บันทึกหน้า 4

เทศกาลสงกรานต์ 2568 กำลังจะจบลง แต่ดูเหมือนตัวเลข 7 วันอันตรายยังน่าเป็นห่วงตามเคย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 แถลงตัวเลข สรุปข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ช่วงวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ว่าเกิดอุบัติเหตุ 214 ครั้ง ลดลง 29.37% บาดเจ็บ 209 คน ลดลง 33.86% และมีผู้เสียชีวิต 27 ราย ลดลง 30.77% ส่วนยอดสะสม 5 วัน ระหว่างวันที่ 11-15 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุ 1,216 ครั้ง ลดลง 22.89% ผู้บาดเจ็บ 1,208 คน ลดลง 24.36% ผู้เสียชีวิต 171 ราย ลดลง 24.67% โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือพัทลุง 44 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุดคือ ลำปาง 47 คน และ จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 15 ราย ...๐

ในขณะที่ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ สรุป คดีที่ศาลมีคำสั่งคุมความประพฤติในยอดสะสม 5 วันว่ามี 3,716 คดี โดยติดอุปกรณ์ EM รวม 25 ราย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีที่เข้าสู่การคุมความประพฤติวันที่ 5 ของปี 2567 พบว่ามีคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 236 คดี และปี 2568 มีจำนวน 403 คดี เพิ่มขึ้น 167 คดี ซึ่ง จังหวัดที่มีคดีเมาขับสูงสุด ได้แก่  กทม. 295 คดี นนทบุรี 242 คดี และสมุทรปราการ 226 คดี งานนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม. 1 ล้าน 3 แสนเสียงที่แว่วว่าจะลงสมัยที่ 2 จะอ้างสาเหตุอะไรในการที่ “กทม.” ครองแชมป์ตายและครองแชมป์คดีเมาแล้วขับสูงสุด ...๐

หันมาดูการบ้านการเมืองกันบ้างแม้จะอยู่ในช่วงเทศกาลสาดน้ำก็ตามที เพราะล่าสุดมีการเคลื่อนไหวของบรรดาลูกหาบนายใหญ่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้ง “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และ “วรชัย เหมะ” อดีต สส.สมุทรปราการ พรรค พท. แกนนำคนเสื้อแดงสมุทรปราการ ต่างพร้อมใจกันออกมาให้กำลังใจนายหญิงน้อย “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีกันอย่างถ้วนหน้า ว่าจะอยู่ครบวาระและสามารถบริหารความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาลได้ ...๐

ที่ขำมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “จิรายุ ห่วงทรัพย์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาเปิดว่า “นายกฯ อิ๊งค์” ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 114 คน ผู้นำที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปีที่สร้างการเปลี่ยนแปลง โดย The Forum of Young Global Leaders (YGL) ประจำปี 2025 พร้อมทั้งตีปี๊บว่า YGL เป็นโครงการริเริ่มของ World Economic Forum (WEF) ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 มีสมาชิกและอดีตสมาชิกมากกว่า 1,400 คน จากกว่า 120 ประเทศ ครอบคลุมหลากหลายสาขาอาชีพ เช่น นักธุรกิจ นักการเมือง นักวิชาการ ศิลปิน และนักกิจกรรมทางสังคม ...๐

เรียกว่าใครอ่านพบอ่านเจอต้องตะลึงพรึงเพริดอย่างแน่นอน แต่หากใครเข้าไปดูในเว็บไซต์ของ YGL ก็จะพบว่า ไม่ได้มีคนไทยคนเดียวที่ชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” ได้รับการยกย่อง แต่ยังมีชื่อของ “อมรเทพ สัจจะมุนีวงศ์” ผู้ก่อตั้งบริษัท สติ แอพ จำกัด หรือ Sati App ด้วย และหากดูการเรียงลำดับ “อมรเทพ” ยังเหนือกว่า “แพทองธาร” ด้วยซ้ำไป ซึ่งก็ไม่น่าแปลกที่นักการเมืองจะพูดไม่หมด หรือพูดเฉพาะแค่ข้อดีของฝ่ายตนเองทั้งนั้น ซึ่งต้องบอกว่าเป็น “สันดาน” ก็ว่าได้ ไม่ว่าจะอยู่ฟากไหน ที่สำคัญ “จิรายุ” เขามีหมวกหลายใบ จึงไม่แปลกอีกเช่นกันที่ต้องพยายามอวยนายหญิงน้อยอย่างหนัก เพราะเผลอๆ การปรับคณะรัฐมนตรีอาจจับพลัดจับผลูไปนั่งรัฐมนตรีก็ได้ใครจะไปรู้ ...๐

หันมาฝ่ายค้านกันบ้าง “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชนก็ยืนยันแล้วว่าในวันที่ 21 เม.ย. จะเดินหน้ามาตรการโรยเกลือรัฐบาลต่อเนื่องจากเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะแถลงข่าว 3 ประเด็นหลัก พุ่งเป้าไปที่ “นายกฯ อิ๊งค์” คือ 1.เรื่องตั๋วพี/เอ็น ที่เข้าข่ายทำนิติกรรมอำพราง และกำลังจะสร้างแพทองธารโมเดลให้เกิดขึ้น 2.โฉนดโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ และ 3.กรณีของนักโทษชั้น 14 โดยตัวตึงแห่งค่ายส้มระบุว่าจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป แต่ยืนยันว่าจะไม่ใช้ช่องทางจริยธรรมจัดการกับนายกฯ แน่ๆ แม้จะได้ประโยชน์ก็ตามกับการยื่นมีดให้ศาลรัฐธรรมนูญ ...๐

สุดท้ายถือเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่ง “ชนากานต์ ธีรเวชพลกุล” ประธานศาลฎีกา ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานศาลยุติธรรมที่ 436/2568 เรื่อง อนุญาตให้ข้าราชการตุลาการลาออกจากราชการ โดย อนุญาตให้ “กิตติ อินนาคกูล” ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดแม่สอดลาออกจากราชการ ซึ่งเหตุผลคือต้องการศึกษาและปฏิบัติธรรม เพื่อให้พ้นภัยในวัฏสงสาร งานนี้ต้องอนุโมทนาสาธุให้ผู้พิพากษาที่เลือกเส้นทางดังกล่าว เพราะถือเป็นต้นธารในอนาคตที่เชื่อว่าจะมีคนเดินตามอีกไม่มากก็น้อยทีเดียว ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.