
ต้องยกนิ้วให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ในยุค “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” กุมบังเหียน เพราะทุกวันพุธมักมีเรื่องที่เป็น “ไฮไลต์” ให้ติดตามเสมอๆ โดย ล่าสุดก็มีมติเอกฉันท์ในคดีที่ 92 สมาชิกวุฒิสภารวมชื่อส่งให้ศาลวินิจฉัยว่า “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ในคดีพิเศษฮั้วเลือก สว. โดยมติให้ “พ.ต.อ.ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่ เฉพาะในฐานะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษและรองประธานกรรมการคดีพิเศษ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ส่วน “บิ๊กอ้วน” นั่นรอดสันดอนไปได้...๐
ต้องเรียกว่างานนี้ “พ.ต.อ.ทวี” เสียรังวัดอย่างมาก และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสัญญาณร้ายที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าตัวก็ว่าได้ งานนี้ “พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร” สว.ที่ร่วมยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวิเคราะห์ปมเรื่องนี้ว่า เป็นเพราะ “ออกมาแหกปากให้สังคมเกลียดชัง สว.” พร้อมสำทับว่า “เดี๋ยวเจอคิดบัญชีแน่” งานนี้บอกเลยว่ายาวแน่...๐
ศาล รธน.ยังมีมติที่เกี่ยวกับเรื่องฮั้ว สว.อีกเรื่อง ซึ่งมีมติเอกฉันท์เช่นกัน โดยไม่รับคำร้อง สว.สำรองที่นำโดย “พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว” เข้าชื่อให้วิเคราะห์ปม 92 สว.ยื่น ป.ป.ช.สอบ “ทวี-ภูมิธรรม” เป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่งของ สว.อันมีลักษณะต้องห้ามเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง โดยงานนี้ศาลบอกชัดว่าเข้ากฎหมายโดยเฉพาะกรณีนี้อยู่แล้ว ซ้ำร้ายผู้ร้องยังเป็นเพียงผู้มีรายชื่อเป็นผู้ได้รับเลือกรับเป็น สว. (บัญชีสำรอง) มิได้มีสถานะเป็น สว.แต่ประการใด แหม! บอกนิ่มๆ ถึงเรื่องอำนาจหน้าที่ แต่เจ็บจี๊ดถึงทรวง จึงไม่น่าแปลกที่คณะ สว.สำรองถึงยกพลไปให้กำลังใจที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแทน...๐
หันมาดู “บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ซึ่งเป็น 1 ใน 55 สว.ที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะที่ 26 ลงนามออกหนังสือเชิญเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเจ้าตัวลั่นปากว่า 19 พ.ค.นี้ไปแน่นอน พร้อมต่อสู้ตามข้อเท็จจริง ไม่กังวลใจใดๆ ทั้งสิ้น...๐
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของสภาสูงอีกส่วนหนึ่ง “นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ” สว. ก็ได้แถลงคัดค้านสอดไส้วาระ การเลือกเก้าอี้องค์กรอิสระ 2 หน่วยงานคือ กกต. 1 ตำแหน่ง และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ตำแหน่ง ที่แว่วว่า “มงคล สุระสัจจะ” ประธานวุฒิสภา อาจบรรจุวาระในสมัยประชุมที่รัฐบาลเปิดพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ซึ่งงานนี้ก็เหมือนที่ “หมอเปรม” แถลงนั่นแลว่าไม่ควรเร่งรีบรวบรัดจนเกินงาม...๐
หันมาทางการเมืองว่าด้วยมติแพทยสภากันบ้าง เพราะหลังจากสัปดาห์ที่แล้วที่มีมติฟัน 3 หมอออกมาชัดเจน และที่สำคัญเป็นการตอกย้ำให้ สังคมรับทราบว่า “สทร.” หรือ “ทักษิณ ชินวัตร” ป่วยทิพย์ มิได้ป่วยจริงนั้น ยังคงต้องติดตามท่าทีของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา จะใช้สิทธิ์วีโตมติเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย แต่อาจ เข้าทำนองตามที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีต สส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ไว้นั่นแลว่า “เตะหมูเข้าปากหมา” เพราะระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ปี 2566 ที่ออกมานั้น ให้คุมขังนอกเรือนจำได้ ซึ่งอาจคุมขัง “ทักษิณ” ไว้ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นเวลา 180 วันก็ได้...๐
หันมาดูเรื่องเศรษฐกิจกันบ้าง โดยเฉพาะการเจรจาเรื่องกำแพงภาษีทรัมป์ที่งุบงิบในเรื่องดีลลับตามที่นายกฯ เจนวายบอกไว้ ล่าสุด “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าทีมไทยแลนด์ ก็แถลงรายละเอียด 5 ข้อ ที่จะนำไปเจรจาแล้ว ซึ่งมีทั้ง 1.เสริมความร่วมมือธุรกิจอาหารแปรรูปไทยและสหรัฐ 2.เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 3.เปิดตลาดและลดอุปสรรคทางการค้า 4.บังคับใช้กฎหมายถิ่นกำเนิดสินค้าเคร่งครัด และ 5.ส่งเสริมการลงทุนไทยในสหรัฐ...๐
ส่วนในเรื่องเงินหมื่นรอบ 3 ซึ่งถือเป็นรอบที่ใหญ่และครอบคลุมมากที่สุด แนวโน้มก็บอกได้คำเดียวว่าคงโอละพ่อแล้ว โดยท่าทีของขุนคลังบอกว่าขอทบทวนก่อน งานนี้เลยอยากแนะนำให้ยิงกระสุนนัดเดียวได้นกหลายตัว เพราะ ล่าสุดคณะรัฐมนตรีเพิ่งอนุมัติการออกพันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบโทเคนดิจิทัล หรือ G-Token งานนี้ก็แจกเป็นโทเคนไปเลย ถือเป็นการออมและพัฒนาประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัลไปด้วย เพราะที่ผ่านมา “เงินหมื่น” ก็ไม่เคยตรงปกอยู่แล้วมิใช่เหรอ...๐.
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


