“รอยพ่อ”

นอกจากจะต้องมุ่งมั่นแล้ว  ยังต้องใช้ความอดทน ขายความสามารถกันล้วนๆ ผสานกับความภักดีที่มีให้กับองค์กร

 “ภารดร” เป็นสส.สมัยที่1 สมัยที่ 2 สมัยที่ 3 สมัยที่ 4 ต้องใช้ความอดทน พิสูจน์ตัวเองจาก สส. เด็กๆค่อยๆสั่งสมพรรษา  ประสบการณ์ทางการเมือง มาเป็น โฆษกพรรค “ภูมิใจไทย”  มาเป็นรองหัวหน้าพรรค “ภูมิใจไทย“ และก้าวมาเป็นรองประมุข ฝ่ายนิติบัญญัติ ในนามพรรค ”ภูมิใจไทย”

นี่คือการเดินทางที่ไม่มีทางลัด ทุกตำแหน่งทางการเมือง จึงได้รับการยอมรับ ทั้งจากภายในองค์กร และสังคม การประสบความสำเร็จจึงไม่มีเสียง “ยี้”มาบั่นทอน ทำให้เสียความมั่นใจ 

ขณะที่ลูกชาวอีกคน “แชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ทำไม่คุณพ่อผิดหวัง สมัยเป็นนักศึกษา ก็เป็น นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน เพื่อประโยชน์ของต่อส่วนรวม 

ส่วนหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทย เป็นปากเสียงแทนชาวบ้านทำหน้าที่ ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยมีประชาชนเป็นเดิมพัน   

 “ สองพี่น้อง ทำหน้าที่ ด้วยศรีศักดิ์อุดมการณ์ แน่นหนัก ประจักษ์ ยึดมั่นจริยธรรม ผมเห็นแล้วก็อดที่จะอมยิ้มด้วยความภูมิใจ กับ 2หน่อเนื้อไม่ได้” “พ่อสมศักดิ์” โพสต์ด้วยความปลื้มใจ 

นี่คือ “รอยพ่อ”ที่สร้างภูมิใจสำหรับครอบครัว และชาวอ่างทองอย่างแท้จริง 

ช่างสงสัย