
ต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองก็ว่าได้ ในวันพุธที่ 30 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันสิ้นเดือนและมีพายุฤดูร้อนถล่มประเทศไทยตอนบนตามที่ “กรมอุตุนิยมวิทยา” ได้ทำนายไว้ เพราะ นอกจากพายุฤดูร้อนแล้ว ยังมีพายุการเมืองในหลายๆ ด้านที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และมีตัวละครทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าโผล่ให้เป็นข่าวกันมากมาย ...๐
ต้องเริ่มที่จับตากันมากที่สุด คงหนีไม่พ้นที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ “ชาญชัย อิสระเสนารักษ์” อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นขอให้ไต่สวนกรณี “กรมราชทัณฑ์” อนุญาตให้ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ...๐
งานนี้ยังมี “สมชาย แสวงการ” อดีต สว. และ “นิติธร ล้ำเหลือ” วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เดินทางมาให้กำลังใจด้วย ซึ่งศาลฎีกาฯ ได้อ่านคำสั่งชี้ว่าผู้ร้องไม่ใช่คู่ความ และไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลย จึงไม่จำต้องวินิจฉัยคำขอดังกล่าว เรียกว่า กองเชียร์ “พี่โทนี่” เฮลั่น แต่ศาลมีคำสั่งต่อว่า “เมื่อความปรากฏต่อศาลว่าอาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร” โดยมีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย. เวลา 09.30 น. และให้ “ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร” “อธิบดีกรมราชทัณฑ์” และ “นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ” แสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน ...๐
“ศุกร์ 13 มิ.ย.” จะสยองขวัญสั่นประสาทใครหรือไม่คงต้องติดตาม เพราะหลังจากวันดังกล่าวหาก “สทร.” ยังอยู่ในประเทศไทยก็จะมีดาบสองว่าด้วยการนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยคดีมาตรา 112 ของ “ทักษิณ” ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.เป็นต้นไปด้วย งานนี้เลยต้องติดตามกันอย่ากะพริบตาว่า นับจากนี้จะมีปรากฏการณ์อะไรเกิดขึ้น ...๐
เอ่ยถึงศาลฎีกาฯ และ “โทนี่ วู้ดซัม” แล้ว ไม่เอ่ยถึงศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะ มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาในคดีที่ “วิโรจน์ นวลแข” อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย ร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ในคดีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ปล่อยกู้สินเชื่อเครือกฤษดามหานครโดยมิชอบร่วมกับ “ทักษิณ” โดยศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง สทร. จำเลยที่ 1 แล้ว ตนเองก็ไม่ควรถูกดำเนินคดี ซึ่งงานนี้ศาลก็ตีตกคำร้องเป็นเรื่องที่ศาลอื่นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว ...๐
พูดเรื่องโรงเรื่องศาลแล้ว ไม่เอ่ยถึงมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ล่าสุดก็ไม่ได้ เมื่อมีมติให้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา วินิจฉัยสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง “พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย” สว. กรณีกระทำการหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถหรือชื่อเสียงเกียรติคุณตามมาตรา 77 (4) จากเหตุแจ้งว่ามีคุณสมบัติ “ดอกเตอร์” จากแคลิฟอร์เนียยูนิเวอร์ซิตี้ ในการยื่นสมัคร สว. เรียกว่าเงื้อง่าราคาแพงมานาน ก็หลังจากมี มติรับเรื่องตั้งแต่ 5 ก.ค.2567 หรือใช้เวลาถึง 300 วัน ถึงจะสะเด็ดน้ำเสียที ซึ่งหากศาลฎีกาประทับรับฟ้อง “หมอเกศ” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ...๐
เอ่ยถึง กกต.ไม่เอ่ยถึงงานรูทีนของ “สว.สำรอง” ที่นำโดยขาประจำอย่าง “พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว” ไม่ได้ เพราะล่าสุดก็บุก กกต.ไปยื่นหนังสือเปิดผนึกจี้ตรวจสอบ “ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ” กกต. ปมถูกกล่าวหาสินบน 300,000 บาท วิ่งเต้นเลื่อนตำแหน่งใน สตง. เรียกว่าเป้าหมายเดิมที่ชื่อ “แสวง บุญมี” เลขาธิการ กกต.อารมณ์ดีไปได้อีกหนึ่งสัปดาห์ ส่วนอาทิตย์หน้า สว.สำรองจะหวนกลับมาทวงบัญชีแค้นตามเดิมหรือไม่นั้น ก็คงต้องติดตาม เพราะ “สว.สำรอง” เขาก็ต้องมีอีเวนต์กลัวสังคมลืมกันบ้าง ...๐
หันมาเรื่อง “เศรษฐกิจ” กันบ้าง เพราะล่าสุด บริษัทจัดอันดับเครดิต “มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส” ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทยลงสู่มุมมองเชิงลบ จากเดิมที่มีเสถียรภาพ โดยงานนี้ “จิรายุ ห่วงทรัพย์” โทรโข่งรัฐบาลก็ออกเคลียร์ทำนองว่า “มูดี้ส์” ใจเร็วไปหน่อย พร้อมสำทับยกบริษัทจัดอันดับเครดิตหลายเจ้าขึ้นมาเสมือนว่าไม่ง้อมูดีส์ก็ได้อย่างไรอย่างนั้น ต่อมา “พิชัย นริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์ก็ออกมาพูดในทำนองเดียวกันว่าตัดสินประเทศไทยเร็วไปหน่อย พร้อมย้อนว่า “มูดี้ส์ต้องมองตัวเองก่อน และต้องดูการคาดการณ์ของตัวเองด้วยว่าที่ทำมามันเวิร์กไหม” แหม แทนที่จะเร่งแก้ไขข้อบกพร่องที่เขาชี้ในเหตุผลการลดเครดิต แต่นี่กลับฟาดงวงฟาดงาจะให้เขาหลับหูหลับตาเหรอจ๊ะ เขาไม่ใช่บริษัทจัดอันดับไก่กาที่ไหน แต่เป็นระดับโลกที่มีมาตรฐานและความเชื่อถือนะตัวเอง ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


