
ไม่น่าเชื่อในวันที่ 13 ม.ค. 2568 รัฐมนตรี 17 สมัย อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข จะมีอายุครบ 70 ปี เนื่องจากรูปร่างหน้าตาดูอ่อนกว่าวัยมาก เหมือนกับคนอายุประมาณ 50 ปีเศษเท่านั้น
สอบถามเคล็ดลับ ทราบว่า เป็นเพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะอารมณ์ดี ออกกำลังกายดี และอาหารดี
“สมศักดิ์” บอกว่า เมื่อเรามีสุขภาพดีแล้ว สมองก็จะดี มีแรงกายและแรงใจในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ และ เจริญรุ่งเรือง
ด้วยความมีสุขภาพดี ถือเป็นต้นทุนสำคัญของชีวิต จึงอยากส่งต่อไปให้ประชาชนทุกคนมีร่างกายที่แข็งแรง ห่างไกลโรค มีอายุยืน และยังช่วยลดค่าใช่จ่ายมหาศาลในการรักษาตัวจากโรงพยาบาล ที่บางคนถึงกับหมดตัว
จึงเป็นที่มาของ โครงการ “นับคาร์บ” โดยจะมีสูตรวิธีการนับคาร์บ กินอย่างไรห่างไกล ที่กำลังเดินสายให้ความรู้ประชาชนทั่วประเทศ เพื่อป้องกันโรค NCDs หรือ non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ถือเป็นกลุ่มโรคร้ายทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด
ประกอบไปด้วยกลุ่มโรค ทางระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคความดันโลหิตสูง, โรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง ,โรคเบาหวาน , โรคมะเร็งต่างๆ , โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง , โรคไตเรื้อรัง ,โรคอ้วนลงพุง, โรคตับแข็ง ,โรคสมองเสื่อม เป็นต้น
สาเหตุหลักที่เกิดโรคดังกล่าว เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารรสจัด เช่น หวานจัด เค็มจัด อาหารที่มีไขมันสูง อาหารปิ้งย่าง ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย นอนดึก มีความเครียดสูง การรับประทานยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ ทำให้คนที่มีพฤติกรรมการดำเนินชีวิตเช่นนี้ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค NCDs ได้มากกว่าคนอื่นๆ
“หากไม่ต้องการป่วยเป็นโรค NCDs ต้องเลิกพฤติกรรมที่ทำให้เกิดโรค โดยเฉพาะควบคุมการกิน ผมจะเดินหน้าสอนการนับคาร์บ หากใครทำตามได้ ก็จะทำให้ทานข้าวได้เหมาะสมกับร่างกายยังทำให้สวย หล่อ เนื่องจากหุ่นจะดีขึ้นด้วย” รมว.สาธารณสุข กล่าว
สรุปว่านับคาร์บ ถือเป็นมาตรการ “ป้องกัน ดีกว่ารักษา” แถมยังทำให้ดูอ่อนกว่าวัย เหมือน “รมต.17สมัย”ใช่ไหม (อิอิ )
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ได้มีดีแค่ ‘เกษตร’
ถ้าใครเข้าไปรัฐสภา ถามหา มิสเตอร์เกษตร ตั้งแต่แม่บ้าน ตำรวจ ข้าราชการ ยัน สส. สว. รู้หมดว่าหมายถึง สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย
'ทำอะไรต่อ?'
หลัง "เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร" สส.พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีจะไม่ลงสมัคร สส.กทม.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
'ไม่ตรงกับความจริง'
ช่วงนี้ภาคใต้บ้านเราน้ำท่วมหนักซะจนหาดใหญ่กลายเป็นเมืองบาดาลไปเลย ฝนเทลงมาแบบไม่ยั้งมือ จนชาวบ้านหลายคนบอกว่าเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ ใครจะไปคิดว่าน้ำจะทะลักเข้ามาเร็วขนาดนี้ โดยเฉพาะในหาดใหญ่พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของสงขลา
“ขอบคุณทุกน้ำใจ”
ช่วงนี้ถึงแม้ว่าน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะลดลงในบางพื้นที่แล้ว แต่สิ่งที่หนักต่อมาคือผลกระทบหลังน้ำลด ที่ไม่ใช่มีแค่น้ำ แต่เป็นความสูญเสียทั้งเรื่องของสิ่งของและชีวิต รวมถึงจิตใจที่ต้องมีการฟื้นฟูด้วยเช่นกัน
ไม่ยอมป่วย
ช่วงนี้ภาระหนักเต็มมือ “นายกฯ หนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่คลี่คลาย และมาเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่หัวหน้ารัฐบาลอย่างนายอนุทินต้องวางแผนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
มีแต่คนรัก
ทุกๆ ครั้งที่กองทัพต้องเข้าไปมีบทบาทในเรื่องใดๆ หากต้องมีเรื่องการสื่อสาร เสธ.เบิร์ด-พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ต้องถูกเรียกใช้งานเสมอ

