บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่าวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2568 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6  ปีมะเส็งนั้น  ตรงกับวัน อุบาทว์/อุบาสนซึ่งตามตำราปัจจุบันเป็นวันไม่ดี ไม่เป็นมงคล ตกอยู่ในบ่วงกรรมอุปสรรค ทำการค้าไม่ขึ้น โชคร้าย อุบัติเหตุ เคราะห์ไม่ดี สิ่งที่ไม่เป็นมงคล (ใช้กับบุคคล) ซึ่งจะแม่นหรือไม่นั้นคงต้องติดตามผลการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาที่จะพิจารณาผลสอบสวนจริยธรรมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจและแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ของ .เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมีกรรมการแพทยสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ ที่แต่งตั้งโดยแพทยสภา หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยเลื่อนมาแล้วจากวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งงานนี้ไม่รู้ว่าจะเจอโรคเลื่อนอีกครั้งหรือไม่ ...

ไม่ใช่แค่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีและขบวนการป่วยทิพย์จะลุ้นแล้ว อีกด้านหนึ่งก็มีข่าวหลุดออกว่า 8 พ.ค. คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ภายใต้บังเหียนอิทธิพร บุญประคองก็จะประเดิมแจ้งข้อกล่าวหาบรรดาสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ล็อตแรก 60 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็น สว.คนดัง ในความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 32, 36, 62, 70 และ 77 เรียกว่า 8 พ.ค. อาจยกระดับจากวันอุบาทว์เป็นวันโลกาวินาศก็ว่าได้ หากชื่อ 60 สว.นั้นมีบิ๊กเนมจริงๆ ตามที่ข่าวปล่อยออกมา ...

หันมาเรื่องอินเตอร์กันบ้าง โดยเฉพาะ สถานการณ์การปะทะกันระหว่างอินเดียและปากีสถานซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานนมแล้ว แต่ดูเหมือน “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีแทบจะไม่ใส่ใจแต่ประกาศใดเลย โดยกล่าวเรื่องดังกล่าวตามแบบฉบับสั้นๆ ว่า “ได้รับรายงานแล้ว และขอให้กระทรวงการต่างประเทศติดต่อคนไทยที่อาศัยอยู่ในทั้งสองประเทศ จึงขอให้รอการแถลงข่าว และการแจ้งข่าวสารจากกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง ซึ่งดิฉันได้สั่งการไปแล้ว” งานนี้ก็ไม่รู้ทีมที่ปรึกษาหูกระต่ายเป็นผู้นำไม่กระซิบเหรอว่า สงครามครานี้หากลุกลามรุนแรงจะหนักหนากว่าสงครามภาษีทรัมป์ไปไกลทีเดียว ...

เรียกว่าขำไม่ออกจริงๆ สำหรับนายกฯ เจนวาย เพราะทีเรื่องเดือดร้อนพูดและให้สัมภาษณ์แบบห้วนๆ แต่กับกรณีเลือกตั้งต่างประเทศ “นายกฯ อิ๊งค์” ตีปี๊บแสดงความยินดีอย่างออกหน้าออกตาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่มี ไล่มาตั้งแต่มาร์ก คาร์นีย์ที่ชนะเลือกตั้งนายกฯ แคนาดา ตามมาด้วยแอนโทนี อัลบาเนซีนายกฯ ออสเตรเลีย และลอเรนซ์ หว่องนายกฯ สิงคโปร์ โดยเฉพาะ 2 ประเทศแรกนั้นเรียกว่าตะโกนร้องป่าวกันเลยทีเดียว เพราะเป็นนายกฯ คนเก่าที่คะแนนนิยมรัฐบาลกำลังร่วง แต่กลับพลิกชนะขึ้นมา ก็ ไม่รู้ว่าแพทองธารหวังว่าจะได้รับอานิสงส์เหมือนกันหรือไม่ในอนาคต ...

หันมาส่องเรื่องไฟใต้กันบ้าง เพราะตั้งแต่ “สทร.” ฟุ้งเรื่องดังกล่าวมา โดยประเดิมขออภัยเหตุการณ์ตากใบเมื่อเดือน ก.พ. และล่าสุดก็เพ้อเรื่องการจัดองคาพยพดับไฟใต้เมื่อเดือน เม.ย.เป็นต้นมา เหตุการณ์ความรุนแรงดูเหมือนจะหนักหนาสาหัสมากขึ้น ที่สำคัญเป็นการกระทำต่อพระและสามเณร รวมถึงคนพิการ ซึ่งต้องเรียกว่าเกิดขึ้นน้อยมากในความรุนแรงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา

งานนี้เราเลยได้เห็นใครต่อใครโผล่ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี จาตุรนต์ ฉายแสงสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ. ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นพร้อมออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงด้วย เหมือนว่ากลัวตกขบวน อย่างไรอย่างนั้น ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะทุกวันนี้ในพรรค “จาตุรนต์” ก็แทบไม่มีใครให้ความสำคัญอยู่แล้ว ...

ทิ้งท้ายด้วยข่าวที่น่าคิดเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ เมื่อ “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย แถลงผลงานในรอบ 6 เดือน (..2567-มี..2568) ของอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรววงมหาดไทย ซึ่งปกติการสรุปผลงานดังกล่าวแบบนี้มักเกิดขึ้นในช่วงปลายปี หรือไม่ก็หลังใกล้เลือกตั้ง แต่นี่ กลับโผล่มาในเดือน .. ต้องบอกว่า หรือจะมีอะไรในกอไผ่กันแน่ ...

 

.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.