
ปี..2571
คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมต.คมนาคม บอก รถไฟสายสีส้มด้านตะวันออก จากศูนย์วัฒนธรรมถึงมีนบุรี จะวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้
นี่..ใครจะดีใจ ไชโยก็เชิญ ส่วนผมที่พักอาศัยอยู่ริมทางรถไฟสายนี้ เมื่อนับนิ้วดู อีกตั้ง 4 ปีถึงจะได้ใช้บริการ ต้องบอกว่า “เย็นชาแล้วครับทั่น”!
คุณจะวิ่งเมื่อไหร่ก็เอาตามที่พวกท่านสบายใจเถิด ผมน่ะเห็นจะหมดอารมณ์ยินดี-ยินร้าย แต่ให้เสียความรู้สึกอยู่นิดว่า..
ความล่าช้า-ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ จะไม่มีผู้ใด บริษัทไหนรับผิดชอบกันบ้างเลยเชียวหรือ..อยากรู้น่ะ!
แล้วนั่นก็อยากรู้เหมือนกันว่า จากนี้อีก 5 ปี เมื่อถึง พ.ศ.2572 ที่ “ใบอนุญาตประกอบการทีวีดิจิทัล” ของทุกช่องจะหมดอายุลงตามเงื่อนไข-สัญญา..
กสทช.จะเปิดให้มีการประมูลต่อหรือไม่ และแต่ละช่องที่ได้รับสัมปทานมาจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ไหมที่จะต่อสัญญา?
แต่เท่าที่แว่วๆ ได้ยินมา ถ้าค่าสัมปทานยังสูงอยู่เหมือนเดิม น่าจะมีไม่น้อยกว่า 10 ช่องที่ยอมถอย ปล่อยมือ ขอไม่สู้อีกต่อไป!
ก็..เห็นใจและเข้าใจ เพราะตั้งแต่เริ่มต้นเปิดสถานี “ทีวีดิจิทัล” กันมา ทุกช่องได้แต่ประคับประคองธุรกิจ ที่หวังจะได้กำไรในแต่ละเดือน-ละปีนั้น..
“หวังกันไป ก็ได้แค่หวัง ไม่เสียสตางค์ ไม่ผิดกฎหมาย หวังกันมา ก็หวังกันไป
หวังในใจ ตำรวจไม่จับ” อย่างที่เพลงคุณก๊อท จักรพันธ์ ร้องนั่นแหละ!
ยิ่งสภาพปัจจุบัน ยุคข้าวยากหมากแพงนี้ด้วยแล้ว จากขาดทุนกะปริบกะปรอย ก็ขาดทุนหนักถึงขั้นบักโกรกกันอยู่หลายช่อง
จะพูดว่า “เข้าขั้นวิกฤต” ก็ไม่ผิด ด้วยเงินที่ได้จากสปอนเซอร์ จากโฆษณา จากที่เคยเก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน ถึงตอนนี้แทบจะไม่มีให้ขอดกันแล้ว!
ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องด้วยสปอนเซอร์ โฆษณา เริ่มประจักษ์ชัดแล้วว่า “ทีวี” เป็นของชำรุดทรุดโทรมที่คนไม่ได้ให้ความสนใจดู
แต่ได้หันไปหาความสุข ความบันเทิงอยู่ในจอมือถือกันหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนไม่ว่ารุ่นใหม่-รุ่นเก่า ก็หันมาทำช่องเป็นของตัวเอง ทั้งยูทูบ เฟซบุ๊ก แถมมีรายได้ (งาม) อีกต่างหาก!
นี่..อย่าว่าแต่เจ้าของสถานีเลยที่กลัดกลุ้ม เครียด (ดื่มเหล้า) ดารา นักแสดงน้อย-ใหญ่ ตลอดจนผู้ผลิตรายการ-ละครก็เริ่มที่จะหวั่นไหว..
ไม่รู้วันไหน-เมื่อไหร่จะตกงาน!
บางบริษัทไม่ยอมให้เจ็บตัว จึงได้ตัดไฟเสียแต่ต้นลม ด้วยการปิดตัวบ้าง ลดพนักงานลงบ้าง..
แต่ที่น่าสงสารและน่าเห็นใจ ก็บรรดาคนทำงาน “ฟรีแลนซ์” ที่ไม่มีเงินดง-เงินเดือน มีแต่เงินรายวัน ที่มีงานทำก็ได้-ไม่มีงานทำก็อด!
ตอนนี้..เสียงบ่น-เสียงโอดครวญจากพวกเขาชักเริ่มหนาหูเข้าทุกที ไม่เว้นกระทั่งผู้กำกับ คนเขียนบท ก็พลอยโดนผลกระทบไปตามๆ กัน
คนที่มีฝีมือ-มีความสามารถ มีโอกาสได้เข้าไปร่วมงานกับช่องสตรีมมิงก็โชคดีไป แต่ด้วยจำนวนผู้กำกับที่มากมายก่ายกองร่วมๆ 100-200 คนในวงการ..
“เน็ตฟลิกซ์” แม้จะมีใจอยากยื่นมือช่วยสนับสนุน แต่ก็จำต้องยืนอยู่บนฐานธุรกิจ คงไม่เอาด้วย หาก “เอ็นดูเขา-เอ็นเราขาด” เป็นแน่!
ครับ..อีกตั้ง 5 ปีจึงจะหมดสัมปทาน แต่แทนที่ผู้ประกอบการเจ้าของสถานีจะดีใจ กลับหนักใจ-ทุกข์ใจกับระยะเวลา..
ถ้าเผื่อเลิกได้-หยุดได้เสียแต่บัดนี้ หลายช่องคงจะปิดสถานีไปแล้ว!
ไม่เห็นเรอะ บางช่องต้องเอา “ของเก่า”มารีรัน-วนลูปเพื่อจะได้ประหยัดต้นทุน ขนาดช่อง 7 ช่อง 3 ว่าใหญ่-ยักษ์ ทุนหนายังออกอาการไม่ต่างนายกฯ เศรษฐายามนี้..
จะลากต่อไหวไหม..ลุ้นไปพร้อมกัน!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใครที่เดือดร้อน?
แรกเห็น-แรกอ่าน.. ก็..คิดเอาว่าเป็นใครก็ไม่รู้เขียน เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นถ้อยคำจาก “เสก โลโซ” ร็อกเกอร์คนดัง ซึ่งผู้อ่านหลายท่านก็น่าจะได้ผ่านตา
ระวังจะโดนย้อนศร
เรื่องนี้ต้องขยาย.. ผมหมายถึง “ยอดคนตาย” จากมหาอุทกภัยหาดใหญ่น่ะ เพราะหลังจาก นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลง..
ต่างฝ่ายต่างโกง?
ดารา-นักแสดงถูกเบี้ยวค่าตัว! ความจริงก็ใช่ว่าเพิ่งมาเกิดเอายุคปัจจุบัน-ตอนนี้..สมัยนู้นนน ในยุคพระเอก-นางเอกคู่ขวัญ “มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์” และ “สมบัติ เมทะนี-อรัญญา นามวงศ์”..
ความคิดหลุดโลก?
แค่นายกฯ อนุทินหยอดมุก.. “อยากนามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่เจอเข้าไป 4 ภัย ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ”
‘ตลก’ไม่ทิ้งกัน!
“เต็มที่แล้ว เต็มที่จริงๆ ผมทำดีที่สุดแล้ว” นี่.. “นายกแป้น” คุณณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้บอกผู้สื่อข่าว หลังจากที่ประกาศก่อนหน้าว่า..
เขต 8 แดนเจอรัส?
น้ำลด..เขต 8 โผล่! ทีนี้ ก็เป็นหน้าที่ของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” แล้วล่ะ จะปฏิบัติการกวาดล้างพวก “มนุษย์ขยะ” เฮงซวย-เส็งเคร็ง ที่สร้างความเสื่อมเสียให้ชาวเมืองหาดใหญ่กันอย่างไร?

