
สัปดาห์นี้ (หรือสัปดาห์ที่ผ่านมา) เป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ในโลกจะหันมาสนใจการประชุมใหญ่ของสหประชาชาติ หรือที่เรียกกันว่า United Nations General Assembly (UNGA) ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของสหประชาชาติ หรือ United Nations (UN) ที่รวมประเทศสมาชิกมาอยู่ที่เดียวกันเป็นเวลาสัปดาห์กว่า เป็นโอกาสดีที่แต่ละประเทศจะแสดงวิสัยทัศน์ แสดงจุดยืน และแสดงตน กลางเวทีโลก
ภาพที่ทุกคนคิดเวลานึกถึง UNGA คือห้องประชุมใหญ่ๆ ที่เต็มไปด้วยทุกประเทศในโลกนี้ (หรืออย่างน้อยทุกประเทศที่เป็นสมาชิก UN) มานั่งถกเถียงกัน โต้กันไปโต้กันมา ในประเด็นร้อนๆ ที่
มีผลต่อโลกของเรา จะมีภาพบรรยากาศตึงเครียดที่ทุกคนต้องใช้ไหวพริบ มันสมอง สติปัญญา และประสบการณ์ทางการเมือง เพราะจะต้องทันกัน
นั่นคือจินตนาการครับ สภาพความเป็นจริงของการประชุม UNGA คือห้องที่ว่างเปล่า ห้องที่โล่ง และคนที่ขึ้นไปพูดที่โพเดียม พูดกับประเทศที่มีคิวถัดไป ที่แทบไม่ฟังอะไร เพราะเขานั่งเตรียมสุนทรพจน์ที่จะต้องพูดในคิวของเขา ซึ่งแต่ละประเทศจะมีคิวพูดประมาณ 15 นาที คนที่กำลังพูดก็พูดไป คนที่นั่ง “ฟัง” ก็เตรียมตัวไป จนคิวหมดไปและครบสมาชิกทุกฝ่าย ในการแบ่งคิวใครพูดก่อนหลัง ขึ้นอยู่กับคนที่นำคณะเป็นระดับผู้นำหรือไม่ ถ้าเป็นผู้นำก็มีสิทธิ์พูดก่อน แต่ถ้าประเทศไหนไม่ส่งผู้นำ เป็นตัวแทนระดับรองนายกฯ รองประธานาธิบดี หรือรัฐมนตรี หรือผู้แทนถาวร เขาจะจัดลำดับอีกที
แน่นอนว่า ประเทศไหนที่ส่งผู้นำสูงสุดจะได้รับเกียรติสูงสุด และรองลงมาก็รับเกียรติรองลงมาตามลำดับ
ตามประเพณี สำหรับวันแรกจะคึกคักสุด เพราะเป็นวันเปิด ห้องประชุมจะเต็ม ผู้นำประเทศต่างๆ นั่งเต็มห้อง เก้าอี้ไม่มีว่าง สื่อแน่นเอี้ยด เหมือนเวลาประชุมสภาของเรา และนายกฯ จะขึ้นมาแถลงนโยบาย หรือเปิดการประชุม แน่นขนาดนั้นครับ
ลำดับในการพูดตามประเพณี คนแรกคือ เลขาธิการ UN ที่จะรายงานผลงาน UN ในตลอดปีที่ผ่านมา และแผนการของปีข้างหน้า รวมถึงเล่าสถานการณ์สำคัญๆ ของโลก ตามด้วยประธาน UNGA ซึ่งมีวาระหนึ่งปี หมุนเวียนทุกๆ ปี ประธานทำหน้าที่ประธานการประชุมใหญ่ ซึ่งปีนี้เป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี (Annalena Baerbock) หลังประธานคือประเทศสมาชิกประเทศแรกตามลายลักษณ์อักษร ซึ่งควรจะเป็นประเทศที่เริ่มด้วยตัว “A” ใช่ไหมครับ? แต่ไม่ใช่ ตามประเพณีของ UNGA ประเทศสมาชิกแรกเป็น Brazil (????)
ทำไมต้องเป็นบราซิล? เขาเป็นพี่ใหญ่ของโลก? ไม่ใช่ครับ เขาเป็นผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ? ไม่ใช่ครับ เขาอยู่คณะมั่นคง UN? ก็ยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่ เหตุผลที่บราซิลได้พูดก่อน ทั้งๆ ที่เป็นประเทศที่เริ่มด้วย “B” เพียงเพราะในช่วงเริ่มต้นของการประชุม UNGA ในการก่อตั้ง UN ใหม่ๆ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่โลกกำลังก่อตั้งใหม่ กำลังจัดระเบียบใหม่ จะเรียกว่าเริ่มต้นใหม่ก็ว่าได้ การประชุมครั้งแรกของ UNGA ที่ทุกคนยังมึนงง วาระยังไม่แม่น กฎระเบียบยังหลวมๆ และความเป็น UN ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไหร่นัก พอถึงคิวประเทศแรกที่จะขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ใน UNGA ไม่มีใครเสนอตน ไม่มีใครยอม ไม่มีใครอยากพูดก่อน มีแต่ผู้นำบราซิลยกมือบอกว่า “Brazil ขอเสนอตนเองพูดเป็นประเทศแรกได้” เลยเป็นประเพณีตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ว่าบราซิลเป็นประเทศแรกที่พูดใน UNGA ตามด้วยประเทศเจ้าภาพคือ สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นจัดตามลายลักษณ์อักษร หรือตามภูมิภาค แล้วแต่ทาง UN จัด
แต่ผมขอเล่าบรรยากาศนิดนึง สำหรับบราซิลได้เปรียบ เพราะเป็นประเทศแรกที่พูด ไม่ใช่เพราะเขาสำคัญ หรือคนอยากจะฟังผู้นำบราซิล เขาได้เปรียบเพราะห้องเต็ม ห้องแน่น ไม่มีที่ว่าง บราซิลพูดกับคนทั่วโลก พูดกับสื่อทุกสำนัก เพียงเพราะเขาได้พูดก่อนสหรัฐอเมริกา
พอประธานาธิบดีสหรัฐพูด ทุกอย่างนิ่ง ทุกอย่างหยุด ไม่มีการขยับ ไม่มีการหลับ ไม่มีการลุกเข้าห้องน้ำ เพราะถือว่าเป็นไฮไลต์ ทุกคนนั่งฟัง (ด้วยความเต็มใจหรือไม่ไม่แน่) แต่ทุกคนนั่งฟังครับ แต่พอพูดเสร็จปุ๊บ สื่อเก็บกล้องหมด ทุกคนลุก เข้าห้องน้ำบ้าง ออกจากห้องบ้าง พูดคุยบ้าง ทักทายเพื่อนบ้านบ้าง ความเงียบสงบ ความเรียบร้อย ความนิ่งตอนประธานาธิบดีพูด หายหมด มีแต่ความวุ่นวาย มีแต่เสียงคนขยับ มีแต่เสียงหัวเราะ มีแต่เสียงพูดคุย เพราะประธานาธิบดีพูดเสร็จแล้ว ลงจากโพเดียมแล้ว สื่อเก็บของหมดแล้ว เลยไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องนั่งต่อ
ผมเลยเห็นใจประเทศที่จะต้องพูดต่อ เพราะเหมือนพูดกับฝูงเป็ดไก่ที่ขยับและเสียงดัง โดยที่ไม่มีใครฟังและไม่มีใครสนใจ ซึ่งหลังจากประธานาธิบดีพูดเสร็จ ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างหยุด หรือจะต้องพัก ส่วนใหญ่ไม่มีการพัก จะพูดต่อเรื่อยๆ ดังนั้นประเทศถัดไปต้องเตรียมตัวขึ้นเวทีหลังประธานาธิบดีสหรัฐลงเวที (และต้องเตรียมใจด้วย) (ปีนี้เป็นอินโดนีเซีย)
ตอนนั้นเห็นกับตาตอนที่ไปร่วมคณะไทยไป UNGA ตอนคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ เห็นบรรยากาศก่อนและหลังประธานาธิบดีสหรัฐพูดใน UNGA เลยเห็นสัจธรรมของโลก อีกครั้งหนึ่งที่เห็นสัจธรรมของโลก คือตอนประชุม ASEAN+US ในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางนิวยอร์ก
พอเสร็จการประชุมเรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าคุณจะเป็นสุลต่าน ประธานาธิบดี นายกฯ เชิงเผด็จการ หรือนายกฯ ที่มาจากประชาชน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ประเทศของคุณยิ่งใหญ่อย่างไร รวยมหาศาล หรือมีอำนาจล้นฟ้าแค่ไหน ตราบใดที่ประธานาธิบดีสหรัฐยังไม่ขึ้นรถออกจากบริเวณพื้นที่ตรงนั้น คุณไปไหนไม่ได้
ผมเชื่อเหลือเกินว่า คนอย่างสุลต่านบรูไน พระองค์คงไม่เคยต้องยืนรอใคร ต้องยืนรอรถตัวเองเหมือนสามัญชนทั่วไป เช่นเดียวกับนายกฯ เชิงเผด็จการ และผู้นำอีกหลายท่าน ผมเชื่อว่าท่านเหล่านี้ไม่เคยต้องรอใคร แต่วันนั้นทุกคนยืนรอหน้าโรงแรม ท่ามกลางคนอื่นที่เดินผ่านไปมา เพราะประธานาธิบดีสหรัฐยังไม่ออกจากพื้นที่ วันนั้นผมสงสารผู้ติดตามและคนใกล้ชิดผู้นำทุกคน พวกเขาคงไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร และยิ่งยืนรอ ท่านคงทรงกริ้วมากขึ้น
หลายคนจะถามว่า การที่นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ไป UNGA ในครั้งนี้จะเสียเปรียบหรือไม่ ในเชิงสัญลักษณ์อาจเสียเปรียบหรือเสียโอกาส แต่เมื่อผมวาดภาพความเป็นจริงภายในห้องประชุมให้พวกเราได้ทราบแล้ว ไม่เสียเปรียบหรือเสียโอกาสอย่างที่คิด เพราะกว่าจะถึงคิว Thailand พูด มันค่อนข้างจะเป็นช่วงปลายตามลายลักษณ์อักษรครับ แถมด้วยว่าในการจัดลำดับคิวประเทศ คำว่าตามอักษรนั้น มันมีความละเอียดในตัวพอสมควร สำหรับประเทศที่มีประธานาธิบดีเป็นผู้นำสูงสุดเป็นการจัดคิวที่ง่าย
แต่ประเทศไหนมีกษัตริย์เป็นผู้นำสูงสุด ถ้าพระองค์ไม่เสด็จฯ ไปเอง นายกรัฐมนตรีไปแทน ประเทศนั้นจะอยู่ในอีกระดับหนึ่งครับ ดังนั้นส่วนใหญ่ในการประชุม 5 วันของ UNGA ไทยเราจะอยู่ประมาณวันที่ 4 อย่างเก่ง และตามสภาพความเป็นจริง ห้องแทบจะโล่งและว่าง
ถามว่าไป UNGA สำคัญอย่างไร? สำคัญที่พบปะพูดคุยและคลุกคลีกับผู้นำ ทั้งในที่ประชุมและนอกห้องประชุม และสำคัญยิ่งกว่าคือ ได้พบปะกับสมาคมและบริษัทชั้นนำของโลกตามงานต่างๆ และตามการประชุมต่างๆ ซึ่งอีกคำถามที่คนจะถามคือ ในเวทีนี้เพื่อนบ้านเรา (กัมพูชา) จะมาฟ้องความเลวร้ายของไทยให้โลกรับรู้หรือไม่? จะบีบน้ำตากี่หยด?
คำตอบคือ คงไม่แปลกหรอก ซึ่งภาพจะออกมาว่าผู้นำ หรือตัวแทนประเทศ พูดที่โพเดียมอันสง่างามของ UN บีบน้ำตา (จระเข้) หน่อย จะเป็นภาพที่ปรากฏทั่วราชอาณาจักรกัมพูชา พวกเขาจะเชียร์ พวกเขาจะปรบมือ และพวกเขาจะบีบน้ำตาตาม แต่อย่าให้กล้องตัวเดียวกันแพนมาที่ห้องประชุมนะครับ ถ้าแพนเมื่อไร จะเห็นแต่คณะกัมพูชานั่งดูนายเขาพูด และเห็นประเทศที่มีคิวพูดถัดไปนั่งซ้อมอ่านสคริปต์
แต่สำคัญคือ คำกล่าวของเขาจะถูกจารึกไว้ มันก็เลยดีและสำคัญตรงนี้ครับ
ถ้าถามว่าท่านนายกฯ ไม่ได้ไป UNGA จะเสียเปรียบหรือเสียโอกาส ผมมองว่าไม่ เพราะท่านยังไปไม่ได้จนกว่าจะแถลงนโยบายในสภา ผู้แทนถาวรไทยประจำ UN ท่านกล่าวแทนประเทศไทยได้ดีอยู่แล้ว
แต่จากประสบการณ์ ช่วงเวลาที่ได้นายกฯ ใหม่ จะมีสำนักข่าวต่างประเทศขอสัมภาษณ์แทบทุกสำนัก ในการพูดกับสื่อระดับโลก ช่วงนี้เป็นโอกาสและประโยชน์ดีกว่าไปพูดที่ UNGA ด้วยซ้ำ ผมเลยถือว่า UNGA ครั้งนี้เราไม่ได้เสียเปรียบหรือเสียโอกาสเท่าที่หลายคนกังวล แต่เมื่อท่านเป็นนายกฯ แล้ว และไม่ไป อันนั้นละครับ เสียโอกาสและเสียเปรียบจริง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
SEA Games แบบไทยๆ
คงไม่มีข่าวอะไรที่คนสนใจเท่ากับเรื่องผู้มีชื่อเสียง ผู้มีอำนาจหลายท่านมีรูปถ่ายกับเบน สมิธ ซึ่งถ้าโลกสวยเมื่อบุคคลเหล่านี้บอกว่าไม่รู้จักเขา เพียงถ่ายรูปเฉยๆ
ถ้าต้นไม้ล้มในป่าแล้วคนไม่ทำคอนเทนต์ ไม่ลงรูปลงโซเชียล…จะมีเสียงไหม?
“ต้นไม้ที่ล้มในป่าจะมีเสียงหรือไม่ หากไม่มีคนอยู่ในที่นั่น?” หรือเป็นภาษาอังกฤษคือ “If a tree falls in a forest and no-one is around to hear it, does it make a sound?”
'คำพูดเป็นนายเรา'ยังจริงไหม?
เรื่องการกลับลำของประธานาธิบดี Donald Trump เกี่ยวกับ Epstein Files ผมว่าตลกดี เพราะตั้งแต่เป็นประธานาธิบดี Trump พูดแล้วพูดอีกว่า
'Thailand. Taiwan? Thailand. Taiwan?' Ok, yes. Taiwan.'
วันนี้ขออนุญาตเขียนเรื่องที่คนไทยทุกคนที่เคยใช้ชีวิตในต่างแดนเจอทุกๆ คน ยิ่งต่างแดนที่เป็นเมืองฝรั่งๆ หน่อย ผมกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าคนไทย 100% ต้องเจอทุกคน
SNAP ดีหรือไม่ดี?
ในที่สุดท่าทีการยุติ Government Shutdown ในสหรัฐที่จะยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ อาจสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ใช่เพราะความพยายาม หรือการประนีประนอม
Back to the Future…
กราบสวัสดีแฟนคอลัมน์ทุกท่านครับ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันวันนี้ ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เดี๋ยวผมค่อยเล่า วันนี้ขออนุญาตเป็นเรื่องเบาๆ ซึ่งหลายคนอาจบอกว่าไร้สาระ หรือน่าหมั่นไส้ก็ได้ แต่ขอสักวันละกัน

