Government Shutdown คือ 'ภาวะรัฐบาลปิด'?

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากผู้เกษียณอายุราชการต้องเริ่มบทชีวิตใหม่ในบ้านเราแล้วนั้น ในหลายๆ ประเทศ วันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณครับ

ในสหรัฐอเมริกาก็เช่นเดียวกัน แต่ปีนี้ถือว่าวันที่ 1 ตุลาคม แทนที่จะเริ่มปีงบประมาณ กลายเป็นวันเริ่มต้น Government Shutdown โดยที่ไม่รู้ว่าจะคลี่คลายหรือปลดล็อกเมื่อไหร่ ผมพยายามแปลคำนี้เป็นไทย แต่ผมหาไม่เจอครับ และคิดไม่ออก จะแปลว่า “ภาวะรัฐบาลปิด” ก็ฟังดูเป็นหนังฝรั่งพากย์ไทย จะบอกว่า “รัฐล้มเหลว” มันก็ไม่ใช่ เลยขอใช้ทับศัพท์ว่า Government Shutdown ไปเลยดีกว่า

เอาเข้าจริงถ้าประเทศไหนในโลกเจอปัญหา Government Shutdown ผู้เป็นเจ้าของงบประมาณ หรือเจ้าของญัตติเสนองบประมาณนั้น จะต้องรับผิดชอบเมื่องบประมาณไม่ผ่าน เพราะ Government Shutdown จะแปลอย่างไรก็แล้วแต่ ในที่สุดก็คือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่องบแผ่นดินไม่ผ่านครับ

แต่ในกรณีของสหรัฐจะเรียกว่า “งบไม่ผ่าน” ก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะงบประมาณมีอยู่ ผ่านกระบวนการทุกขั้นตอน ไม่มีอะไรติดขัด เรื่องเงินไม่พออยู่ในกองคลัง เกิดภาวะเงินเฟ้อ หรืออะไรก็แล้วแต่ Government Shutdown เกิดขึ้นต่อเมื่อทั้งสองสภาในสหรัฐตกลงกันไม่ได้ว่าเงินจะใช้ทำอะไร พูดง่ายๆ ครับ ต่อเมื่อ 2 พรรคใหญ่ขัดกันในตัว ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม และตกลงกันไม่ได้ ขืนใจกันไปขืนใจกันมา เกิดความขัดแย้งที่หาทางออกไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ก็เกิด Government Shutdown ครับ

ถ้าถามว่า มีที่ไหนในโลกเคยเกิด Government Shutdown หรือไม่นั้น คำตอบคือแทบไม่เคย เพราะอย่างที่บอกครับ ถ้าถึงขั้นที่งบประมาณแผ่นดินไม่ผ่าน พรรคหรือเจ้าของญัตติเสนองบประมาณนั้น ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง หรือถ้ามีวี่แววว่างบประมาณจะไม่ผ่าน ต้องชิงลาออกก่อน

แต่ในปี 2017 ไอร์แลนด์เหนือเกือบเจอสภาพทั้ง Government Shutdown และรัฐล้มเหลวในตัว เพราะผู้นำสูงสุดของเขา (Martin McGuiness) ลาออกจากตำแหน่ง และด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบ พรรคของเขาไม่สรรหาคนมาแทน เลยทำให้รัฐบาล (ฝ่ายบริหาร) ว่างเว้นในตัว และสภา (ฝ่ายนิติบัญญัติ) ไม่มีการประชุมเป็นเวลา 3 ปีเต็ม ทำให้รัฐบาลอังกฤษต้องผ่านงบเกลี่ยให้กับไอร์แลนด์เหนือเพื่อให้ “ประเทศ” เดินไปข้างหน้าต่อได้

ส่วนประเทศอื่นในยุโรป (อย่างเช่น Belgium) เคยประสบปัญหาที่ขาดแคลนฝ่ายบริหาร (รัฐบาล) เป็นเวลาต่อเนื่องเป็นช่วงๆ เหมือนกันครับ แต่อย่าง Belgium เขามีกฎหมายว่า ต่อเมื่องบประมาณใหม่ยังไม่ผ่าน (ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่) หลักเกณฑ์ หลักการจากงบประมาณเดิม หรืองบประมาณสุดท้ายที่ผ่านสภา ยังถูกบังคับใช้อยู่จนกว่าจะมีงบประมาณใหม่

ลองเอาไปคิดดูว่า ถ้าเป็นบ้านเราและงบประมาณไม่ผ่าน คนจะโวยวายขนาดไหนครับ? บรรดานักวิชาเกินทั้งหลายจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเทศเราเป็นประเทศล้มเหลวกี่ราย?

ส่วนใหญ่ถ้าเจอคำว่า Government Shutdown เราจะนึกถึงความวุ่นวาย เจอภาวะฉุกเฉิน นึกถึงประเทศที่เจอสงคราม เจอปฏิวัติ เจอสงครามกลางเมือง คือพูดง่ายๆ ครับ เราจะนึกถึงรัฐล้มเหลวนั่นแหละ แต่สำหรับสหรัฐอเมริกา Government Shutdown คือเรื่องชิลๆ จะเรียกว่าเรื่องปกติก็ว่าได้ ถึงแม้จะมีผู้ประสบปัญหาและรับผลกระทบโดยตรงก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐอเมริกาต้องหยุดเดินและไปต่อไม่ได้

สิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าใจคือ ด้วยระบบตรวจสอบ ด้วยระบบที่ผู้ก่อตั้งสหรัฐวางไว้ เขาอยากให้สหรัฐเป็นดินแดนแห่งการประนีประนอม ประชาธิปไตย ตอบโต้ด้วยเหตุและผล คือจะทำทุกวิถีทางไม่ให้ระบบเผด็จการเกิดขึ้น เป็นระบบทวงอำนาจที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลพอสมควร เพราะถึงแม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาอยู่ตลอดชีวิตไม่ได้ และถ่ายทอดถึงทายาทต่อไม่ได้ ในที่สุดระบบและระบอบบีบบังคับให้มีการเปลี่ยนแปลงในตัว ผ่านความเห็นชอบของประชาชน หรือระบบบีบบังคับ แล้วแต่มุมมองครับ

แต่ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ มี Government Shakedown ทั้งหมด 11 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1980 ยุคนั้นเป็นยุคประธานาธิบดี Jimmy Carter ที่อัยการสูงสุดและทีมงานของเขาตีความกฎหมายเดิมที่มีตั้งแต่ 1884 (Anti Deficiency Act) กฎหมายดั้งเดิมฉบับนี้ระบุว่า ถ้ารัฐบาลจะใช้เงิน จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาเสียก่อน ซึ่งเป็นประเพณีและแนวปฏิบัติเกือบร้อยกว่าปี ถ้ามีปัญหาเรื่องงบประมาณ หรือมีช่องโหว่ สิ่งที่เคยทำคือ เอาเงินไปโปะเพื่อให้ผ่านได้

แต่ยุคของ Carter ตีความกฎหมายฉบับนี้ให้เข้มงวดและแคบลง ตั้งแต่ยุค Carter ทุกบาททุกสตางค์ (หรือทุก Cents ทุก Dollars) จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภา พูดง่ายๆ ครับ ถ้าสภาไม่ผ่าน เงินไม่ออก (แล้วถ้าเงินไม่ออก….ผ้าไม่หลุด?)

ครั้งแรกที่มี Government Shutdown คือยุคของประธานาธิบดี Ronald Reagon ในปี 1981 ซึ่งเกิดภาวะ Shutdown ประมาณ 3-4 วัน แต่ครั้งสุดท้ายที่มี Shutdown (ธันวาคม 2018-มกราคม 2019) คือยุคของทรัมป์ที่ฝ่าย Democrats คัดค้านงบประมาณ 5,000 ล้านเหรียญฯ ที่เสนอสร้างกำแพง (รั้ว) กันไม่ให้มีผู้อพยพจากเม็กซิโกทะลักเข้ามาในสหรัฐ

Shutdown ในครั้งนั้นมีความยาวที่สุดในประวัติศาสตร์คือ 35 วัน (22 ธันวาคม-25 มกราคม) และสามารถยุติได้ต่อเมื่อ 2 ฝ่ายยอมประนีประนอมและตกลงกันให้ผ่านงบประมาณบางส่วนเพื่อให้หน่วยงานรัฐเดินได้

หลายต่อหลายครั้งจะเห็นว่ามีการขู่ว่าจะมี Shutdown แต่ในที่สุดก็ผ่านงบประมาณชั่วคราว ให้มีลมหายใจสักเดือนสองเดือน เพื่อกลับมาเจรจากันต่อ และเมื่อหมดเวลาเดือนสองเดือนนั้นอาจมีการเจรจาใหม่ เพื่อยืดเวลาออกไปอีกทีหนึ่ง แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะเจอ Government Shutdown อย่างที่เราเห็นอยู่ครับ

ซึ่งหมายความว่า หน่วยงานรัฐหลายส่วนอาจทำหน้าที่ต่อได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่รับเงินเดือน ส่วนหน่วยงานที่มีความจำเป็น เช่น ตำรวจ ทหาร เขาก็ทำงานปกติ แต่บางส่วนไม่รับเงินเดือนเช่นเดียวกัน นึกซะว่าหน่วยงานรัฐของสหรัฐที่รับผลกระทบก็เหมือนมาตรการเบาถึงหนักครับ อันไหนที่ต้องปิด คือประเภทอุทยาน แหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น

ซึ่งผมยอมรับว่าเมื่อก่อน เมื่อเจอคำว่า Government Shutdown ผมคิดในใจว่าอเมริกาไม่มีเงินในกองคลังเลยเหรอ? ไม่มีการออม? ไม่มีการเก็บเลยเหรอ? ถ้าคิดแบบบ้านๆ ผมเคยคิดว่าหน่วยงานรัฐของสหรัฐทำงานประเภทเงินเดือนชนเดือนเลยเหรอ? แต่พอค้นคว้า หาข้อมูลจริง ผมจึงเข้าใจมากกว่าความรู้บ้านๆ ที่เคยมีครับ และหวังว่าข้อมูลที่ผมให้ในวันนี้ ซึ่งผมยอมรับว่าผมไม่ได้เข้าถึงลึกซึ้งและลงรายละเอียดว่า Government Shutdown มีหน่วยงานอะไรประสบกับปัญหาโดยตรงหรือไม่บ้าง เพราะผมเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้เผยแพร่ไปหมดแล้ว

แต่ที่ผมอยากอธิบายในวันนี้คือ ที่มาที่ไป และเหตุผลว่าทำไมสหรัฐเป็นเช่นนี้ ซึ่งต้องดูกันต่อไปว่าทางออกของ Government Shutdown ในครั้งนี้ 2 ฝ่ายของสหรัฐจะเจรจาและยอมในประเด็นอะไรกันบ้าง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SEA Games แบบไทยๆ

คงไม่มีข่าวอะไรที่คนสนใจเท่ากับเรื่องผู้มีชื่อเสียง ผู้มีอำนาจหลายท่านมีรูปถ่ายกับเบน สมิธ ซึ่งถ้าโลกสวยเมื่อบุคคลเหล่านี้บอกว่าไม่รู้จักเขา เพียงถ่ายรูปเฉยๆ

ถ้าต้นไม้ล้มในป่าแล้วคนไม่ทำคอนเทนต์ ไม่ลงรูปลงโซเชียล…จะมีเสียงไหม?

“ต้นไม้ที่ล้มในป่าจะมีเสียงหรือไม่ หากไม่มีคนอยู่ในที่นั่น?” หรือเป็นภาษาอังกฤษคือ “If a tree falls in a forest and no-one is around to hear it, does it make a sound?”

'คำพูดเป็นนายเรา'ยังจริงไหม?

เรื่องการกลับลำของประธานาธิบดี Donald Trump เกี่ยวกับ Epstein Files ผมว่าตลกดี เพราะตั้งแต่เป็นประธานาธิบดี Trump พูดแล้วพูดอีกว่า

'Thailand. Taiwan? Thailand. Taiwan?' Ok, yes. Taiwan.'

วันนี้ขออนุญาตเขียนเรื่องที่คนไทยทุกคนที่เคยใช้ชีวิตในต่างแดนเจอทุกๆ คน ยิ่งต่างแดนที่เป็นเมืองฝรั่งๆ หน่อย ผมกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าคนไทย 100% ต้องเจอทุกคน

SNAP ดีหรือไม่ดี?

ในที่สุดท่าทีการยุติ Government Shutdown ในสหรัฐที่จะยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ อาจสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ใช่เพราะความพยายาม หรือการประนีประนอม

Back to the Future…

กราบสวัสดีแฟนคอลัมน์ทุกท่านครับ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันวันนี้ ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เดี๋ยวผมค่อยเล่า วันนี้ขออนุญาตเป็นเรื่องเบาๆ ซึ่งหลายคนอาจบอกว่าไร้สาระ หรือน่าหมั่นไส้ก็ได้ แต่ขอสักวันละกัน