"คนช่างสังเกต" เขาบอกว่า....
"นายกฯ เพศหญิง" จะถูกโฉลกกับน้ำ เขายกตัวอย่างปี ๒๕๕๔ ที่บ้านเมืองได้นารีชื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็นนายกฯ
ขนาดนายกฯ ยิ่งลักษณ์บอกว่า "เอาอยู่ค่ะ"
ก็จริงของท่าน
เพียงแต่ที่ "เอาอยู่" ไม่ใช่นายกฯ ยิ่งลักษณ์" เอาน้ำอยู่"
หากแต่ "มวลน้ำก้อนใหญ่" จากเหนือที่หลากลงมาตะหาก มันเอา "นายกฯ หญิง" ซะอยู่หมัด
น้ำจะไปออกทะเล ทางตะวันตก นักการเมืองมากบารมีบางคน ก็กั้นไว้ เพราะไม่ต้องการให้ไปท่วมเขตแดนของเขา
ครั้นจะไปออกทางตะวันออก ก็ถูกกั้นอีก
นักการเมืองที่กว้านซื้อที่ไว้ทำหมู่บ้านจัดสรร กลัวไปท่วมเขตเศรษฐกิจครอบครัวเขา ที่ดิน-บ้านจัดสรรจะขายไม่ออก
มวลน้ำก้อนใหญ่ เลยหมั่นไส้....
กูจะไปซ้าย ไปออกทะเลทางแม่น้ำท่าจีน มึงก็ไม่ให้กูไป
ครั้นกูจะไปขวา ไปออกสมุทรปราการ ทางมีนบุรี มึงก็ไม่ให้กูไปอีก
งั้น "ผ่ากลาง" ท่วมแม่งมันถึง "กรุงเทพฯ" ชั้นในไปเลย!
น้ำท่วมกรุงเทพฯ ปี ๕๔ ก็เลยเป็นภาพ "ประวัติศาสตร์หลอน" ติดตา-ติดใจชาวบ้าน จำกันขึ้นสมองถึงทุกวันนี้
ว่า "นารีเป็นนายกฯ" น้ำท่วมบ้าน-ท่วมเมือง!
พอมาปีนี้ ปี ๖๗ ครบรอบนักษัตร คือ ๑๒ ปีที่ "นารีแห่งตระกูลชินวัตร" โคจรมาเป็นนายกฯ อีก
ไม่อาถรรพณ์ก็เหมือนอาถรรพณ์
สส. ๕๐๐ ปลุกเสกให้ "แพทองธาร" เป็นนายกฯ ในสภาปุ๊บ
น้ำก็ท่วมปั๊บ
เบิกฤกษ์ที่เหนือก่อน เหมือนปี ๕๔ ทำให้ชาวบ้านทันสมัย ที่ไม่เชื่อเรื่อง "อาถรรพณ์-โชคลาง" ในประเด็น "ผู้หญิงเป็นนายกฯ"
ชัก "สองจิต-สองใจ"
เพราะเห็นคาตาทันที-ทันใด "แพทองธาร" เป็นนายกฯ ปุ๊บ น้องน้ำมาปั๊บ เหมือนยุคอาปูเด๊ะ!
จะอาถรรพณ์-อาเพศ ไม่รู้ รู้แต่ว่า พี่น้องที่แม่สาย เชียงราย ตอนนี้ต่างอาเจียน เพราะฝนตกสะสม
แล้วหลากลงมาถล่มชนิดเชี่ยวกราก
ท่วมฉับพลันมิดหัว-มิดหู อย่าว่าแต่จะเก็บข้าวของได้ทันเลย ชีวิตก็แทบจะเก็บไม่รอด
เพราะมาเร็ว-มาแรง ถาโถมทั้งจากฝั่งพม่าและฝั่งไทย ประกบแม่สาย "เป็นแซนด์วิช"
โอยยยย...คุณพระ-คุณเจ้าคุ้มครอง
นับเป็นโชคมหาศาลที่เราเกิดอยู่ในแผ่นดินไทย แผ่นดินที่แต่ละหัวใจไทย มีสายใยสะบั้นทุกข์-เอื้อสุขให้แก่กันในทุกสถานการณ์
ถ้าได้สดับตรับฟังคนในฝั่งพม่าที่เจอสถานการณ์น้ำเช่นเดียวกับเรา
พวกเราคงต้องยกมือท่วมหัว ขอบคุณตัวเองที่เกิดเป็นคนไทย มากด้วยน้ำใจและมิตรเอื้ออาทร
ตอนนี้ กรุงเทพฯ หลวม เพราะไม่รู้กี่พันคน ทั้งคน-ทั้งของ-ทั้งเครื่องมือ รวมทั้งทัพบก-ทัพเรือ-ทัพอากาศ
เฮละโลกันลงไปช่วยคนที่แม่สาย
ถ้า "แม่สายสะอื้น" ก็คงไม่ได้สะอื้นเพราะเศร้าโศก หากแต่สะอื้น เพราะตื้นตันน้ำใจ ที่หลั่งไหลมาช่วย
จะว่าไป น้ำใจ "เชี่ยวแรง" จนน้ำป่า-น้ำฝนต้องรีบไปโจนหนีลงโขง ทิ้งแต่ขี้เลน-ขี้โคลน ให้ช่วยกันโกยออกไป
เมื่อวาน (๑๒ ก.ย.๖๗) เห็นนายกฯ แพทองธาร ลงไปสวมบูตถึงโคนขา ย่ำเลน "ยึดพื้นที่สื่อ" ที่แม่สาย
เห็นสวมกอดแลกน้ำตากับชาวบ้านที่โหยหานายกฯ และนายกฯ ก็มาให้กอด สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย ผมก็ดีใจด้วย
แต่หน่วยราชการ หน่วยอาสา บรรดาทหาร น่าจะยังสบายใจไม่ได้ เพราะดูท่า น้ำรอบนี้ ใช่ว่า "มาแล้ว-ลาลับ"
ผมว่า โอกาสจะ "ตลบหลัง" มาอีก มีมากทีเดียว
ดูที่ "กรมอุตุฯ" รายงานสภาพดินฟ้าอากาศ ดูที่ "กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย" ประกาศเตือน
พื้นที่ ๔๕ จังหวัด คือ "กว่าครึ่งประเทศ" ทั้งเหนือ-ใต้-ออก-ตก ช่วง ๕-๖ วัน ต่อจากนี้ ต้องบอกว่า
คืบ-ก็ฟ้าวิปริต ศอก-ก็ฝนแปรปรวน วา-น้ำก็หลากล้น-ทะลักท่วม
เนี่ย...ทั้งอุตุฯ และกรมป้องกันฯ บอกว่า
๑๓-๑๗ กันยา.ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน
เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนกลาง
ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน
ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนัก ถึงหนักมาก บางพื้นที่
บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น โดยในช่วงวันที่ ๑๔-๑๗ กันยา.
ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง ๒-๓ เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า ๓ เมตร
และ "สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ" ก็ประกาศ ว่า
"พบว่า มีปริมาณฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ทำให้ในช่วงวันที่ ๑๒-๑๖ ก.ย. ระดับน้ำแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง"
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขัง
สรุป พื้นที่ ที่ต้องเตือนให้ระวัง อย่ารอให้น้ำมาแล้วจะลอยคอไปเองเชียว
จังหวัดที่ต้องระวัง ก็มี ภาคเหนือ ๑๑ จังหวัด ไม่ต้องบอกก็คงทราบแล้วว่าที่ไหนบ้าง
อีสาน ๒๐ จังหวัด เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, สกลนคร, อุดรธานี, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อำนาจเจริญ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
กลาง ๘ จังหวัด นครนายก, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
ใต้ ๖ จังหวัด ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล
ได้ยินรัฐมนตรีมหาดไทย "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" พูดเมื่อวาน ว่าตัวท่านจะไม่ลงไปที่แม่สาย
เพราะไป ก็ไปเกะกะเจ้าหน้าที่ ที่เขากำลังทำงานกันอยู่เปล่าๆ ให้รัฐมนตรีช่วยฯ ลงไปแทน
ส่วนตัวท่านคอยมอนิเตอร์และทำหน้าที่ประสานการทำงานหน่วยต่างๆ ใครขาดเหลืออะไร ตรงไหน ต้องการอะไร ก็จะได้จัดส่งลงไป
ก็ควรเป็นเช่นนั้น ลงไปตอนนี้ก็เกะกะเปล่าๆ ในงานจุลกฐินเช่นนี้ การเป็น "สถานีกลาง" ทั้งประสาน ทั้งจัดส่ง-จัดหาเช่นนี้แหละ "สำคัญสุด"
"แม่สาย-เหนือ" เป็นพื้นที่ประสบภัยไปแล้ว
แต่อีก ๔๕ จังหวัด การที่ "กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย" ของท่าน ประกาศเตือน นั้น
ถือว่า "กรมป้องกันฯ" ทำหน้าที่ "ป้องกัน" ได้ถูกต้อง
การประกาศให้ชาวบ้านรู้ล่วงหน้า เป็นการ "ป้องกัน" ดีกว่าปล่อยให้จมน้ำชนิดไม่รู้ตัว แล้วไป "บรรเทา" กันภายหลัง
แต่ต้องเข้าใจธรรมชาติชาวบ้านด้วย
น้อยคน "จะฟัง-จะเชื่อ" และเตรียมตัวตั้งรับสถานการณ์ ส่วนใหญ่ จะไปว่ากันหน้างานมากกว่า คือรอให้น้ำมาท่วมมิด ขึ้นไปขี่หลังคากันแล้วนั่นแหละ
แล้วก็บอกว่า "มันมาเร็ว...เก็บข้าวของไม่ทัน"!
ดังนั้น รัฐมนตรีอนุทิน ควรกำชับไปถึงผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด หน่วยป้องกันฯ แต่ละจังหวัด
ให้กระจายข่าวผ่าน "หอกระจายข่าว" แต่ละตำบล-อำเภอถี่ๆ
พร้อมทั้งผู้บริหารแต่ละตำบล-อำเภอ ต้องออกตระเวนตรวจตราความพร้อมและให้คำแนะนำชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงด้วยตัวเอง
นายกฯ น่ะ ให้ท่าน "ออกแขกหน้างาน" ไปเถอะ ช่วยอะไรจริงๆ ในเนื้องานด้านปฏิบัติไม่ได้หรอก
ช่วยทางความรู้สึก-ทางจิตใจ นั่นแหละ...ใช่ ชาวบ้านและคนทำงานจะได้มีกำลังใจ ว่านายกฯ ลงมาเยี่ยม นายกฯ เห็นการทำงาน
แต่ละคน-แต่ละฝ่าย พอจะได้กระชุ่ม-กระชวยด้านจิตใจกันบ้าง
ส่วนเนื้องาน ก็ต้องมี "แม่งาน" คอยมอนิเตอร์ อย่างที่ท่านอนุทินทำ
ลงไปตอนนี้ แค่เป็นพระเอกหน้ากล้อง แต่เพิ่มภาระให้ลูกน้องคือเจ้าหน้าที่ สร้างความยุ่งยากให้กับเขาเป็นสองเท่าโดยไม่จำเป็น
งานที่จำเป็น คือคอยประสานงานในพื้นที่ คอยจัดหาเครื่องไม้-เครื่องมือ-อุปกรณ์ให้กับเขา นั่นละ ที่เรียก "คนบริหารงานเป็น"
ที่ "กรมป้องกันฯ" ประกาศพื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ไม่มี "กทม." รวมอยู่แล้ว
ผมขอเติม "พื้นที่ กทม." ให้ซักพื้นที่ได้มั้ย?
ไม่ใช่อะไร....
เกรงว่า "นายกฯ อุ๊งอิ๊ง" จะแพ้ "นายกฯ ปู" ทางสถิติน่ะ
ถ้า "ไม่ท่วมกรุงเทพฯ"!
-เปลว สีเงิน
๑๔ กันยายน ๒๕๖๗
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อภิสิทธิ์’ ชี้วิกฤติ รัฐฯหลอมขั้วเหลว ระบอบทักษิณฟื้น!!
‘อภิสิทธิ์’ ชี้วิกฤติ รัฐฯหลอมขั้วเหลว ระบอบทักษิณฟื้น!! วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.
ทักษิณ 'รีเทิร์น' นั่งเมือง
วันนี้คุยเรื่อง "หัวเขียง-หัวขวด" พรรคเพื่อไทยกันต่อ ที่เสนอกฎหมายให้ "นักการเมือง" เข้าไป "ควบคุมกองทัพ"
ร่างฯ 'หัวขวด' เพื่อใคร?
"นักการเมือง" คือคนโง่ เพราะทำอะไรก็ยาก มีกฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกคือ พ.ร.บ.ต่างๆ
'Grab rider ต้วง'
ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา
สมรภูมิ ประชาธิปไตย | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
สมรภูมิ ประชาธิปไตย จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 08 ธันวาคม 2567
'ดร.บุญส่ง-นพ.ระวี' ส่องจุดจบ! ระบอบทักษิณ ภาค 2 | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 07 ธันวาคม 2567