วางมือยังไม่พอ!

ละครเรื่องนี้เอาจริงๆ นี่ชีวิตจริงประเทศไทยครับ อยากให้คนเอาไปทำเน็ตฟลิกซ์จัง..น่าเบื่อครับ เราเหนื่อยใจตรงที่พวกเราทำอะไรไม่ได้ในสังคม พวกเราเป็นแค่เบี้ยก้อนหนึ่ง

เราไม่อยากได้อย่างนั้นแล้ว เราอยากล้างหน้ากระดาน ขอเด็กยุคใหม่ๆ ที่จบนอกก็ได้ แต่ว่าไม่ต้องเป็นหัวเอียงเกินไป ไม่อยากให้หัวรุนแรงครับ

แต่อยากให้ได้คนยุคใหม่ๆ มาพัฒนา หรือฟังแง่มุมประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เอาลูกหลานมาเป็น สส. สว. เยอะไปหมด มันใช้ระบบเครือญาติไม่ได้เอาคนเก่งจริง เอาระบบเส้นสายตลอด

ไม่งั้นเรื่องของการไม่มีคอร์รัปชัน มันก็จะไม่มีจริงครับ มันจะเป็นแค่โปรเจกต์ที่ชาตินี้ต่อให้ยุคเราตายไป มันก็ไม่เกิดขึ้นครับ

เขาเรียกว่าทายาทอสูรคายตะขาบออกมาให้กัน เพราะฉะนั้นคนใหม่ๆ ไม่มีทางได้ขึ้นหรอก ถ้าเงินไม่ถึง”

นี่..ผมก็ลอกมาจากที่ “ผู้จัดการออนไลน์” รายงาน ซึ่งอ่านแล้วให้เห็นใจ-เข้าใจเพราะผมเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างไปจากนักแสดงท่านนี้!

ด้านคุณชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่โพสต์.. “ในสถานการณ์ที่กระแสความไม่พอใจต่อนายกฯ ลุกลามอย่างรุนแรง ประเด็นหนึ่งที่ผมอยากชวนคิดคือ

ภาวะที่เราไม่พอใจอยู่นี้ ถึงที่สุดแล้วไม่ได้เกิดขึ้น เพราะตระกูลชินวัตร

แต่มันเป็นผลพวงจากการเมืองของคณะรัฐประหาร และชนชั้นนำบางกลุ่ม ที่ต้องการมีอำนาจเหนือเสียงของประชาชน” นั้น

ผมก็เห็นใจและเข้าใจอีกเช่นกัน แต่ก็อยากจะถาม ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีเสียแต่แรก ประเทศไทยจะแตกแยก-วุ่นวายอย่างนี้ไหม?

การจะกลับหรือไม่กลับไปใช้วิถีทางนอกระบอบประชาธิปไตย มันไม่ได้ขึ้นกับ “ชนชั้นนำ” แต่มันขึ้นกับ “สันดานโกง” และความคิดสุดโต่ง-มุ่งโค่นกษัตริย์ของนักการเมืองนั่นตะหาก

ลองตระกูลชิน บริหารประเทศไปตามวิถีประชาธิปไตยที่ประกอบด้วยศีล ด้วยธรรม-จริยธรรม มีหรือคนในชาติจะไม่พอใจ

แต่เพราะจ้องแต่จะโกงชาติ ขายแผ่นดิน เปิดบ่อนกาสิโน และยังโง่เขลาเบาปัญญา.. “ลุงจะเอาอะไรให้บอกมา จะจัดให้”

 อย่างนี้ คุณชัยธวัชยังจะบอกว่า.. “ภาวะที่เราไม่พอใจ ลุกลามกว้างขวางอยู่ในขณะนี้ ถึงที่สุดแล้วไม่ได้เกิดขึ้น เพราะตระกูลชินวัตร” อยู่อีกหรือ?

ส่วนคุณจักรภพ เพ็ญแข ที่นำความรู้สึกของนายเหนือหัวมาบอกว่า.. “นายทักษิณ เสียดายที่เหตุการณ์ไทย-กัมพูชา บานปลายมาจนถึงขณะนี้

และเสียดายความสัมพันธ์ที่เคยคบหากันมาก่อนหน้านี้ นายฮุน เซน มาทำแบบนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันพังทลายลง เสียดายที่อุตส่าห์ไว้ใจ

อุตส่าห์คบกันมา แล้วรักกันมาก ครอบครัวต่อครอบครัวไม่เฉพาะผู้นํา 2 คน แต่มากลายเป็นแบบนี้ และอนาคตความสัมพันธ์จะให้กลับมาดีเหมือนเดิมเป็นไปไม่ได้แล้ว”

ก็..ไม่รู้มาบอกเพื่ออะไร แต่ถ้าต้องการให้ประชาชน-คนไทยเพิ่มความเกลียดชังหนักเข้าไปอีกก็โอเค เพราะที่พูดมานั้น มันเรื่องส่วนตัวล้วนๆ ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องอะไรกับประเทศชาติ

“อุตส่าห์ไว้ใจ” ..ก็สมน้ำหน้า (มรึง) ไง ที่เสือกไปไว้ใจคนอย่างฮุน เซน อนาคตจะกลับมาดีเหมือนเดิมหรือไม่ก็เรื่องของพวกมรึง-ตระกูลมรึง!

อ้อ..แต่ที่ไม่เหมือนเดิมแน่ๆ ก็คุณอ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์ จากที่เคยกร้าว-ปากแจ๋ว กับรัฐบาลลุงตู่ มาตอนนี้กลับสุภาพ-นุ่มนวลวาจา.. “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”

แล้วที่เคยโพสต์.. “ประกาศวางมือแล้วยังไม่พอนะ แต่ต้องสำนึกผิดและขอรับโทษกับการก่อกรรมที่ทำไว้ด้วย และย้ายบ้านซะ..จะดีกว่าแค่วางมือ”

ประโยคนี้ขอยืมใช้กับ..นายกฯ แพทองธารหน่อยนะอ๋อม!.

สันต์ สะตอแมน