
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด สถานการณ์การเมืองปัจจุบันไม่ได้มีเพียงรัฐบาลภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOA) ระหว่างพรรคสีน้ำเงิน นำโดยอนุทิน ชาญวีรกูล และพรรคประชาชน นำโดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่ต้องพิสูจน์ว่าจะทำงานสำเร็จครบ 4 เดือนตามข้อตกลงหรือไม่ แต่ยังมีความเคลื่อนไหวสำคัญในฝั่งฝ่ายค้าน ที่กลายเป็นจุดจับตาใหม่
แม้พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนจะอยู่ขั้วฝ่ายค้านเหมือนกัน แต่กลับมีความขัดแย้งรุนแรงและแตกแยกอย่างเห็นได้ชัด พรรคเพื่อไทยเลือกไม่เข้าร่วมเป็นวิปฝ่ายค้าน ซึ่งปกติแล้วจะเป็นเวทีสร้างเอกภาพในการตรวจสอบรัฐบาล การปฏิเสธนี้สะท้อนถึงความไม่พอใจในระดับลึก โดยมีสาเหตุมาจากการที่พรรคประชาชนตัดสินใจร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคสีน้ำเงิน ภายใต้ MOA ซึ่งเพื่อไทยมองว่าเป็นการ “ผิดสัญญาทางการเมือง”
หลังรัฐบาลจัดตั้งเสร็จ พรรคเพื่อไทยยังคงเดินหน้าโจมตีพรรคประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านการให้สัมภาษณ์และโพสต์บนโซเชียล มีเนื้อหาชี้ให้เห็นว่า MOA เป็นความล้มเหลว เป้าหมายคือทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคประชาชนและดึงคะแนนเสียงกลับสู่ฐานเดิมของเพื่อไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่ผิดหวังจากการเข้าร่วมรัฐบาลของเพื่อไทยในอดีต
ด้านพรรคประชาชนก็ไม่อยู่เฉย พยายามชี้แจงว่าข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับการโยกย้าย สส. หรือการเตรียมเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯ เป็นเพียงการวางแผนเพื่อความพร้อมเท่านั้น พร้อมย้ำว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มกำลัง และเดินหน้าผลักดันภารกิจหลักใน MOA เช่น การเริ่มต้นกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญใหม่และคืนอำนาจให้ประชาชนภายใน 4 เดือน
ผลกระทบทางการเมือง หากพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนยังขัดแย้งกันต่อไป ฝ่ายค้านจะอ่อนแอ ทำให้ตรวจสอบรัฐบาลได้ไม่เข้มข้น และอาจยืดเวลาครองอำนาจได้ยาวนาน แต่ถ้าทั้งสองพรรคกลับมาร่วมมือกันอย่างจริงจัง รัฐบาลจะถูกกดดันอย่างหนัก และอาจไม่สามารถอยู่ครบ 4 เดือนตามกรอบ MOA
๐ การแถลงนโยบายของรัฐบาลอนุทิน เน้นแก้ปัญหาเฉพาะกิจ มีเสียงจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แย้มหลังประธานสภาฯ วันมูหะมัดนอร์ มะทา คาดจะมีการแถลงนโยบายขึ้นในวันที่ 1 และ 2 ตุลาคม ว่า ขณะนี้ร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนทั้งหมด 8 หน้า โดยนโยบายทั้งหมดจะเน้น 4 ด้าน ประกอบด้วย เศรษฐกิจปากท้อง, ความมั่นคงและชายแดน, ปัญหาสังคม, ภัยธรรมชาติและการเยียวยา
นโยบายด้านเศรษฐกิจ จะเน้นเรื่องการลดค่าครองชีพแก่ประชาชน เช่น นโยบายคนละครึ่ง ซึ่งขณะนี้เรื่องระบบการใช้-วงเงินอยู่ระหว่างการพูดคุย, การลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ลดค่าทางด่วน รวมถึงอาจจะมีการปรับนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยเคยหาเสียงไว้ เช่น โซลาร์รูฟท็อป เป็นโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ เพื่อให้เข้ากับการทำงานของอายุรัฐบาล 4 เดือน
นอกจากนี้จะมีการหยิบนโยบายของพรรคเพื่อไทย เช่น หวยเกษียณ มาสานต่อหรือไม่ โดยอาจจะมีการปรับรูปแบบ ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สายสีแดงและสีม่วงที่จะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.นี้ ภายใต้การนำของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทยระบุว่า ประเด็นดังกล่าวต้องรอการพูดคุยอีกครั้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังแถลงนโยบาย
ส่วนจะมีองครักษ์พิทักษ์นายกฯ หรือไม่ แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ไม่มีองครักษ์พิทักษ์นายกฯ เพราะนายกฯ จะสามารถชี้แจงได้เอง ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาชน (ปชน.) ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน กระจอกข่าวจากพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่า ไม่มีการเกี้ะเซียะ หรือการฮั้วกัน หากใครสงสัยก็จะมีการลุกขึ้นตอบ.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ถึงคิว "พรรคส้ม" หลังประชาธิปัตย์ประเดิมเปิด 100 รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เป็นพรรคแรก ถึงแม้จะเป็นการเรียงตามตัวอักษร ไม่ใช่เรียงลำดับที่แท้จริงก็ตาม พอเดากันได้ว่า 3 อันดับแรก น่าจะเป็น 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันนี้ยังคงร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็อย่างที่เคยบอกไว้แล้วว่า หาก “ระบอบฮุน เซน” ไม่ตายจากดินแดนเขมร ก็ยากหาความสงบลงได้
บันทึกหน้า 4
ปี่กลองเลือกตั้งดังสนั่น หลังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง สส. ส่วนวันที่ 27-31 ธ.ค.2568 เป็นวันรับสมัคร สส.แบ่งเขตเลือกตั้ง 28-31 ธ.ค.2568 วันรับสมัค สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนการทำประชามติเรื่องยกเลิกMOU 43 และ MOU 44 คงไม่มีแล้ว โดย นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล
บันทึกหน้า 4
ขอเข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังคำสั่งยุบสภาเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สนามการเมืองที่อุ่นๆ กลายเป็นเตาแก๊สเปิดไฟแรงในพริบตา เลือกตั้งต้นปี 2569 ยังไม่ทันมาถึง แต่เกมช่วงชิงอำนาจเริ่มเดือดเกินองศา
บันทึกหน้า 4
บันทึกตอกย้ำบรรทัดแรกว่า "ไทยนี้รักสงบ!!" จากวันแรกที่มีสยามประเทศ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศผู้รุกรานเชิงจักรวรรดินิยม ไม่เคยสร้างอาณานิคมในต่างแดน เราจะลุกขึ้นสู้เพื่อป้องกันตนเอง หรือตอบโต้ เพื่อการรักษาดินแดนของตัวเองเท่านั้น
บันทึกหน้า 4
ยังไม่ถึงเวลา! วันศุกร์นี้ "รัฐบาลอนุทิน" ยังคาดเข็ดขัดนิรภัยต่อ แม้ "นายกฯ หนู" จะบอกว่าพร้อมยุบสภาทุกเมื่อ เตรียมพระราชกฤษฎีการอไว้แล้ว ถึงจะเลื่อนเร็วขึ้นจากไทม์ไลน์เดิม 31 ม.ค. 69 แต่ไม่ใช่ 12 ธ.ค.

