
สัปดาห์ที่ผ่านมานอกจาก “เนวิน ชิดชอบ” ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะบรรยาย ซื้อใจ นายกฯ อบจ. ทั่วประเทศแล้ว เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้บ้านใหญ่
อีกประเด็นสำคัญ ที่ถือเป็นประโยชน์นำไปพัฒนาท้องถิ่น คือการเล่าประสบการณ์การสร้างเมืองบุรีรัมย์ ในรอบ 15 ปี จากเมืองตำน้ำกิน จนกลายเป็นเมืองหลัก และเป็นจุดหมายของท่องเที่ยวและกีฬา
“เนวิน” ประเมินถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่รวดเร็วขอทำนายว่าถ้า นายก อบจ. และ ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่รีบปรับตัวอาจมีปัญหา จะทำให้เมืองที่เคยเป็นเมืองหลักกลายเป็นเมืองผ่าน
พร้อมยกตัวอย่าง “บุรีรัมย์ โมเดล” ที่มีการลงทุนสร้างแม็กเน็ต หรือ แม่เหล็กดึงดูดให้กับจังหวัดตัวเองเพื่อให้คนมาเที่ยว มาพัก มาใช้เงิน
ประธานสโมสรบุรีรัมย์ บอกอย่างภาคภูมิใจ ถึงการสร้างบุรีรัมย์โมเดลร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่มากกว่า 15 ปี
เดิมไม่มีโรงแรมสองดาวเลย ที่ดินรอบสนามฟุตบอลช้างอารีน่า ราคาไร่ละไม่ถึงล้าน แต่พอสร้างสนามแข่งรถและสนามฟุตบอลเสร็จ ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา มีโรงแรมใหม่ๆที่ดีขึ้น ที่ดินรอบสนามช่างวันนี้เริ่มต้นไร่ละ 5 ล้าน ทำให้เศรษฐกิจบุรีรัมย์กระจายตัวและดีขึ้น
การสร้างแม่เหล็กดึงดูด จำเป็นต้องสร้าง Man Made Destination โดยมีคาถา 3 ข้อ คือ ข้อ1 แปลก เพราะถ้าไม่มีความน่าสนใจคนก็จะไม่มา
ข้อ 2 ความอลังการ เช่นการจัดงานผ้า Colors of Buriram ที่ เมืองบุรีรัมย์ ใช้ดอกสะแบง หรือดอกไม้สัญลักษณ์ของคนอีสานกว่า 10 ล้านดอกมาประดับในงาน
ข้อ 3.การแชร์ เพราะทุกวันนี้โลกโซเชียลไปเร็ว จึงต้องทำให้นักท่องเที่ยวเกิดการบอกต่อ เพื่อให้คนทั่วโลกเห็นของดีในจังหวัด แต่ทุกอย่างต้องดำเนินการโดยมีมาตรฐานระดับอินเตอร์
นี่คือคาถา 3 ข้อของ “เนวิน” ที่จับมือประชาชน เดินหน้าพัฒนาเมืองให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยไม่เปลี่ยนแปลงไปตามนโยบายจากส่วนกลางที่เข้ามาในพื้นที่
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ได้มีดีแค่ ‘เกษตร’
ถ้าใครเข้าไปรัฐสภา ถามหา มิสเตอร์เกษตร ตั้งแต่แม่บ้าน ตำรวจ ข้าราชการ ยัน สส. สว. รู้หมดว่าหมายถึง สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย
'ทำอะไรต่อ?'
หลัง "เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร" สส.พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีจะไม่ลงสมัคร สส.กทม.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
'ไม่ตรงกับความจริง'
ช่วงนี้ภาคใต้บ้านเราน้ำท่วมหนักซะจนหาดใหญ่กลายเป็นเมืองบาดาลไปเลย ฝนเทลงมาแบบไม่ยั้งมือ จนชาวบ้านหลายคนบอกว่าเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ ใครจะไปคิดว่าน้ำจะทะลักเข้ามาเร็วขนาดนี้ โดยเฉพาะในหาดใหญ่พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของสงขลา
“ขอบคุณทุกน้ำใจ”
ช่วงนี้ถึงแม้ว่าน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะลดลงในบางพื้นที่แล้ว แต่สิ่งที่หนักต่อมาคือผลกระทบหลังน้ำลด ที่ไม่ใช่มีแค่น้ำ แต่เป็นความสูญเสียทั้งเรื่องของสิ่งของและชีวิต รวมถึงจิตใจที่ต้องมีการฟื้นฟูด้วยเช่นกัน
ไม่ยอมป่วย
ช่วงนี้ภาระหนักเต็มมือ “นายกฯ หนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่คลี่คลาย และมาเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่หัวหน้ารัฐบาลอย่างนายอนุทินต้องวางแผนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
มีแต่คนรัก
ทุกๆ ครั้งที่กองทัพต้องเข้าไปมีบทบาทในเรื่องใดๆ หากต้องมีเรื่องการสื่อสาร เสธ.เบิร์ด-พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ต้องถูกเรียกใช้งานเสมอ


