'Thailand. Taiwan? Thailand. Taiwan?' Ok, yes. Taiwan.'

วันนี้ขออนุญาตเขียนเรื่องที่คนไทยทุกคนที่เคยใช้ชีวิตในต่างแดนเจอทุกๆ คน ยิ่งต่างแดนที่เป็นเมืองฝรั่งๆ หน่อย ผมกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าคนไทย 100% ต้องเจอทุกคน ไม่ว่าจะยุคไหน ศตวรรษไหน หรือเมืองไหนก็ตาม จะเมืองเล็ก เมืองใหญ่ เจริญ ไม่เจริญ จะชนบท หรืออำเภอเมือง ทุกที่ ทุกหนทาง ทุกเวลา คนไทยต้องเจอเหตุการณ์นี้กัน

ย้ำอีกครั้งหนึ่งครับ ตั้งแต่ยุคปู่ทวด จนเหลนโหลนในอนาคต คนไทยทุกคนต้องเจอเหตุการณ์นี้ สำหรับใครที่เคยเจอเหตุการณ์ต่อจากนี้ พยักหน้าตามกันได้นะครับ

เวลาฝรั่งถามว่า “Where are you from?” เราตอบว่า “Thailand” ซึ่งทุกอย่างจบใช่ไหมครับ? แต่มันไม่จบ!!! มักจะมีการสนทนานี้ตามมาหลังจากที่เราบอกว่า “Thailand” ถ้าเขารู้จัก ทุกอย่างจบ แต่เราไม่โชคดีเสมอไป เขามักจะถามต่อ “Taiwan?” ทำให้เราต้องตอบว่า “No, Thailand.” ขอถามอีก “Taiwan?” ทำให้ต้องตอบอีก “No, Thailand.” แค่นี้ก็ไม่หยุดครับ เขาถามอีก “Taiwan?” จนหลายครั้งผมต้องตอบว่า “Ok, yes. Taiwan.” เพื่อให้มันจบๆ ไป เพราะดูท่าทีว่าถ้าไม่จบตรงนั้น คงต้องอยู่กันข้ามปีทีเดียว แล้วก็วนอยู่ตรง “Thailand. Taiwan? Thailand. Taiwan?”

เป็นเรื่องปกติที่คนไทยทุกคนที่อยู่ต่างแดน (แดนฝรั่ง) ต้องเจอกัน ซึ่งสิ่งที่แปลกคือ แดนอื่นๆ ที่ไม่ใช่แดนฝรั่งไม่มีปัญหานี้ แดนไหนที่ผิวออกเหลืองๆ น้ำตาลๆ จะไม่เจอคำถามนี้ แต่ถ้าแดนคนผิวขาวๆ สีผมทองๆ หน่อย เตรียมตัว (และเตรียมใจ) เจอคำถามนี้กัน

มันเป็นส่วนของชีวิตที่ต้องยอมรับ และเป็นส่วนของชีวิตที่คนไทยทุกคนต้องเจอ แต่วันนี้ผมขอแชร์ข่าวดีและข่าวล่าสุดที่อาจทำให้พวกเรามีรอยยิ้ม หรืออาจจะทำให้พวกเรามึน แต่เป็นข่าวที่ทำให้ผมทึ่ง เพราะผมไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศอื่น

เมื่อเร็วๆ นี้ ผมร่วมงานประจำปีของพรรคการเมืองในภูมิภาคเอเชีย ในโต๊ะมีตัวแทนจากพรรคประเทศไต้หวัน ซึ่งคุยไปคุยมา ผมอธิบายเขาแบบขำๆ ว่า เวลาฝรั่งถามว่ามาจากไหน ถึงแม้จะบอกไทยแลนด์ เขาต้องพูดต่อว่า “Taiwan?” จนกว่าผมจะต้องบอกว่า “Yes. Taiwan” ไม่งั้นไม่จบ เขาก็หัวเราะ และทั้งโต๊ะหัวเราะ ทั้งๆ ที่มีฝรั่งผิวขาวนั่งโต๊ะด้วย แต่เขาออกตัวชัดเจนว่า ที่ผมเจอคำถามนี้ต้องเป็นที่อเมริกาแน่ๆ ใช่ไหม? เพราะยุโรปไม่มีคนถามแบบนี้ (ซึ่งเมื่อเอาไปคิด ผมชักไม่แน่ใจว่ามีแต่พวกเราที่อยู่อเมริกาเจอคำถามแบบนี้ไหม? สำหรับแฟนคอลัมน์ที่อยู่อังกฤษหรือยุโรป เจอคำถามแนว “Thailand. Taiwan?” บ้างไหมครับ?)

คนที่มาจากไต้หวันหัวเราะขำๆ แต่ขำๆ แบบแปลกใจ

เขาตอบกลับมาว่า “You guys get that too?!?!?!” เขาบอกว่า เวลาฝรั่ง (ผิวขาว) ถามพวกเขาว่ามาจากไหน เขาตอบว่า “Taiwan.” คนถามมักจะถามว่า “Thailand?” หลายรอบจนเขาต้องตอบว่า “Yes. Thailand” เพื่อให้เรื่องมันจบ เขาแปลกใจที่ว่าไม่ใช่เฉพาะคนไต้หวันที่ถูกถามคำถามแบบนี้ เขาแปลกใจว่าคนไทยก็เจอเหมือนกัน

เลยยิ่งหัวเราะกันเข้าไปใหญ่ เพราะปมของแต่ละคนตั้งแต่รุ่นปู่ทวดที่เคยเจอเป็นปมเดียวกัน ผมนึกตลอดว่าในโลกนี้มีแต่ “Thailand. Taiwan?” ไม่เคยรู้เลยว่ามี “Taiwan. Thailand?” ด้วย เลยรู้สึกดีใจและทำให้เห็นว่าโลกเราไม่เหมือนเดิมแล้ว!!!

อย่างน้อยในโลกใบนี้มี 2 ประเทศที่อยู่เรือลำเดียวกัน และต้องอยู่คู่กันไป เพียงเพราะชื่อของ 2 ประเทศฟังดูคล้ายๆ กัน เรา 2 ประเทศต้องมีชะตากรรมเดียวกัน คือฝรั่งผิวขาว (ในอเมริกา) ไม่รู้จักโลก เลยทำให้พวกเราต้องตอบเหมือนกัน จะได้ตัดบท

ผมเคยคิดอยู่ว่าเป็นปมของประเทศไทยที่ไม่ได้เป็นที่รู้จัก หรือไม่สำคัญพอทำให้คนรู้จัก เพราะประเทศสำคัญๆ ในโลกไม่มีทางและไม่มีวันที่คนทั่วไปจะสลับชื่อประเทศเพราะความสับสน แต่ก็ไม่แน่ครับ ผมเคยเจอข่าวว่าในสนามบินออสเตรียมีโต๊ะพิเศษและโต๊ะเฉพาะสำหรับผู้โดยสารที่คิดว่าตัวเองเดินทางมาที่ออสเตรเลีย

ถ้าเกิดขึ้นราย 2 ราย พอเข้าใจได้ว่ามันเกิดความผิดพลาด แต่ถ้าถึงขั้นมีโต๊ะทำหน้าที่นี้ แสดงว่ามันเกิดขึ้นบ่อยที่จะต้องจัดการ ซึ่งผมไม่อยากคิดเลยว่าผู้โดยสารคนไหนเตรียมตัวเจอจิงโจ้ แต่กลายเป็นต้องฟังเพลงโมสาร์ท ความรู้สึกจะเป็นอย่างไร และเขาเดินทางมาผิดไกลแค่ไหน?

ไหนๆ พูดเรื่องนี้แล้ว ผมกล้าพนันว่าคนไทยทุกคน ยิ่งคนไทยที่อยู่อเมริกา เจอคำถามที่ทำให้มึนและงง ทุกคน ทุกยุค ทุกสมัย ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าที่อังกฤษหรือยุโรป คนไทยที่นั่นเจอคำถามเหมือนที่พวกเราที่อยู่อเมริกาเจอไหม?

เพราะพวกเราที่อยู่อเมริกาจะเจอคำถามสารพัดต่างๆ นานาที่ต้องหัวเราะกับมัน และไม่ถือสา ไม่งั้นจะโกรธและอาจมีเรื่องได้ คำถามยอดฮิตนอกจาก (หรือหลังจาก) “Thailand. Taiwan?” คือ (แปลเป็นไทย) “บ้าน You มีไฟฟ้าหรือเปล่า?” “บ้าน You ยังขี่ช้าง/ควายไปโรงเรียน/ทำงานหรือเปล่า?” “บ้าน You มีมหาวิทยาลัยด้วยเหรอ?”

เขาไม่ได้ถามเล่นๆ เขาถามแบบจริงจังมาก ถึงบอกว่าเราต้องยิ้มกับมัน และต้องปล่อยวางกับมัน ไม่งั้นโกรธตายเลย และดีไม่ดีอาจถึงขั้นชกก็ได้ เพราะเราต้องคิดว่าเขาไม่รู้จริงๆ และเขาไม่รู้โลกใบนอก เนื่องจากคนอเมริกันชอบคิดว่าโลกคืออเมริกา แต่ให้ความเป็นธรรมพวกเขา ไม่ใช่ทุกคนที่ไม่รู้ คนที่รู้จะรู้จริงๆ รู้ประเภทย่านนี้มีข้าวขาหมูอร่อยในซอยนั้น คือรู้ลึกขนาดนั้น แต่คนที่ไม่รู้คือไม่รู้เลย

ซึ่งไม่ต่างกับพวกเราที่ไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นในแอฟริกา หรือประเทศอื่นๆ ที่รู้สึกห่างเหมือนกันเลยครับ

แต่ถึงแม้ผมจะไม่ถือสา (เท่าไหร่นัก) มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมอดรำคาญไม่ได้ และต้องสวนกลับทันที มีอยู่วันหนึ่งผมจะไปซื้ออาหารจีนประเภท Takeaway ที่อาหารจะใส่กล่องกระดาษ และน้ำมันที่เยิ้มๆ จะทำให้ตัวกล่องกระดาษเปื่อยขึ้นมา สำหรับพวกเราที่อยู่อเมริกาคงนึกภาพออกใช่ไหมครับ? เจ้าของร้านเป็นสามีภรรยาคนจีน ที่ภรรยาพูดภาษาอังกฤษพอใช้ได้ อาจไม่ดีเลิศ แต่สื่อรู้เรื่อง สั่งอาหารกับเขาได้ ส่วนสามีพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง หรือแทบไม่ได้เลย สามีทำหน้าที่เป็นกุ๊ก และภรรยาทำหน้าที่เป็น Cashier กับผู้รับออเดอร์

ผมไปที่ร้านวันที่ภรรยาไม่อยู่ มีอยู่แต่สามี เรา 2 คนยิ้มทักกัน ผมหยิบเมนูและชี้สิ่งที่ผมอยากกิน สื่อกันแค่นี้เขาเข้าใจ และเขาไปทำอาหารที่ผมสั่งไป ระหว่างนั้นมีฝรั่งคนหนึ่งอยู่ในร้านคอยอาหารเหมือนกัน ซึ่งดูเป็นฝรั่งมีฐานะ เพราะหน้าร้านมีรถสปอร์ต Jaguar จอดอยู่ เป็นผู้ชายวัยกลางคน ทำหน้างงๆ ใส่ผมและกุ๊ก

เขาถามผมขึ้นมาว่า “ทำไม You ไม่พูดภาษาจีนกับเขาล่ะ?” ผมบอกว่าผมไม่ได้เป็นคนจีน ผมเป็นคนไทย เขาตอบว่า “Isn’t that the same thing? Because you look alike to me.” ด้วยสีหน้าที่ออกมาโคตรกวน ด้วยความหมั่นไส้ ผมตอบเขาว่า “Do you speak Dutch?” เขาบอกว่าเขามาจากอเมริกา ผมเลยตอบเขาว่า “Isn’t that the same thing? Because you look alike to me too.” เขาทำหน้าโมโหและไม่พูดอะไรกับผมต่อ ซึ่งผมรู้สึกสะใจมาก

ผมขอตั้งคำถามกับแฟนคอลัมน์ทุกท่านครับ ยิ่งสำหรับคนที่เคยอยู่อเมริกา ว่าเคยเจอคำถามอะไรแปลกๆ บ้าง อยากให้แชร์กันหน่อยครับ และอยากถามคนที่อยู่ในซีกยุโรปกับอังกฤษ ว่าพวกคุณเคยเจอคำถามเหมือนที่พวกเราเจอไหมครับ? ขอแชร์กันหน่อย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SEA Games แบบไทยๆ

คงไม่มีข่าวอะไรที่คนสนใจเท่ากับเรื่องผู้มีชื่อเสียง ผู้มีอำนาจหลายท่านมีรูปถ่ายกับเบน สมิธ ซึ่งถ้าโลกสวยเมื่อบุคคลเหล่านี้บอกว่าไม่รู้จักเขา เพียงถ่ายรูปเฉยๆ

ถ้าต้นไม้ล้มในป่าแล้วคนไม่ทำคอนเทนต์ ไม่ลงรูปลงโซเชียล…จะมีเสียงไหม?

“ต้นไม้ที่ล้มในป่าจะมีเสียงหรือไม่ หากไม่มีคนอยู่ในที่นั่น?” หรือเป็นภาษาอังกฤษคือ “If a tree falls in a forest and no-one is around to hear it, does it make a sound?”

'คำพูดเป็นนายเรา'ยังจริงไหม?

เรื่องการกลับลำของประธานาธิบดี Donald Trump เกี่ยวกับ Epstein Files ผมว่าตลกดี เพราะตั้งแต่เป็นประธานาธิบดี Trump พูดแล้วพูดอีกว่า

SNAP ดีหรือไม่ดี?

ในที่สุดท่าทีการยุติ Government Shutdown ในสหรัฐที่จะยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ อาจสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ใช่เพราะความพยายาม หรือการประนีประนอม

Back to the Future…

กราบสวัสดีแฟนคอลัมน์ทุกท่านครับ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันวันนี้ ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เดี๋ยวผมค่อยเล่า วันนี้ขออนุญาตเป็นเรื่องเบาๆ ซึ่งหลายคนอาจบอกว่าไร้สาระ หรือน่าหมั่นไส้ก็ได้ แต่ขอสักวันละกัน

ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9

พรุ่งนี้ครบรอบ 9 ปีวันสวรรคตในหลวงรัชกาลที่ 9 (ของเรา) ผมขอออกตัวว่าจะขออนุญาตใช้คำศัพท์ง่ายๆ ในวันนี้ บอกตามตรงว่าผมไม่แม่นราชาศัพท์ครับ