เรื่อง "ยุบพรรค" แรกๆ ฟังก็ตื่นเต้น
แต่เดี๋ยวนี้ "ชินหู"
เพราะร้องจนกลายเป็นเรื่อง "สามัญประจำวัน" ไปแล้ว!
แต่เมื่อวาน (๑๘ ต.ค.๖๗) "คุณแสวง บุญมี" เลขาฯ กกต. ในฐานะ "นายทะเบียนพรรคการเมือง" ทำให้ผม "ตื่นหู" เพราะท่านบอกว่า
คำร้องให้ "ยุบ ๖ พรรคการเมือง" ที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พรรคพลังประชารัฐ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล กลุ่มพิราบขาว 2006 และบุคคลนิรนาม ยื่นเรื่องให้ กกต.พิจารณา นั้น
บัดนี้ พิจารณาแล้ว เห็นว่า คำร้องนั้น "มีมูล"!
มีมูลแล้วไง?
ก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน ดำเนินการสอบสวนและมีความเห็นเสนอน่ะซี
เสนอใครล่ะ?
ตาม "พ.ร.ป.พรรคการเมือง" มาตรา ๙๒ บอกว่า เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองใด กระทําการเข้าข่าย ก็ต้องยื่น "ศาลรัฐธรรมนูญ" เพื่อสั่ง "ยุบพรรค" การเมืองนั้น
ดังนั้น กกต.ก็ต้องรวบรวมเรื่องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ
แล้วยื่นไปหรือยัง?
ยังหรอก ตอนนี้ ต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานให้เสร็จภายใน ๓๐ วัน ถ้าไม่เสร็จ ก็ขยายได้อีก ๓๐ วัน
ก็หมายความว่า นับจากวันนี้ไป ภายใน ๒ เดือน
๑๘ ธันวา."เส้นตาย"
กกต.ต้องยื่นเรื่องให้ "ศาลรัฐธรรมนูญ" พิจารณายุบ ๖ พรรค ภายใต้กรอบเวลานั้น
ประเด็นที่ทำให้ "หูตื่น" ก็ตรง ร้อง "ยุบยกพวง" นี่แหละ
เพราะทุกครั้ง ร้องยุบ "ทีละพรรค"
แต่คราวนี้ นักร้องทำลายสถิติตัวเอง ทีเดียวร้องยุบ "๖ พรรค" รวด!
คือทั้ง เพื่อไทย ของ "นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร" ภูมิใจไทย ของ รมว.มหาดไทย "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" พลังประชารัฐ ของ "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ"
รวมไทยสร้างชาติ ของ รมว.พลังงาน "นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ชาติไทยพัฒนา ของ รมว.การพัฒนาสังคมฯ "นายวราวุธ ศิลปอาชา และประชาชาติ ของ รมว.ยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง!
ส่วนประชาธิปัตย์ "โชคดี" มาทีหลัง เลยรอด!
เหตุนำสู่การร้องให้ "ยุบยกพวง" ตามคำร้องระบุ เพราะนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค กระทำการครอบงำ ชี้นำ
และ ๖ พรรคการเมือง ก็ยินยอมให้นายทักษิณครอบงำ
ซึ่งเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา ๒๘ และ ๒๙
โดย ๖ พรรค เข้าข่ายผิดตามมาตรา ๒๘ ที่ว่า
"ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่สมาชิก กระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมือง
ในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม"
ส่วนนายทักษิณ เข้าข่ายผิดตามมาตรา ๒๙ ที่ว่า
"ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม"
ก็สืบเนื่องจากตอน "นายเศรษฐา ทวีสิน" ตกเก้าอี้นายกฯ ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ว่า "ผิดจริยธรรมร้ายแรง"
ประเด็นตั้ง "ทนายถุงขนม" เป็นรัฐมนตรี!
ตกค่ำ นายทักษิณก็เรียกบรรดาแกนนำพรรคร่วมเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า หารือตั้งนายกฯ คนใหม่ทันที
ตามภาพปรากฏต่อสาธารณะ รถบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ทยอยวิ่งเข้าบ้าน "จันทร์ส่องหล้า"
แล้วข่าวก็พรั่งพรู......
ตกลงให้ "นายชัยเกษม นิติสิริ" นายกฯ ในบัญชีเลือกตั้ง อันดับ ๒ ของพรรคเพื่อไทย ขึ้นเป็นนายกฯ แทนนายเศรษฐา
นี่แหละ...ตรงนี้แหละ
เป็นประเด็นนำสู่คำร้องยุบพรรคที่นักร้องยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนพรรค ว่า ๖ พรรค ยอมให้ทักษิณ ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกพรรคครอบงำ ชี้นำ
และทักษิณ ซึ่งเป็นบุคคลนอกพรรคทั้ง ๖ ก็ครอบงำ ชี้นำ สั่งการพรรค
ต้องเข้าใจกันนะ ที่นายทะเบียนพรรคชี้ว่า คำร้องนี้มีมูล เข้าสู่ขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคต่อไปนั้น
เป็นคนละคำร้องที่ "นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ได้ยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร กับพรรคเพื่อไทย
"เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" เมื่อ ๑๐ ตุลา.๖๗
เคสของนายธีรยุทธ ตอนนี้ ศาลฯ ยังไม่มีคำสั่งว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องไว้พิจารณา
ก็บอกให้ทราบ เดี๋ยวจะเข้าใจสับสน-ปนเป สรุปเป็นว่า
ที่ "เข้าตา กกต." นายทะเบียนพรรค พิจารณาแล้วมีมูล บรรจุเข้าสารบบ มีเรื่องนี้ "เรื่องเดียว" เป็นเรื่องแรก
ทักษิณครอบงำ ชี้นำ ๖ พรรค
และทั้ง ๖ พรรค ยอมให้ทักษิณ ครอบงำ ชี้นำ กรณีตั้งนายกฯ คนใหม่แทนนายกฯ เศรษฐา ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าครั้งนั้น
ด้านความเห็นส่วนตัวผมนะ...
ผมว่าเรื่องนี้ "ไม่สะเทือนคอก" ตระกูลชิน บอก....ชิลๆ!
"ปะติด-ปะต่อ" เป็นจิกซอว์ทางความ "รู้สึก-เข้าใจ" เอาเองละก็ได้ ว่าที่ทักษิณเรียกแกนนำ ๖ พรรคเข้าไป เพื่อจะบอกว่า
"ข้าฯ ขอสั่งในเรื่องที่พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...ข้าจะให้นายชัยเกษมเป็นนายกฯ แทนนายเศรษฐา"
ตรงนี้ ทางสังคม "เข้าใจไม่ผิด" หรอก
แต่ไหนล่ะ "ใบเสร็จ" ว่าทักษิณเรียกเขาไปสั่งในสิ่งที่พรรคร่วมไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
และไหนล่ะ "หลักฐาน" ยืนยันว่า ขณะนั้น ทักษิณอยู่ในบ้านจันทร์ส่องหล้า
เอาละ ทักษิณอยู่จริง แต่เขาบอก ๖ พรรค แค่มาเยี่ยมทักษิณเฉยๆ เปล่าคุยเรื่องตั้งนายกฯ เรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เกี่ยวกับรัฐบาล
คนมาคารวะหน้าเหลี่ยม มันผิดตรงไหน?
หรือใคร ๑ ใน ๖ พรรค นั้น พร้อมเป็นพยานในที่เกิดเหตุ และพร้อมให้ปากคำ ว่าทักษิณสั่งการ-ชี้นำ ๖ พรรค และทั้ง ๖ พรรค ยอมให้ชี้นำ-สั่งการ จริงๆ
มีคลิปภาพและเสียงในที่้ประชุมหารือคืนนั้น พร้อมเปิดให้ดูและฟัง!?
ถ้าแบบนี้ละก็ เหมือนนัดมาดื่มไซยาไนด์ "ตายหมู่" ในโรงแรมกลางกรุง อย่างที่เป็นข่าวเมื่อเดือนกรกฎา.นั่นเลย
ถึงมี ๑ ใน ๖ ซักพรรค-ซักคน พร้อมพลีชีพ
อีกนั่นแหละ ก็ต้องไล่ดูแต่ละตัวแทนพรรคในที่นั้น ใครพูดว่าอย่างไร ถ้าศิโรราบ โอกาสถูกยุบก็มี ถ้าขึ้นเสียงเถียงจ๋อยๆ โอกาสรอดก็มี
ประเด็นที่เพื่อไทยสบายตัวและทำให้อีก ๕ พรรคร่วมพลอยสบายไปด้วย ก็ตรงว่า
ในที่ประชุมคืนนั้น แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่อยู่ ไปต่างประเทศ
และวันรุ่งขึ้น ทางพรรคเพื่อไทยออกมาแสดงท่าที "ไม่เห็นด้วย" ที่จะให้นายชัยเกษมเป็นหัวหน้าพรรค อ้างว่า "ต้องประชุมพรรคก่อน...ยึดมติพรรคเป็นที่ยุติ"
ผลที่ออกมา มติพรรคไม่เอานายชัยเกษม แต่เอาแพทองธารเป็นนายกฯ
ตรงนี้ เป็นทางออกเรื่องพรรคถูก "ชี้นำ-ครอบงำ" ได้เป็นรูปธรรม เพราะอ้างได้ว่า ถ้าถูกครอบงำ ก็ต้อง "ชัยเกษม" เป็นนายกฯ ตามข่าวที่ว่า "ทักษิณบัญชา"
แต่นี่ไม่ใช่ชัยเกษม.......
ฉะนั้น "มติพ่อ" ไม่ใช่ "มติพรรค" เพราะมติพรรคเพื่อไทยเอาแพทองธาร และแพทองธารได้รับการเสนอชื่อต่อสภาได้รับโหวตให้เป็นนายกฯ ในที่สุด!
ผมจึงมองว่า ทั้งทักษิณ ทั้ง ๖ พรรค "รอด-รูเบ้อเร่อ" ในประเด็น "ครอบงำ-ชี้นำ" เพราะผลที่ปรากฏ
ไม่ได้เป็นไปตามที่ว่า "ทักษิณ-บัญชา-ชี้นำ" แต่อย่างใด!
แต่นี่เป็น "แผน ๒ ชั้น" ที่แยบยลของคนเหนือพรรคใช่หรือไม่ ผมไม่รุ...คิดกันเอง!
ฉะนั้น เรื่องนี้ เว้นแต่ ๑ ใน ๖ มีใครยอม "ระเบิดพลีชีพ" นั่นแหละ จะแหลกไปด้วยกันทั้งหมด
นี่พูดตาม "เนื้อนอก" เท่านั้น ไม่รู้ว่า "เนื้อใน" ที่หมอวรงค์บ้าง คุณไพบูลย์บ้าง มีอะไรแนบคำร้องเป็นหลักฐาน "มัดตัว-มัดตาย" ดิ้นไม่ไปไม่รอดเท่านั้น
ซึ่งนั่น นอกเหนือความคิดเห็นของผมทั้งหมดต่อเรื่องนี้
ไว้รอดูคำร้องที่นายธีรยุทธยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ๖ ประเด็น สนุกกว่า ผมเห็น ๑ ประเด็นจะจะ "ได้เสียว" แน่
คือประเด็น นักโทษทักษิณอ้าง "ป่วยทิพย์" หนีการรับโทษคุก โดยมีแพทย์ คนราชทัณฑ์ ยุติธรรม "รู้เห็น-เป็นใจ"
นั่นแหละ "ได้ลุ้น"
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญออกข่าวว่า "รับเรื่องไว้พิจารณา" วันไหนละก็ บอสเตรียมได้เลย จะรีเทิร์นคุกหรือรีเทิร์นสัมภเวสี!
บ้านเมืองไทย นี้ ผมรับประกัน "ดีแน่"
และปลายปี ชัวร์ ๑๐๐% จะต้องมีอะไรดีๆ ให้ดูกัน
ส่วนจะประเภท "สุขสันต์-หรรษา" หรือประเภท "อกสั่น-ขวัญแขวน"
บอกก่อน "หมาก็หอนเกรียว" น่ะซี!
-เปลว สีเงิน
๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๗
วันเสาร์ที่ปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ซีเรีย' ปลดแอก รัฐบาลอัสซาด | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
'ซีเรีย' ปลดแอก รัฐบาลอัสซาด จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2567
‘อภิสิทธิ์’ ชี้วิกฤติ รัฐฯหลอมขั้วเหลว ระบอบทักษิณฟื้น!!
‘อภิสิทธิ์’ ชี้วิกฤติ รัฐฯหลอมขั้วเหลว ระบอบทักษิณฟื้น!! วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.
ทักษิณ 'รีเทิร์น' นั่งเมือง
วันนี้คุยเรื่อง "หัวเขียง-หัวขวด" พรรคเพื่อไทยกันต่อ ที่เสนอกฎหมายให้ "นักการเมือง" เข้าไป "ควบคุมกองทัพ"
ร่างฯ 'หัวขวด' เพื่อใคร?
"นักการเมือง" คือคนโง่ เพราะทำอะไรก็ยาก มีกฎหมายหลักคือรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกคือ พ.ร.บ.ต่างๆ
'Grab rider ต้วง'
ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา
สมรภูมิ ประชาธิปไตย | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
สมรภูมิ ประชาธิปไตย จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 08 ธันวาคม 2567