โอกาสสุดท้ายของ ‘ทักษิณ’

เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่ “ทักษิณ” ประจานตัวเองยับเยิน

สทร. เสือกทุกเรื่อง เป็นแขกรับเชิญในรายการ ๕๕ ปี เนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย เอ็กซ์คลูซีฟทอล์ก กับ ๔ ผู้นำทางความคิด ร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย ๓ บ.ก. ถาม บ.ก.ที่ ๔ ตอบ ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท

เท่ตั้งแต่ชื่อรายการ

เนื้อหายิ่งเท่หนักเข้าไปอีก

 “ทักษิณ” ประกาศความเป็นเจ้าของรัฐบาลแพทองธาร เป็นผู้บงการ ผู้ครอบงำ ผู้ชี้นำ ผู้สั่งการ ผู้มีบารมี และผู้มีพระคุณ

ไม่มีท่อนไหน จังหวะไหนเหลือไว้แสดงให้เห็นว่า “แพทองธาร ชินวัตร” คือนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่มีอำนาจเต็มตามรัฐธรรมนูญ

ฟังแล้วน่าสะอิดสะเอียน คนที่ก่อปัญหาให้กับประเทศ กลับชี้หน้าเอาแต่โทษคนอื่น

มองไม่เห็นความผิดของตัวเอง

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ โพสต์ไว้เห็นภาพ “ทักษิณ” นั่งพูดออกทีวีสร้างเวรสร้างกรรมให้กับประเทศชัดเจนครับ

“...ก่อนออกเดินทางขอโพสต์มุมมองต่อสิ่งที่น่าจะใกล้จุดจบ ได้เห็นพิธีกรสื่อช่องหนึ่งอวยมาสักพักจนมาทำหน้าที่สัมภาษณ์ก็ให้รู้สึกว่าเออหนอเงินทำได้ทุกอย่าง

พอเมื่อวานมีการออกมาสำแดงหน้าจอ ก็ใช้วิธีฟังสรุปแทนเพราะให้รู้สึกสงสาร สมเพช และดีใจที่กรรมทำงาน ฟังแล้วคุมใจไว้อย่าโกรธ อย่าแช่งให้เปลืองใจเรา

นี่คือเรื่องราวของคนที่ทั้งตาและใจไม่เห็นธรรม กอบโกยให้ตัวเอง ทำร้ายแผ่นดินเกิด ทำร้ายลูกตัวเองแต่ก็โทษคนอื่นหมด

คนชั่วทั้งหลายดูไว้ กรรมกำลังไล่ล่า ทางออกประเทศไทยชัดเจนคนชั่วกำลังถูกจัดการ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ฟังผ่านๆ ไปถ้าหนักใจ

#รักแผ่นดินเกิด...”

ครับ...นี่คือความจริงของการเมืองไทย

และครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ “ทักษิณ” เปิดแนวรบรอบด้าน เพราะหลังจากนี้ไม่น่าจะมีโอกาสออกมาพูดแบบนี้แล้ว

 “ทักษิณ” ท้ารบทั้งในไทยและกัมพูชา

ตัดสัมพันธ์กับ “เนวิน-อนุทิน” และ “ฮุน เซน” เพราะความแค้น

สานสัมพันธ์พรรคส้ม ซึ่งแน่นอนว่าสมการการเมืองหลังเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทย กับ พรรคส้ม มีโอกาสจับมือตั้งรัฐบาลสูง

 “...สำหรับสีน้ำเงินกับสีส้มมีโอกาสจับมือกันได้หรือไม่ ผมมองว่าหากจะจับ ก็จับหลวมๆ เพราะเป็นปลาคนละน้ำ และหากจะถามว่าน้ำของแดงกับส้มใกล้เคียงกว่ากันนั้นหรือไม่ หากพูดความจริงก็เป็นพรรคที่เกิดจากนโยบายหาเสียงที่มาสไตล์เดียวกัน

ถ้าเห็นพรรคไทยรักไทยเป็นอย่างไร พรรคส้มก็คล้ายๆ กัน

ขณะที่ส้มกับน้ำเงินถือเป็นปลาคนละน้ำกัน แต่แดงกับส้มจะถือปลาคนละน้ำกันมั้ย ผมมองว่าเป็นวงสีธรรมชาติ

สีส้มเกิดจากสีแดงรวมกับสีเหลือง ถ้าแดงแยกไปผสมกับน้ำเงินจะเป็นสีม่วง และสีเหลืองผสมสีน้ำเงินเป็นสีเขียว ถ้าสีม่วงกับสีเหลืองไปผสมกันจะเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง สีไม่สวย

ส่วนสีแดงผสมกับสีส้มจะเป็นสีแสด ซึ่งสีแสดมันแรงไป ซึ่งที่ผมบอกว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะจับมือกับสีส้มนั้น เนื่องจากผมมองว่าพรรคแกนนำรัฐบาลยังมีความสามัคคีกันและสามารถทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าต้องคุมในสภา

มาให้โดดสภาแค่นั้นเอง ไม่ให้โดดกฎหมายสำคัญ...”

ทำไม “ทักษิณ” อยากได้มหาดไทย?

ไม่ใช่เรื่องปราบยาเสพติด แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ความยากจนหรอกครับ ข้ออ้างมันปัญญาอ่อนเกินไป

ง่ายๆ ครับ “ทักษิณ” มองไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว

ถึงเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเป็น “ชัยเกษม นิติสิริ” แต่ “ทักษิณ” ก็รู้ดีว่ารัฐบาลอยู่ได้ไม่นานนัก สุดท้ายต้องถูกบีบให้ยุบสภา

การมีเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ในมือ จะช่วยให้พรรคเพื่อไทยได้เปรียบการเลือกตั้งมากโขทีเดียว

 “ทักษิณ” ถึงยอมแลกแม้กระทั่งเสถียรภาพของรัฐบาล ด้วยการบีบให้พรรคภูมิใจไทยถอย แล้วยึดเก้าอี้ มท.๑ เอาไว้เอง

ถามว่าคุ้มหรือไม่?

สำหรับ “ทักษิณ” มองว่าคุ้ม

และหมายความว่า “ทักษิณ” ยังต้องการไปต่อ

การเลือกตั้งครั้งถัดไป พรรคเพื่อไทยแทบไม่มีตัวช่วยใดๆ เหลืออยู่เลย

แจกเงินหมื่นแทนที่จะได้กลับล้มเหลว

กระแสพรรคเพื่อไทย กระแสทักษิณ ขายไม่ได้อีกต่อไป

ต่างกับพรรคส้มที่มีจุดแข็งคือไม่เคยเป็นรัฐบาล ยังมีกระแสยกย่องเชิดชูพรรคส้มว่าเก่งกาจสามารถเป็นรัฐบาลได้สบายๆ

ฉะนั้นการสู้กับกระแสพรรคส้มคือ ต้องยึดเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาครอบครอง อย่างน้อยๆ เอาไว้เป็นไม้กันหมา ไม่ให้กระแสพรรคส้มแรงเกินไป

เช่นเดียวกับภูมิใจไทยครับ ที่ประเมินแล้ว การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเวลาไม่ช้านี้

หากยังอยู่ใต้ชายคา “ทักษิณ” โอกาสโตเป็นพรรคอันดับหนึ่ง หรืออันดับสอง เป็นไปได้ยากมาก

สู้เร่งให้การยุบสภาเกิดขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ดีกว่าอยู่ร่วมรัฐบาลที่มีปัญหาวิกฤตศรัทธา เพราะนั่นอาจเป็นการกอดคอกันไปตาย

แต่...ทั้งหมดจะพังทลายสำหรับ “ทักษิณ” หากต้องกลับเข้าคุกอย่างน้อย ๑ ปี

และจะเป็นงานที่ง่ายขึ้นสำหรับพรรคภูมิใจไทย

เพราะการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นตอน “ทักษิณ” อยู่ในคุก

ครับ... “ทักษิณ” พยายามประกาศตัวว่าเป็นผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล เป็นการยืนยันว่าระบอบทักษิณจะไปต่อ ไม่หยุดอยู่แค่นี้

ขอให้โชคดีกับเส้นทางสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในอีกไม่กี่วันนี้.