
เห็นๆ กันไปแล้วสำหรับ การทำงานของนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย “แพทองธาร ชินวัตร” ซึ่งจะถูกใจใครหรือไม่อย่างไรก็คงขึ้นกับนานาจิตตัง แต่คงต้องให้เวลาปรับตัวกันบ้าง แม้ช่วงนี้จะมีปัญหารุมเร้าต่อเนื่องและไม่อาจรอได้ ทั้งเรื่องปัญหาอุทกภัยและเรื่องปากท้อง...๐
งานนี้ก็เลยต้องลำบาก “ซูเปอร์อ้วน” อย่าง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ต้องทำตัวเป็น “ซูเปอร์แมน” ทุกเวทีที่มี “นายกฯ อิ๊งค์” ปรากฏตัว รวมทั้งเวทีใหญ่ๆ ที่เจ้าตัวไม่ค่อยจะสันทัดจัดเจน ดูง่ายๆ การประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ซึ่งปกติต้องระดับนายกฯ กุมบังเหียน แต่งานนี้กลับเจอหน้าสหายใหญ่นั่งเป็นประธานแทน ในขณะที่การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 2/2567 นั้น แม้ “อุ๊งอิ๊ง” จะนั่งเป็นประธาน แต่ก็มีภูมิธรรม รวมทั้งมี “นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช” หรือหมอมิ้ง คอยประคบประหงมอยู่ด้วยนั่นแล...๐
พูดถึง “บิ๊กอ้วน” ไม่เอ่ยถึงโผการตั้งนายทหารระดับสูงประจำปีก็ไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม ได้ทำบัญชีโยกย้ายเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว แต่ดันมาเจอชะตากรรมร่วมกับอดีตนายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ต้องหลุดจากเก้าอี้ไปด้วย เลยทำให้ “บิ๊กอ้วน” ต้องกลับมาทบทวนอีกรอบ ซึ่ง เจ้าตัวก็บอกให้ได้ลุ้นล่าสุดว่าเสร็จแน่ในสัปดาห์นี้ ที่สำคัญมีการปรับแค่ในส่วนของกองทัพบกและกองทัพเรือเท่านั้น งานนี้บรรดานายพลทั้ง 2 กองทัพก็คงต้องลุ้นด้วยใจระทึกกันต่อไปว่าหวยจะออกที่ใด...๐
เอ่ยอ้างถึงท็อปบูตแล้ว ไม่เอ่ยอ้างถึงคำสั่งล่าสุดของอัยการสูงสุด (อสส.) ที่ออกมาคงไม่ได้ เพราะ มีคำสั่งฟ้อง “พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร” อดีตผู้บัญชาการ พล.ร.5 กับ 7 ผู้ควบคุมรถ ฐานร่วมฆ่าระหว่างขนย้ายผู้ชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ จนตาย 78 ราย โดยก่อนหน้านี้ในคดีตากใบก็มีสำนวนคดีที่ประชาชนยื่นฟ้อง ซึ่งมี “พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 แต่ปัจจุบันเป็น สส.บัญชีชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นหนึ่งในผู้ต้องหามาแล้ว ซึ่ง “ประยุทธ เพชรคุณ” โฆษก อสส. ก็บอกข่าวที่ต้องให้ระทึกเช่นกันว่า 2 สำนวนทั้งคดีที่ราษฎรยื่นฟ้องเองและศาลประทับรับฟ้องแล้ว และในคดีที่ อสส.มีคำสั่งฟ้อง หากไม่ได้ตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลภายในกำหนดอายุความ วันที่ 25 ต.ค.นี้ ถือว่าคดีเป็นอันขาดอายุความ เรียกว่ารอมา 19 ปีก็ต้องลุ้นระทึกในช่วง 1 เดือนที่เหลือนั่นแล...๐
คดีตากใบครั้งนี้ก็สะท้อนชัดเจนถึงความล่าช้าในกระบวนการยุติธรรมไทย หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตาสีตาสา และเกี่ยวข้องกับบรรดาสีๆ ทั้งหลาย รวมทั้งนักการเมือง เลยได้แต่สงสัยในกรณีพรรคประชาชนที่ “พริษฐ์ วัชรสินธุ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ออกมาแจงย้ำว่าด้วยเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรม แม้พูดน้ำท่วมทุ่งว่าไม่ใช่ไม่สนใจเรื่องจริยธรรม แต่อยากให้เปลี่ยนมาเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองไปส่งผลที่คูหาเลือกตั้ง แทนที่จะถูกองค์กรอิสระคือศาลรัฐธรรมนูญผูกขาดถ่ายเดียว พระเจ้าจอร์จ! กรณีตากใบก็พิสูจน์ให้เห็นจะจะ แล้วความรับผิดชอบทางการเมืองอยู่ตรงไหน เพราะใช้เอกสิทธิ์คุ้มหัวกันเป็นว่าเล่น และไม่ต้องดูอื่นไกล พรรคของ “ไอติม” เอง มีคนใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง หรือแม่ของลูก ก็ยังยกยอปอปั้นว่าเป็นคนดีคนดังถูกรังแก หรือก่อนหน้านี้ในคดีกล่าวหาว่าด้วยเรื่องลวนลามชู้สาว ก็ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบแต่ประการใด นอกจากขับออกจากพรรค ซึ่งสุดท้ายก็แค่ย้ายพรรคเท่านั้น แล้วนี่ ยังมาฝันหวานจะให้ไปพิสูจน์ในคูหาเลือกตั้ง เห็นชัดๆ ว่าจงใจใช้ประโยชน์คนไทยลืมง่ายนั่นแล...๐
ที่สำคัญการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรานั้น ถึงแม้ใช้เวลาไม่นาน และดูเหมือนพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยก็ตามที แต่ขอเตือนว่าระวังให้ดี ระวังเรื่องอาจลามเป็น ไฟลุกป่าเหมือนกรณีนิรโทษฯ เหมาเข่งยุค “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็เป็นได้ เพราะการแก้ไขดังกล่าวนั้นเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองล้วนๆ ที่สำคัญเป็นการแก้ไขเพื่อให้คนสีเทาๆ กลับเข้ามามีอำนาจในประเทศ ในขณะที่เรื่องเป็นประโยชน์ต่องบประมาณแผ่นดินและแก้ไขได้ง่ายกว่า ที่สำคัญ สังคมจะปรบมือให้อย่างการยกเลิกบำเหน็จบำนาญนักการเมือง ซึ่งต้องบอกว่าเป็นภาระในอนาคตอย่างมาก ทำไม “พรรคประชาชน” ของพริษฐ์ ไม่เคยกล่าวอ้างหรือพูดถึงเลยจ๊ะ...๐.
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


