สัญญาณอึมครึม!

เอ๊ะยังไง! ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ทิ้งคำพูดปริศนาเอาไว้ ในระหว่างเป็นประธาน เปิดโครงการอาหารกลางวันสำหรับข้าราชการตำรวจในหน่วยงานที่มีสถานที่ทำการตั้งอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 

ช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่าย และเป็นสวัสดิการให้แก่ข้าราชการตำรวจ

นอกเหนือจากการที่ทางราชการจัดให้ สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ

ตำรวจ ตลอดจนเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างข้าราชการตำรวจ และช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานของทางราชการ

โฆษกกอล์ฟ-พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบายโครงการอาหารกลางวันดังกล่าวในทำนอง ตามนโยบายการบริหารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ข้อ 15 ด้านสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ข้าราชการตำรวจ จึงได้จัดทำโครงการอาหารกลางวันสำหรับข้าราชการตำรวจในหน่วยงานที่มีสถานที่ทำการตั้งอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

แจกคูปองเงินสด จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน ให้แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับหมู่ถึงรองผู้กำกับการ จำนวน 34,554 นาย เพื่อนำไปซื้ออาหารใน “โภชนาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

กำหนดระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569

แต่พอ "ผบ.ต่าย" กล่าวเปิดโครงการทำนอง โครงการนี้เราทำต่อเนื่องแม้จะหายไป 4 เดือนไม่ได้เริ่มปีงบประมาณ ก็เพราะอยูระหว่างการสำรวจ จนมาเริ่ม 1 ก.พ.นี้

"แต่เราคุยกันเฉพาะปีนี้ก่อน เรายังไม่คุยถึงโครงการปีงบประมาณ 2569"

ก็เล่นเอาหลายคนหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ขมวดคิ้วตั้งคำถามอยู่ในใจ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มีอายุราชการบนเก้าอี้ "ผบ.ตร." 2 ปี ตามอายุราชการจะเกษียณปี 2569 เหตุใดต้องคุยกันปีต่อปี

หรือมีอะไรในกอไผ่มากกว่าหน่อไม้???

ยิ่งช่วงนี้แม้ "กรมปทุมวัน" จะอยู่ระหว่างการจัดทำบัญชีแต่งตั้ง "นายพัน" ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ ลงไปถึง สารวัตร วาระประจำปี 2567

แต่ลึกๆ ระดับบน ก็มีความอึมครึม มีข่าวลือ ข่าวเมาธ์ ในทำนองเก้าอี้ "ผบ.ต่าย" เริ่มโดนเขย่า เริ่มโดนสั่นคลอน ทั้งๆ ที่เพิ่งทำงานจริงจังได้ไม่ถึง 5 เดือน เนื้องานตามนโยบายกำลังเริ่มออก คดีต่างๆ กำลังคลี่คลาย มิจฉาชีพกำลังถูกไล่ล่าจับกุมดำเนินคดี

ก็มีแรงกระเพื่อมผู้มีอำนาจจะปัดฝุ่นแผนเก่า แผนเดิม เอาคนของตัวเองมาสลับกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ อ้างโน่น อ้างนี่ ทั้งจีนเทา ทั้งคอลเซ็นเตอร์ หาเหตุเปลี่ยนตัว

แบบโนสนโนแคร์การเปลี่ยนแปลงจะทำให้เหล่า "สีกากี" เกิดความระส่ำ ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน

เรียกว่าจะเอาให้ได้ 

ฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ...เฮ้อ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หรือทิ้งทวน?

ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา

ตำรวจไม่เลวไปหมด

ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต

'200 สีกากี' หนาว!

มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568

ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'

หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย

องค์กรอาชญากรรมหรือ?

เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!

ตั้ง 'นายพล-นายพัน'

น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว