
พวกเขาจ่ายภาษีกันอย่างไร?
นี่..เป็นหัวข้อสนทนาในวงข้าว-วงเหล้าของพรรคพวกทั้งในและนอกวงการบันเทิงเมื่อ 3-4 คืนก่อน โดยมีใครคนหนึ่งเอ่ยปากถามเป็นประเด็น
“หมายถึงพวกไหน” อีกเสียงถามขึ้น.. “ก็บรรดาพวกนักร้อง-ศิลปินที่เดินสายแสดงคอนเสิร์ตอยู่ทั่วประเทศนู่นไง” คนถูกย้อนถามตอบและพูดต่อ..
“ได้ยินว่าพวกเขารับเงินค่าตัว-ค่าจ้างจากเจ้าภาพเป็นเงินสดหลักแสนสองแสนถึงสามแสนบาทต่องาน บางคน-บางวงวิ่งรอกคืนละ 3-4 งาน เฉลี่ยรับเงินสดเกือบล้านต่อคืน”
“เออ..นั่นสิ” ผมร่วมผสมโรง ก่อนจะอวดภูมิ.. “ที่มึงได้ยินมาน่ะเป็นความจริงทุกประการ และก็เป็นมานานแล้วตั้งแต่สมัยปู่ย่ามาจนรุ่นหลานเหลนในปัจจุบัน
กูเองก็รู้ๆ เห็นๆ มาตลอด แต่ด้วยไม่ใช่ธุระจึงเลยปล่อยเลยตามเลย เมื่อกรมสรรพากรไม่เดือดร้อนอะไรก็ช่างของเขา แต่กับเรา แม่งตามเก็บภาษียิบมึงว่ามั้ย”
“จริง” เพื่อนอีกคนพูดขึ้นมาเบาๆ “กูเข้าใจว่ามึงเกรงใจนักร้อง ไม่อยากพูดไม่อยากเขียนถึง เพราะต่างรู้จักมักคุ้นกันดี แต่เรื่องภาษีนี้ กูว่ามึงทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่ได้แล้ว..
กูไม่อยากเห็นสังคมถูกเอารัดเอาเปรียบกัน อย่างเราจ่ายภาษีครบทุกบาท-ทุกเม็ด ในขณะที่นักร้องวงดังรับเงินสดคืนละแสน-สองแสน แต่ไม่ได้เสียภาษีสักกะบาทก็เกินไป
บางคนออกมาพูดอย่างภาคภูมิใจ ว่ารับงานเดือนละ 50-60 งาน นั่นหมายความว่าต้องวิ่งรอกแสดงคืนนึง 2-3 แห่ง มิน่าถึงได้รวยสร้างบ้านใหญ่โต ขับรถหรูๆ กัน”
“มึงอิจฉาพวกเขาสิ”? ผมแหย่.. “เปล่า” เพื่อนรีบปฏิเสธพลางว่า “นักร้อง นักดนตรีหรือคนบันเทิงมีงานทำน่ะก็ยินดีด้วย ยิ่งท่ามกลางเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงในยามนี้
อยากเห็นทุกคนมีงาน มีรายได้ เพียงแต่เมื่อมีรายได้แล้วก็ควรที่จะทำตัวเป็นพลเมืองดีด้วยการเสียภาษีให้ถูกต้องเป็นธรรม”
“ไม่แน่ บางทีพวกเขาอาจยินดี-เต็มใจพร้อมที่จะเสียภาษีก็ได้” ผมดักคอ.. “แต่เมื่อกรมสรรพากรไม่ใส่ใจ ไม่ได้ไปตามดู ตามเช็กรายได้อย่างขันแข็ง พวกเขาก็ต้องปล่อยเลยตามเลย
หรือก็ไม่แน่นะ สรรพากรเขามีการจัดเก็บภาษีกับรายได้ส่วนนี้อยู่แล้วโดยที่เราไม่รู้ก็เป็นได้ แต่จากประสบการณ์ และความจริงที่รับรู้
การแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องทั้งในที่แจ้ง ทั้งในสถานบันเทิงผับ-บาร์ ทั้งงานรับเชิญพิเศษ กรมสรรพากรไม่รู้ซะด้วยซ้ำพวกเขาได้กันคืนละเท่าไร..
และไม่มีการ “หักภาษีณที่จ่าย” ของแต่ละงาน ด้วยค่าจ้าง-ค่าตัว ทางเจ้าภาพ-เจ้าของร้านจ่ายเงินสดๆ ครบทุกบาททุกสตางค์แดง”
“งั้น มึงต้องเขียนเรื่องนี้” เพื่อนเสียงแข็งแกมบังคับ..“ครับพี่” และด้วยรับปากกับเพื่อนนี้แหละ วันนี้ก็เลยต้องมาปุจฉา-วิสัชนากันเสียตรงนี้
ก็..ขึ้นอยู่กับกรมสรรพากรแหละว่า จะเอาอย่างไรต่อไป ผมไม่ได้หมายจะยุ และไม่คิดจะเป็นการรังแกคนทำมาหากิน..
แต่การเสียภาษีต่างก็รู้กันดี ว่าเป็นหน้าที่ของพลเมือง (ผู้มีรายได้) เพื่อร่วมสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติ..จึงแค่บอกให้รู้!
เหมือนอย่างที่คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน-สส.ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ชินวัตรในสภาตอนนู่น (บางถ้อยคำ)..
“...พฤติกรรมการใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการหลีกเลี่ยง หรือเรียกง่ายๆ ว่าหนีภาษี จึงเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน”
แม้คุณวิโรจน์จะเจาะจง.. “ตนนึกไม่ถึงว่าพฤติกรรมที่น่าอดสูแบบนี้ จะเกิดขึ้นกับคนที่ชื่อว่าแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี”
แต่ก็ได้แง่คิดกับทุกคนผู้ทำมาหากินด้วยสุจริต โดยเฉพาะศิลปิน ดารา นักร้อง อย่าได้มีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เอาเปรียบผู้อื่น..
รวยแล้ว จ่ายภาษีด้วยล่ะ!
สันต์ สะตอนแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระวังจะโดนย้อนศร
เรื่องนี้ต้องขยาย.. ผมหมายถึง “ยอดคนตาย” จากมหาอุทกภัยหาดใหญ่น่ะ เพราะหลังจาก นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลง..
ต่างฝ่ายต่างโกง?
ดารา-นักแสดงถูกเบี้ยวค่าตัว! ความจริงก็ใช่ว่าเพิ่งมาเกิดเอายุคปัจจุบัน-ตอนนี้..สมัยนู้นนน ในยุคพระเอก-นางเอกคู่ขวัญ “มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์” และ “สมบัติ เมทะนี-อรัญญา นามวงศ์”..
ความคิดหลุดโลก?
แค่นายกฯ อนุทินหยอดมุก.. “อยากนามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่เจอเข้าไป 4 ภัย ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ”
‘ตลก’ไม่ทิ้งกัน!
“เต็มที่แล้ว เต็มที่จริงๆ ผมทำดีที่สุดแล้ว” นี่.. “นายกแป้น” คุณณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้บอกผู้สื่อข่าว หลังจากที่ประกาศก่อนหน้าว่า..
เขต 8 แดนเจอรัส?
น้ำลด..เขต 8 โผล่! ทีนี้ ก็เป็นหน้าที่ของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” แล้วล่ะ จะปฏิบัติการกวาดล้างพวก “มนุษย์ขยะ” เฮงซวย-เส็งเคร็ง ที่สร้างความเสื่อมเสียให้ชาวเมืองหาดใหญ่กันอย่างไร?
‘กับดัก’ ความเชื่อมั่น?
สส.จังหวัดสงขลา มี 9 คน 9 เขต.. พรรคประชาธิปัตย์ยึดไป 6 เขต 6 คน ที่เหลือพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย แบ่งกันไปเขตละคน


