
ถือเป็นสิริมงคลและเสริมสร้างขวัญกําลังใจเหล่า "สีกากี" เมื่อ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จัดพิธีสมโภชศาลพระภูมิและสถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (แห่งใหม่) มีรอง ผบ.ตร., จเรตำรวจแห่งชาติ, ผู้ช่วย ผบ.ตร., นางกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และคณะ พร้อมตำรวจเข้าร่วมพิธีสงฆ์ พิธีพราหมณ์ และพิธีสักการะศาลพระนารายณ์ ซึ่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ปรับปรุงภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช (รัชกาลที่ 4) และทําการอัญเชิญ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณของสํานักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ตํารวจให้ความเคารพนับถือและศรัทธามาอย่างยาวนาน ได้แก่ ศาลพระชัยมงคล ศาลพระภูมิ ศาลพระวิสุทธิเทพ (ในอนันตะจักรวาฬ ไตรโลกธาตุ) และศาลตายาย มารวมไว้ยังสถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (แห่งใหม่) บริเวณลานหอพระนิรันตราย พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ
ตามคิวการแต่งตั้ง "นายพัน" ระดับ รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึง สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2567 ภายในสัปดาห์นี้ก็จะเสร็จสิ้นลงตัว ตามบันทึกสั่งการของ ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ คำสั่งแต่งตั้งทุกหน่วยจะมีผลใช้บังคับพร้อมกันในวันที่ 3 มี.ค. 68 ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่และรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดใหม่ภายใน 7 มี.ค. 68 จากนั้นก็จะถึงคิวการแต่งตั้งตำรวจระดับ รองสารวัตร (รอง สว.) และผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) วาระประจำปี 2567 หรือระดับมดงาน ระดับปฏิบัติ ถือเป็นคิวสุดท้ายในการแต่งตั้งตำรวจวาระประจำปี 2567 คาดว่าทุกอย่างน่าจะจบภายในเดือนมีนาคมนี้ ไม่น่าจะมีเลื่อน ไม่น่าจะมีขยับอีกแล้ว หากช้าสุดก็ไม่น่าเกิน 10 เมษายน เพราะตอนนี้การแต่งตั้งนายพลวาระเดือนเมษายนมาจ่อรอต่อคิวแล้ว ในระดับ รอง สว.-ชั้นประทวน ต้องมาลุ้นเดิมสมัย บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. ให้คำนึงถึงการร้องขอกลับภูมิลำเนาและให้พิจารณาเป็นพิเศษ ไม่รู้ ยุค ผบ.ต่าย จะยังคงให้ความสำคัญหรือไม่ เพราะขวัญกำลังใจตำรวจชั้นประทวน ก็คืออยากกลับไปทำงานใกล้บ้าน ได้ดูแลพ่อแม่ ดูแลลูกเมีย ดูแลครอบครัว ๐
ขอสื่ออย่าใช้คำว่า "ตำรวจเท" การเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. ที่มีการพิจารณาปมร้อนๆ คดีฮั้วเลือก สว.เมื่อกลางสัปดาห์ก่อน เพราะ ผบ.ต่าย ยืนยันติดภารกิจดูงานด้านความมั่นคงที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีการนัดหมายไว้ก่อนแล้ว และช่วงบ่ายก็เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้แทนหลัก ผู้แทนสำรอง เข้าประชุมตั้งแต่ปี 2562 แล้ว ซึ่งมีการมอบหมายให้รอง ผบ.ตร. หรือผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่อยู่ในฝ่ายกฎหมายเป็นผู้แทนหลักและผู้แทนสำรองมาโดยตลอด แต่ ผบ.ต่ายไม่ได้บอกเหตุใดผู้แทนที่ให้มาประชุมแทนอย่าง บิ๊กเปีย-พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. ถึงไม่ได้ไปร่วมประชุมตามที่ ผบ.ตร.มอบหมาย อีกทั้ง 2 ตำรวจที่เป็นกรรมการ ก.พ.ค. ทั้งพล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ก็แจ้งลาประชุม เหตุติดภารกิจและเจ็บป่วย ๐
3 รมต.ฝ่ายความมั่นคง "อ้วน" ภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แถลงเหตุผลการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน หลังจากมีปฏิกิริยาสะท้อนกลับจากต่างชาติทุกทิศทุกทาง ในฝ่ายทหาร พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เข้าร่วมหารือและเดินทางกลับก่อนจึงไม่ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย แต่ในวงนั้นยังเหลือ "เสธ.หมู" พล.ท.สุเมธ พรหมตรุษ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล หรือ ศตก. ที่วันนั้นมาในชุดสูทสากล ถูก “อ้วน" ภูมิธรรมกวักมือเรียกให้มานั่งในโต๊ะแถลงข่าวข้างๆ “จิรายุ ห่วงทรัพย์" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกได้ว่าคนในเพื่อไทยไม่มีใครไม่รู้จัก “เสธ.หมู” เดิมเคยเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการตั้งแต่ยุค “สมัคร สุนทรเวช” เป็นนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม จนมาถึงยุค “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" และอาจจะยิ่งคุ้นหน้าไปมากกว่านั้น เพราะเขาก็คือหนึ่งในแถวของเหล่าบรรดาบิ๊กทางการเมืองไทย ที่ “แรนโช ชาญวี์” เขาใหญ่ จากภาพที่มีการเผยแพร่กันเมื่อหลายเดือนก่อน
เมาธ์กันให้แซ่ดว่า ทีมกลาโหมของ “อ้วน” ภูมิธรรม เน้นไปที่พลเรือนล้วน รวมถึงรุ่นลูกของนักการเมือง และเพื่อนนายใหญ่ ที่พรึ่บทุกทริป เหมือนเป็นการเรียนรู้ ทัศนศึกษา ดูงานที่ไม่คุ้นเคย เรียกได้ว่าในสำนักงานไม่มีข้าราชการทหารเข้าไปร่วมให้ข้อมูลโดยตรง ส่วนทีมกุนซือที่แต่งตั้ง 4 ราย ประกอบด้วย พล.อ.นุชิต ศรีบุญส่ง (ตท.24) อดีตรองปลัดกลาโหม และ ผอ.สนผ.กลาโหม พล.อ.อ.ธัชชัย อัจฉริยาการุณ (ตท.25) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. อดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช พล.ท.เจษฎ์ จันทรสนาม (ตท.25) ที่ปรึกษากองทัพบก อดีตผู้บัญชาการ รร.เสนาธิการทหารบก และ พล.ร.ท.ชัยยงค์ ขุนทา (ตท.25) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ รมต.จะถามกันในบางประเด็นเชิงนโยบาย ซึ่งทีมนี้น่าจะมีการชี้เป้าจากรุ่นพี่ ตท.9 และเพื่อน ตท.10 ที่ทราบกันมาปากต่อปากว่าเป็นมือดีแนะนำมา โดยมี "เลขาฯ หมี" พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการ (ตท.10) มาประกบข้างตัว รมต.ด้วย เพราะในส่วนของหัวหน้าสำนักงาน หัวหน้านายทหารฝ่ายเสธ., ผช.หัวหน้าฝ่ายเสธ. น่าจะเป็นส่วนของสำนักงานปลัดส่งมา จึงไม่ได้ใช้งาน
ไม่น่าจะมีฟ้าผ่าที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หลังจาก พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สำนักงานสลากฯ ได้นั่งทำงานต่ออีกสมัย แม้จะมีสัญญาณในการจะเข้าไปสังคายนาหน่วยงานกระเป๋าเงินของรัฐบาล แต่ทุกอย่างยังดูนิ่งๆ ล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี มีการแต่งตั้ง พล.อ.ยุทธเกียรติ ล้วนไพรินทร์ (ตท.25) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคม เพื่อทดแทนตำแหน่ง พล.อ.ธนะศักดิ์ ชื่นอิ่ม ที่ขอลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเกษียณอายุราชการจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม โดย พล.อ.ยุทธเกียรติ เป็นเพื่อนเตรียมทหารของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ "เสธ.หิ" หิมาลัย ผิวพรรณ ผอ.พรรครวมไทยสร้างชาติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความจริงเทียมทำร้ายสังคม
การสื่อสารของสื่อสารมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าประตูข่าว เลือกข่าวที่จะนำเสนอ และปิดข่าวที่ไม่ต้องการเสนอ ทำให้สังคมรับรู้ความจริงเทียม (Pseudo-reality)
น้ำท่วม!!!...กับ'พรหมวิหาร4'
ออกจะหนักหนา-สาหัสมิใช่น้อย...สำหรับ น้ำท่วมปักษ์ใต้ คราวนี้!!! ไม่ใช่แต่เฉพาะ หาดใหญ่-สงขลา ที่แม้แต่ผู้เป็นห่วง เป็นใย ออกไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยังอดร้องห่ม ร้องไห้
เมื่อ 'ศูนย์ฯ' กลายเป็น 'ศูนย์'
ฟังเหตุผล ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ถึงเรื่องที่ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา ผู้การสงขลา มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับหาดใหญ่-พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569
ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว
เมื่อผู้ใหญ่จัญไรอัปรีย์...จะมีอะไรดีให้ลูกหลาน
ลองวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเราขณะนี้ เราก็จะเห็นว่าประเทศไทยเรากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมีผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ทำตัวชั่วช้าสามานย์
แด่..อาจารย์'สุธี ประศาสน์เศรษฐ'
หลังออกจากห้อง ไอซียู เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว...หนึ่งในผู้ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ไปเชียร์ให้สู้ๆ เข้าไว้ ก็คือ ดร.สุธี ประศาสน์เศรษฐ ผู้ที่แนะนำตัวเองด้วยสำเนียงติดตลกมาทางโทรศัพท์


