
ต้องยอมรับว่ายามนี้ “ภูมิใจไทย” ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญชีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมี ครูใหญ่อย่าง “เนวิน ชิดชอบ” นั้น กลายเป็นตำบลกระสุนตกของคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. อย่างหนัก แต่ดูเหมือน “อนุทิน” และพลพรรคสีน้ำเงินก็มิได้มีความหวั่นเกรงแต่ประการใด แต่คนที่น่าจะเจอการตอบโต้หนักอาจเป็นผู้จุดพลุหรือจุดประเด็นทั้งหลาย ไม่ว่า “ณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และ “กุสุมาลวตี ศิริโกมุท” สว.สำรองนั่นแล ...๐
โดยเฉพาะ ในรายของ “กุสุมาลวตี” หรือเจ๊แมว ซึ่งย้ายมา 9 พรรคแล้วตั้งแต่เริ่มเล่นการเมือง เหมือนแมว 9 ชีวิตนั้น ซึ่งเปิดหน้าสู้โดยประกาศว่าตายเป็นตาย พร้อมฟาดทั้ง “อนุทิน” “ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาธิการพรรค และ “สุขสมรวย วันทนียกุล” สส.อำนาจเจริญ เชื่อว่าอ่วมแน่ แต่เป็น การอ่วมทางคดีที่ทั้งพรรคภูมิใจไทยและผู้เกี่ยวข้องจะมุ่งเป้าฟ้องมากกว่า “ณฐพร” หลายเท่านัก ...๐
โดยเฉพาะ “สุขสมรวย วันทนียกุล” หรือเจ๊รวย ซึ่งล่าสุดก็ประกาศว่าจะฟ้องเต็มพิกัด ทั้งหมิ่นประมาท แจ้งความเท็จ รวมถึงละเมิดด้วย และที่น่าสนใจเข้าไปอีกในการตั้งข้อสังเกตของเจ๊รวย คือ เรื่อง การรู้ที่มาที่ไปเส้นทางทางการเงินของ “ไชยชนก” ที่เจ๊แมวกล่าวอ้าง เพราะคนธรรมดาไม่มีทางหามาได้ ยกเว้นแต่ผู้มีอำนาจ ทำให้ย้อนอดีตใน คราว “ทักษิณ” เรืองอำนาจก็เคยเกิดกรณี “ปปง.” โดย “พีระพันธุ์ เปรมภูติ-สีหนาท ประยูรรัตน์” ใช้อำนาจตรวจสอบฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยเฉพาะผู้อาวุโสในวงการสื่อสารมวลชนมาแล้ว ...๐
เรื่องฮั้ว สว.ยังไม่จบแค่เรื่องฟ้องร้องกันไปมา แต่ยังมีกรณีของ “สว.พันธุ์ใหม่” ที่พยายามลอยตัวและเรียกร้องให้ สว.ทั้ง 200 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ว่าด้วยการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่แล้ว โดยปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “นันทนา นันทวโรภาส” ตีฆ้องร้องป่าวเสียใหญ่โต และเชื่อมั่นว่าการล่ารายชื่อจะเสร็จสมอารมณ์หมายแน่ แต่พอเริ่มสัปดาห์มาก็เริ่มออกอาการ โดยบอกว่าเป็นเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นและมีความซับซ้อน ทำให้ต้องร่างหนังสืออย่างรอบคอบ แต่ล่าสุดก็ออกมายอมรับว่าล่ารายชื่อได้แค่ 10 คน ยังไม่ถึง 20 ตามเป้าแต่ประการใด ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ ไม่ใช่เพราะเรื่องของกลุ่มก๊วนแต่ประการใด แต่มันเป็นเรื่องไม่ใช่หน้าที่ และ ที่สำคัญจะให้ใครสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะไม่มีการรัฐประหารที่ใครมีอำนาจ “รัฏฐาธิปัตย์” ชี้นิ้วสั่งได้ ...๐
งานนี้เลยต้องบอกเจ๊นันทนาว่า เวลาจะทำอะไรจะเคลื่อนไหวอะไร ก็น่าจะศึกษาอะไรให้มันรอบคอบบ้าง ไม่ใช่เล่นแต่จะสร้างกระแสโซเชียลไปวันๆ เหมือนกับที่บอกว่า หากมีการล้มกระดานสภาสูงทั้งหมดก็ได้ แต่ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนแบบนี้ เพราะมันเท่ากับไม่ได้พูด และไม่ยอมรับการล้างกระดานนั่นแล เรียกว่าเป็นการพูดให้ดูดี แต่ในทางปฏิบัติไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะแค่คดีฮั้ว สว.ที่บอกว่ามีสภาสูง 138 คนเกี่ยวข้องแล้ว หักลบจาก 200 สว. ก็จะเหลือ สว.แค่ 62 ราย ซึ่งเสียงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องใช้ 1 ใน 3 คืออย่างน้อย 67 คน ก็รู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ...๐
พูดเรื่องสภาสูงไม่เอ่ยถึงสภาล่างไม่ได้ เพราะ ล่าสุดวิป 3 ฝ่ายก็ได้ตกลงเวลาในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาทแล้ว โดยงานนี้หูเปียกแน่ เพราะถกกัน 4 วัน รวมทั้งหมด 41 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายค้าน 20 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 20 ชั่วโมง และประธาน 1 ชั่วโมง ซึ่งเราก็จะได้เห็นบรรดา สส.ฝึกหัดพาเหรดพ่นน้ำลายกันถ้วนทั่วแน่ ...๐
พูดถึงเรื่องงบประมาณ จะไม่เอ่ยถึงแจกเงินหมื่นเฟส 3 ก็กระไรอยู่ เพราะล่าสุดก็ต้องบอกว่าจบแล้วจ้า แม้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) จะเอาสีข้างเข้าถูบอกว่าไม่ได้ยกเลิก แค่เลื่อนออกไปเท่านั้น แต่ชาวบ้านเขาจำได้ว่า “บิ๊กอ้วน” เป็นคนหัวฟัดหัวเหวี่ยงเองมิใช่เหรอว่าหากไม่มีการแจกเงินหมื่นดังกล่าว ไทยจะเข้าสู่วิกฤต ซึ่งหนักกว่า “ต้มยำกุ้ง” เสียอีก แต่ทำไมตอนนี้จึงเป็นเสียงคนละคีย์ไปได้ ...๐
ไม่ต่างจาก “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรค พท.อีกราย ก็พยายามสร้างภาพบอกว่าไม่ได้เลิก เพียงแต่อะไรเร่ง ทำก่อนทำหลัง ที่สำคัญที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ไม่ได้ทำเลย พิโธ่! ส่วนที่ทำนั้นต้องเรียกว่าส่วนน้อยจ้ารัฐมนตรี ส่วนที่ค้างคาและทำไม่ตรงปกคือส่วนใหญ่ แล้วต่อไปเวลาหาเสียง ใครเขาจะเชื่อน้ำยาพรรคเพื่อไทยกันเล่าว่าพูดจริงไม่ใช่ไก่กา เพราะย้อนดูแล้วสารพัดโครงการไม่มีอะไรที่ทำได้ตามที่พูดเลย ไม่ว่าแจกเงิน ค่าแรง หรือแม้แต่ราคารถไฟฟ้า ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


