
น่าเห็นใจ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เวลาจะพูดอะไรประชาชนจึงไม่ค่อยเชื่อ หลังยอมเปิดปากพูดเรื่องอาการป่วยของ “ทักษิณ ชินวัตร” ว่าป่วยจริง
“แต่อย่างที่เคยพูดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าพูดไปแล้วจะเชื่อหรือไม่ ถ้าตัวเองพูดจะเชื่อหรือไม่” นายกฯกล่าวหลังประชุมครม. 6 พ.ค.
สาเหตุที่คนไม่เชื่อ คำพูดนายกฯ ไม่เฉพาะปม “ทักษิณ” ป่วยทิพย์ หรือไม่เท่านั้น แต่สังคมไม่เชื่อ เริ่มตั้งแต่ยอมรับดีลสัญญาปีศาจ ในการจัดตั้งรัฐบาล
ไล่ตั้งแต่บทบาทหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ประกาศก่อนเลือกตั้ง “ให้ดูหน้าดิฉัน ไว้ ไม่จับมือกับคนทำรัฐประหาร”
แต่ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลก็ ถีบพรรคส้ม และไปร่วมงานกับพรรคสองลุง เพื่อให้ตัวเองเป็นแกนนำรัฐบาลและ ทักษิณ ได้กลับบ้าน
ต่อมา “นายกฯอิ๊งค์” ตอบคำถามเรื่องนี้อีกครั้ง “ใช่คะ ที่บอกดูหน้าดิฉันนะคะ จะไม่จับมือคนทำรัฐประหาร อันนี้นี้คือ 2 ปีที่แล้วใช่ไหม เผอิญคะแนนมันไม่ถึง ก็เลยต้องจับกันหน่อยแล้วเหมือนกัน ทำไมคำถามดีเลย์“
คำพูดนี้ถูกชาวโซเชียลฯถล่มยับว่า ไม่ใช่คำถามดีเลย์ แต่เป็นคำถามหลักการตลอดกาล ที่นักการเมืองจะต้องยึดสัจจะและไม่กลับคำพูด เพราะต่อไปเวลาไปหาเสียงแล้วรับปากไว้กับประชาชนไว้ ก็จะได้เกิดความแน่ใจว่าจะรักษาสัญญา มิใช่ต้องไปเสี่ยงเอาเหมือนแทงหวย
นอกจากนี้ในเรื่องนโยบายต่างๆที่เป็นเรือธงของพรรคเพื่อไทย ก็ยังทำตามที่พูด ไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงินหมื่น ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เฟส 3 กลุ่มเด็กวัยรุ่น เฟส4 ประชาชนทั่วไปที่เหลือจะได้หรือไม่ยังไม่ทราบ
รวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับก็ยังไม่ไปไหน แตกต่างจากเรื่องเปิดบ่อนกาสิโน ไม่ได้อยู่ในนโยบายหาเสียงแต่รัฐบาลเพื่อไทย พยายามจะเอาได้ ท่ามกลางปัญหาปากท้องของประชาชน เศรษฐกิจ ภัยพิบัติ และไฟใต้ ที่เร่งด่วนกว่า
ด้วยเครดิตของรัฐบาลเพื่อไทย และ คำพูดของ นายกฯ ที่เป็นเช่นนี้ จึงทำให้ เวลาพูดอะไรไปคนจึงไม่เชื่อใช่หรือไม่
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป
การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.
‘เซนส์’ ที่ดี
นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว
'เสือกระดาษ' ยามสงคราม
สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
“พบกันในสนามอ่างทอง”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา
สู้เต็มที่
เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ

