
เมื่อพูดถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (ไฮสปีดเทรนไทย-จีน) ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) พบว่าปัจจุบันงานโยธาทั้ง 14 สัญญาคืบหน้าไม่สอดคล้องกัน รวมทั้งปัจจุบันยังมีอีก 2 สัญญาที่ยังไม่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง ประกอบด้วย สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ซึ่งเป็นสัญญามีงานโยธาทับซ้อนกับโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ปัจจุบันได้ความชัดเจนแล้วว่าทางคู่สัญญาไฮสปีดเชื่อมสามสนามบินจะเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง
ขณะที่สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกวดราคา ได้ผู้เสนอราคาต่ำสุดคือ บริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด แต่ยังไม่สามารถลงนามก่อสร้างได้เนื่องจากติดปัญหาก่อสร้างพื้นที่สถานีอยุธยา ที่มีข้อท้วงติงจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) หรือยูเนสโก ว่าการก่อสร้างสถานีอาจมีความเสี่ยงกระทบต่อมรดกโลก
ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้รับแจ้งจากองค์กรที่ปรึกษาขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก กรณีการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน สถานีอยุธยา ในเบื้องต้นว่า จะเดินทางมายังประเทศไทยและลงพื้นที่แหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 18-22 ม.ค.2568 เพื่อพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา
โดยผู้เชี่ยวชาญฯ จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำและมุมมองทางเทคนิคเกี่ยวกับวิธีการรักษาคุณค่าของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจว่าจะให้สร้างหรือไม่ให้สร้างสถานีอยุธยา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะก่อนหน้านี้ยูเนสโกเป็นผู้แจ้งมาว่าไม่ได้ห้ามให้ก่อสร้างสถานีอยุธยา เพียงแต่ให้จัดทำรายงาน HIA เท่านั้น ดังนั้นในระหว่างนี้ รฟท.ก็สามารถดำเนินโครงการต่อได้
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด รฟท.ได้ข้อสรุปแนวทางเบื้องต้นแล้วว่าจะเดินหน้าก่อสร้างทางรถไฟของสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้วของโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมาไปพลางก่อน และเมื่อผลการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยาขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก เสร็จสิ้นจึงจะให้ผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างสถานีอยุธยาต่อไป เพื่อไม่ให้ภาพรวมการก่อสร้างทั้งโครงการเกิดความล่าช้า
โดย วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯ รฟท. ให้ข้อมูลว่าในส่วนของ รฟท. ขอเวลาตรวจสอบข้อกฎหมายต่างๆ ให้ชัดเจนก่อนว่าการสร้างสถานีอยุธยาต้องรอ HIA หรือไม่ ไม่อยากให้ทำไปแล้วมีปัญหาตามมาทีหลัง แต่ทั้งนี้ รฟท.ก็ไม่อยากให้เรื่องนี้ล่าช้าออกไป และคงไม่สามารถรอผลการพิจารณาของยูเนสโกที่จะมีการประชุมประเทศสมาชิกซึ่งจัดขึ้นทุก 2 ปีเสร็จสิ้นก่อนแล้วจึงจะสร้างทั้งสัญญาได้ ดังนั้น รฟท.จะเดินหน้าก่อสร้างสัญญาที่ 4-5 ในส่วนของทางวิ่งไปก่อน โดยขณะนี้ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง รฟท. อยู่ระหว่างทำความคิดเห็นและรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการต้องทำทางรถไฟไปก่อน เสนอมายังผู้ว่าฯ รฟท. และคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.พิจารณา คาดว่าจะเสนอภายในเดือน ธ.ค.2567 จากนั้นจึงจะลงนามสัญญากับผู้รับจ้างต่อไป
เพื่อเร่งรัดโครงการให้เดินหน้าตามเป้า ปัจจุบัน รฟท.ได้เจรจากับผู้รับจ้างสัญญาที่ 4-5 แล้วว่าจะให้สร้างทางรถไฟไปก่อน จากนั้นจึงจะสร้างตัวสถานีภายหลัง ซึ่งทางผู้รับจ้างไม่ได้ขัดข้องใดๆ และยังคงยืนราคาเดิม โดยเวลานี้ผู้รับจ้างก็ยังคงทำงานก่อสร้างในสัญญาอื่นของโครงการอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม รฟท.พยายามเร่งรัดและแก้ประเด็นต่างๆ ที่ยังติดปัญหาไม่สามารถทำให้โครงการเดินหน้าได้ แต่การจะทำอะไรทุกอย่างก็ต้องตรวจสอบเพื่อให้เกิดความรอบคอบและถูกต้องด้วย
คงต้องจับตาดูว่า ที่สุดแล้ว “ยูเนสโก” จะมีข้อสรุปท้วงติงออกมาเช่นไร และจะส่งผลกระทบกับโครงการหรือไม่.
กัลยา ยืนยง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร
ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย
ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด
เจาะลึกเทรนด์อีคอมเมิร์ซไทย
ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันของ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ Shopee 89%, TikTok Shop 71% และ Lazada 66% โดย 87% ของผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
เสริมความมั่นคงสุขภาพไทย
อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่จังหวะใหม่ที่น่าสนใจ และสำคัญต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อความต้องการเครื่องช่วยหายใจชนิด CPAP/BiPAP
อัปเกรดมาตรฐานความปลอดภัย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เปิดตัวความพร้อมโครงการ “Trusted Thailand” อย่างเป็นทางการ
ดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มโอกาสธุรกิจไทย
ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า


