESPN เป็นเรื่องเป็นราวครับ มีสปอนเซอร์เต็มตัว คือยี่ห้อฮอตดอก Nathans ที่เก่าแก่และขึ้นชื่อของอเมริกา สถานที่ Coney Island เป็นสวนสนุกเก่าแก่ในนิวยอร์กที่มีอายุกว่าร้อยปีครับ การแข่งขันมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Nathan’s Famous Fourth of July International Hot Dog Eating Contest

เป็นการแข่งขันที่จริงจังมาก ไม่ใช่เพียงผู้ชายตัวใหญ่ๆ กินฮอตดอก 4-5 อัน ประกาศชนะและแยกย้ายกลับบ้าน การแข่งขันนี้จะแข่งกันกินฮอตดอกให้เยอะที่สุดภายใน 10 นาที ไม่ใช่ตัวไส้กรอกอย่างเดียวนะครับ ฮอตดอกทั้งอัน ทั้งขนมปังและตัวไส้กรอก ในประวัติการแข่งขัน Nathan’s มีคนกินฮอตด็อกทั้งหมด 76 อัน (!!!) ในปี 2021 (Joey Chestnut) เป็นการแข่งขันที่คนอเมริกันให้ความสนใจและสนุกไปด้วย แต่ไม่ได้บ้าคลั่ง เหมือนบ้าคลั่งอเมริกันฟุตบอล บาสเกตบอลหรือเบสบอลหรอกครับ แค่จะสนใจในช่วงฤดู 4th of July เท่านั้น และอีก 364 วัน ไม่นึกถึงอีกเลย

ผมจึงต้องเขียนวันนี้ เพราะถ้าเลยสัปดาห์นี้ไป ผมจะไม่มีเหตุผลและโอกาสเขียนเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของ Nathan’s Famous Fourth of July International Hot Dog Eating Contest

ผมพยายามนึกถึงประเทศอื่นที่มีการแข่งขันการกินอาหารพื้นบ้านพื้นเมืองของเขาให้มากที่สุดภายในเวลาจำกัด แต่ผมคิดไม่ออกครับ การแข่งขันแบบนี้ในแต่ละประเทศคงมีอยู่แล้วล่ะ แต่เขาจะมีในวันชาติของเขาไหม? ผมมองไม่ออกว่าเกาหลีใต้จะแข่งกินกิมจิในวันชาติของเขา อังกฤษจะกิน Fish and Chips ในวันชาติของเขา หรือแม้แต่บ้านเรา (ที่ไม่มีวันชาติ) จะมีการแข่งกินต้มยำกุ้ง? ผัดไทย? กะเพราไก่ไข่ดาว? ผมคิดไม่ออกจริงๆ ครับ มีแต่อเมริกานี่ล่ะ จัดในวันชาติของเขา

แต่การแข่งขันประเภทกินแข่งกับเวลามีมายาวนาน และไม่ใช่เฉพาะอเมริกาเท่านั้น มีตั้งแต่ยุคกรีก ในศตวรรษที่ 2 ส่วนในอเมริกา การแข่งกินบันทึกครั้งแรกแรกในหน้าหนังสือพิมพ์ปี 1793 ในรัฐ Pennsylvania ที่รายงานการแข่งขันกินเค้กก้อนใหญ่ถึง 24 ก้อน (แข่งกัน 2 คน) หลังๆ ในเทศกาล 4th of July แข่งกันกิน Pie ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพราะอย่าลืมว่านอกจากฮอตดอกแล้ว Pie เป็นสัญลักษณ์อเมริกันเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Apple Pie หรือ Cherry Pie หรือ Blueberry Pie

ในยุคนั้นถือว่าเป็นการแข่งขันสนุกๆ ไม่ได้แข่งจริงจังอะไร ถือว่าเป็นการท้าคนที่มาเที่ยวในงานมากกว่า ถ้าต้องเรียกว่า “แข่งขัน” จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กินแข่งกับเวลา (ต้องกินให้เยอะสุดในเวลาจำกัด) กับกินให้เยอะสุด (ไม่จำกัดเวลา) การ “แข่งขัน” ยุคนั้นจะสนุกๆ และแข่งกินสารพัดของกิน เช่น หัวหอมบ้าง แตงโมบ้าง ไข่บ้าง แล้วแต่ผู้จัดอยากจัด

Nathan’s เริ่มจัดการแข่งขันของเขาในยุค 1970s ภายใต้แกนนำผู้บริหาร Max Rosey กับ Mortimer Matz ที่คิดอยากหาทางโฆษณาสินค้าตัวเองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งการแข่งขัน Nathan’s ยุคนั้นจะเน้นสนุกๆ และดูเป็นท้องถิ่นมาก คือเอาผู้ชายตัวใหญ่ๆ 4-5 คน มาแข่งกินฮอตดอกกัน แข่งเสร็จปุ๊บ ต่างคนต่างกลับบ้าน กินเบียร์ กินบาร์บีคิวฉลอง 4th of July ต่อคนชนะการแข่งขันครั้งแรก (ปี 1972) ชื่อ Melody Andorfer กินฮอตดอก 12 อัน ภายใน 5 นาที

ถือว่าเป็นการแข่งขันที่ประสบความสำเร็จในระดับของเขา คือนักข่าว (ท้องถิ่น) มาทำข่าว มีคนดู (ถึงแม้คนดูอาจเป็นคนที่เดินผ่านก็ตาม) และมีคนแข่งเพิ่มทุกปี จนกระทั่งปี 1991 มีพี่น้อง George and Richard Shea เข้ามาดูการตลาดของ Nathan’s ถึงจะเริ่มยิ่งใหญ่มากขึ้น George ถือว่าเป็น Showman โดยสัญชาตญาณ เขาสร้างเวที Nathan’s ให้อลังการและยิ่งใหญ่มากขึ้นทุกปีๆ ทำตัวยิ่งกว่าละครสัตว์ บางปีแต่งตัวเป็น Uncle Sam เพื่อเน้นบรรยากาศความเป็นอเมริกันแท้

หลังจากเริ่มทำตรงนี้เป็นเวลา 10 ปีเต็ม George กับ Richard ได้เอาเรื่องราวการแข่งขัน Nathan’s มาเปิดเผยให้กับซีกตะวันตกของประเทศ ผ่านหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ LA Times ซึ่งทำให้คนนอกพื้นที่นิวยอร์กได้สัมผัสและรู้จักการแข่งขันนี้ และทำให้คนสนใจมากขึ้น จากการสัมภาษณ์นั้นนำไปสู่สารคดีและสัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ต่างๆ เลยยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น และดึงดูดความสนใจจากคนทั่วประเทศ

            แต่คนที่ทำให้การแข่งขัน Nathan’s เป็นที่รู้จักทั้งทั่วสหรัฐและทั่วโลกนั้นคือ Takeru Kobayashi

ก่อนหน้านั้น คนที่แข่ง Nathan’s จะเป็นคนอเมริกันตัวใหญ่ๆ ซึ่งดูจากภายนอกและดูจากภาพน่าจะเหมาะสุด เพราะคนธรรมดาจะกินฮอตดอกภายใน 10 นาทีได้ซักกี่อันครับ? แต่ Kobayashi เป็นคนญี่ปุ่นขนาดมาตรฐานเอเชีย เขาไม่ใช่ซูโม เขาไม่ใช่ยักษ์ เขาชนะ Nathan’s ครั้งแรกด้วยการกินฮอตดอก 50 อันภายใน 10 นาที และจากนั้น Kobayashi ถือว่าครอง Nathan’s เป็นเวลายาวนาน และปรับโฉมภาพพจน์ การแข่งขันการกินให้เปรียบเสมือนกีฬา และตัวเขาเป็นนักกีฬา เพราะต้องฝึก ต้องวางยุทธศาสตร์ ไม่ใช่อ้าปากกินๆๆๆ อย่างเดียว แต่มีเทคนิคครับ

แต่ในช่วงที่ Kobayashi ครองแชมป์ Nathan’s เป็นเวลา 7-8 ปีติดต่อกันนั้น คนอเมริกันจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่พอใจที่คนเอเชียตัวเล็กๆ ครองแชมป์กินฮอตดอกชนะคนอเมริกันตัวใหญ่ๆ ได้ จนกระทั่งถึงฮีโร่คนอเมริกันชื่อ Joey Chestnut ชนะ Kobayashi ครั้งแรกในปี 2007 และชนะรวด 8 ปีติดต่อกัน แพ้ในปี 2015 และชนะรวดตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปีที่แล้ว

ยิ่งใหญ่แค่ไหนครับ? Netflix จะจัดการแข่งขันรอบพิเศษระหว่าง Kobayashi กับ Chestnut ในอนาคตอันใกล้ครับ

ผมบอกเลยว่า ผมคนนึงล่ะจะนั่งดู

ไม่แน่ อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเราจัดการแข่งขันการกิน เลียนแบบ Nathan’s ก็ได้ แข่งกินแกงไตปลาให้มากที่สุดภายใน 10 นาที เพื่อผลักดัน Soft Power (ขอมองบนนิดหนึ่งครับ). 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

President Biden….You’re a Good Dad

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีสารพัดเรื่องที่น่าสนใจและน่าเขียนถึง เรื่องแรกต้องเป็นเรื่องประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีใต้ เพราะเป็นเรื่องไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้น และถือว่าเป็นการประกาศฟ้าผ่าทีเดียว

คุยเรื่อง…ที่ไม่ใช่เรื่อง

เผลอแป๊บเดียว วันนี้เราเข้าเดือนสุดท้ายของปีแล้ว ถือว่าเราเข้าฤดูกาลซื้อของขวัญสำหรับคริสต์มาสและปีใหม่อย่างเป็นทางการ ถึงแม้ตามห้างต่างๆ

'BRO!!!!!'

เกือบ 2 สัปดาห์กับผลการเลือกตั้งในสหรัฐ ที่สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วไป เว้นบรรดานักวิเคราะห์แม่นๆ….หลังผลออกมา พวกนี้ยังพูดเต็มปากเต็มคำว่า

“ถ้าไม่เลือกเรา...เขามาแน่”...ทำให้เขาชนะขาดลอย

ผมไม่แน่ใจว่ากว่าแฟนคอลัมน์จะได้อ่านบทความนี้ เรื่องที่ผมจะเขียนนั้นมันแห้งเกินไปหรือเปล่า เพราะกว่าจะถึงวันที่ได้อ่านบทความนี้ เรื่องนี้อาจจะเก่าไปแล้วก็ได้