รับฟังแผนปฏิรูปรถเมล์

จากที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประกาศปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารประจำทาง มีผลตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยจะหยุดเดินรถให้บริการในเส้นทางเดิม และปรับการเดินรถจากเส้นทางเดิม ทำให้มีข้อกังวลจากผู้โดยสาร ไม่ว่าจะปัญหา “รถเมล์น้อย คอยนาน ขาดระยะ” บางเส้นทางมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นนั้น กรมการขนส่งทางบกยืนยันว่า จำเป็นต้องเดินหน้าแผนปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ ซึ่งได้สั่งการให้ ขสมก.และเอกชนจัดจำนวนรถและความถี่ให้เพียงพอกับความต้องการ

เรื่องนี้ทำให้ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ออกมาทักท้วงว่า การจะมีการยุบเส้นทางให้บริการเดินรถโดยสารประจำทางเดิมให้เหลือแต่เส้นทางปฏิรูปฯ อย่างเดียวนั้น เชื่อว่าจะมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่เดือดร้อน ทั้งจากปัญหาค่าโดยสารแพงขึ้น เพราะต่อรถหลายต่อ ปัญหารถน้อย และรถไม่พอ คอยนาน ดังนั้นจึงอยากให้กรมการขนส่งทางบกกำกับเอกชนให้มีการเดินรถเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

โดยมองว่าการปฏิรูปรถเมล์ต้องทำให้คนเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก เพียงพอ ด้วยราคาค่าโดยสารที่ถูกลง และผู้ใช้บริการควรมีส่วนร่วมในการกำหนดเส้นทางการเดินรถด้วย ซึ่งในเร็วๆ นี้ สภาองค์กรของผู้บริโภคจะทำสมุดปกขาวเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รับทราบถึงข้อเท็จจริงของปัญหาการให้บริการรถโดยสารประจำทาง เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการ รวมไปถึงเรื่องตั๋วร่วม

ล่าสุด กรมการขนส่งทางบก ขานรับข้อเสนอแนะ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายเพจรถเมล์ไทย นำมาปรับปรุงแนวเส้นทางให้ครอบคลุมพื้นที่การบริการประชาชน พร้อมเดินหน้าควบคุมคุณภาพการให้บริการ และความถี่ในการเดินรถให้เหมาะสม และกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้นมาก

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกได้รับหนังสือและข้อเสนอแนะจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคในประเด็นการเสนอให้มีเส้นทางที่ครอบคลุมพื้นที่การใช้บริการของประชาชน มาตรการกำกับดูแลให้ผู้ประกอบการจัดหารถเมล์โดยสารให้เพียงพอทุกเส้นทางตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้เชิญ ขสมก. บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด และบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ร่วมกันหารือในการเพิ่มเที่ยวการเดินรถและจัดการเดินรถให้เหมาะสมกับความต้องการของประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกและลดผลกระทบในช่วงเปลี่ยนผ่านการเดินรถสู่แผนการปฏิรูปฯ 

โดยกรมการขนส่งทางบกจะมีการประเมินความต้องการเดินทางของประชาชนทั้งเส้นทางที่ ขสมก.ได้รับอนุญาตประกอบการ และเส้นทางที่เอกชนได้รับอนุญาตประกอบการ หากพบว่าเส้นทางยังไม่ครอบคลุมความต้องการของประชาชน จะมีการปรับปรุงเส้นทางการเดินรถโดยเร่งด่วน

สำหรับในประเด็นการกำหนดราคาค่าโดยสารรถ ขสมก.และภาคเอกชนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งรถร้อนและรถปรับอากาศนั้น คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการเก็บค่าโดยสารในอัตราเดียวกันสำหรับรถมาตรฐานเดียวกัน โดยผู้ประกอบการทุกรายสามารถลดค่าโดยสารได้ไม่เกิน 20% แต่เนื่องจาก ขสมก.เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งต้องตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการลดค่าของชีพของประชาชน ประกอบกับได้รับเงินสนับสนุนบางส่วนจากภาครัฐ จึงสามารถเก็บค่าโดยสารได้ถูกกว่าภาคเอกชน

 ขณะเดียวกัน กรมการขนส่งทางบกจะแจ้งให้ ขสมก.และผู้ประกอบการเอกชน รับข้อเสนอแนะของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายเพจรถเมล์ไทย ในด้านการจัดการเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการในการเดินทางของประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกจะกำกับดูแลการเดินรถให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด และยินดีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น หากประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการขนส่งทางบก 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง.

 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร

ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย

ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?

เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด

เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย

ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน

เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย

อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP

อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ

ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย

ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า