ว่าด้วยเรื่องเคลมผลงาน

มากันเพียบครับ...

ผู้รู้ทั้งนั้น!

สารพัดคำแนะนำและคำเหน็บแนม หลัง ปปง.ยุครัฐบาลอนุทิน อายัด-ยึดทรัพย์ของแก๊งสแกมเมอร์ระดับหัวโจกที่อยู่ในเมืองไทย

บ้างเยาะเย้ยว่าแค่อายัด ไม่ใช่ยึด พอเรื่องเงียบก็คืน

บ้างก็ไล่งับกันเองว่าเคลมผลงาน เพราะพรรคเขาเริ่มตรวจสอบก่อนใคร

สรุปแล้วเพราะใกล้เลือกตั้งครับ บางพรรคเลือดเข้าตาเพราะกระแสไม่แรงพอให้แลนด์สไลด์ ไล่ฟัดกันมาตั้งแต่เรื่องน้ำท่วมหาดใหญ่แล้ว

พรรคส้มเลียบค่ายมาหลายเดือน

“รังสิมันต์ โรม” ไปเอาข่าวของนักข่าวฝรั่งมาเผยแพร่ต่อ แฉเครือข่าย “เบน สมิธ”

ตัวตึง “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” รู้เยอะข้อมูลแยะ

"...สแกมเมอร์ ๑๐๑ จากเงินที่รอคุณยายสู่ความวอดวายระดับประเทศ ชี้กัมพูชาเป็นประเทศที่มีเครือข่ายสแกมเมอร์เกือบ ๖๐ แห่ง มูลค่าเงินต่อปี ๑๒๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ หรือเป็นเงินกว่า ๔-๖ แสนล้านบาท ดังนั้นไทยสูญเงินจากการหลอกของสแกมเมอร์ ๑๑๕,๓๐๐ ล้านบาทต่อปี ซึ่งเงินส่วนนี้กระทบกับเศรษฐกิจไทย..."

"...หากปล่อยให้มีการหลอกเงินต่อไป แล้วสกัดกั้นไม่ได้ ธุรกิจสุจริตในไทยก็ต้องปิดตัวลง, พนักงานคอลเซ็นเตอร์ตัวจริงพังไปด้วย, ปั่นราคา, อสังหาริมทรัพย์, มูลนิธิจะไม่น่าเชื่อถือ, มีการทำทัวร์ศูนย์เหรียญ, เกิดพนันออนไลน์ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การหลอกเงินคุณยาย แต่ทำให้ธุรกิจสุจริตในไทยวอดวายทั้งประเทศ...." 

มีข้อแนะนำเพียบครับ

“...บช.สอท., บก.ปอท., ปปง.และ ป.ป.ช. ร่วมมือกับต่างประเทศ ขยายผลจับกุมตัวใหญ่ให้ได้ 'จับ' 'ยึด' ให้ได้ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ เปิดเผยชื่อบริษัทและตัวการมาแล้ว  แต่ประเทศไทย ทั้งที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าเป็นฐานการฟอกเงิน แต่ยังเปิดเผยและคือคนไทยคนไหนที่ อุ้มสมคบคิด ปรับเครือข่ายสแกมเมอร์ที่กัมพูชามาดำเนินคดีไม่ได้ คนเชื่อว่าตำรวจไทย ปปง.ไทยทำได้ ถ้ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่ตนคงหวังจากรัฐบาลนี้ไม่ได้ คงต้องหวังจากรัฐบาลประชาชน ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป

.ล.ต., ปปง., คปภ. และกรมการปกครอง ต้องทำให้กลุ่มการลงทุนต่างๆ ไม่สามารถปิดบังตัวตนของผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงได้ ต้องเปิดเผยตัวตนที่มาของเงินในทุกช่องทาง...”

แต่เชื่อมั้ยครับ สุดท้ายพรรคส้มแค่นำเสนอผ่านสื่อ แล้วกลับไปนอนเกาคาง

เหมือนจะหวงข้อมูล

ผิดกับประชาธิปัตย์ เดิมเกมรุกอย่างเห็นได้ชัด

หลังประชาธิปัตย์ถ่ายเลือดครั้งใหญ่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กลับมารับเก้าอี้หัวหน้าพรรค งานยากของประชาธิปัตย์ยุคใหม่คือจะเริ่มอย่างไร

ยากนะครับไม่ใช่ง่ายๆ

จะเริ่มอย่างไรให้คนจำ!             

เมื่อเห็น “อภิสิทธิ์” ควง “กรณ์ จาติกวณิช” นำหลักฐานเส้นทางการเงิน ประกอบด้วย เอกสารรายงานการเข้าซื้อกิจการ การวางโครงสร้างบริษัท วิธีการในการเพิ่มทุน ซึ่งมีการรายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงบุคคลที่มีรายชื่อในแบล็กลิสต์เป็นเครือข่ายสแกมเมอร์ ของสหรัฐอเมริกา มอบให้ ปปง. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ร้องอ๋อครับ

ประชาธิปัตย์ไล่บี้ประเด็นสแกมเมอร์ แต่ก้าวแซงพรรคประชาชนไป ๑ ก้าว จนกลายเป็นที่มาของคำว่า “เคลมผลงาน”

เคลมหรือไม่?

เนเน่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี ลูกสาว ดร.ไตรรงค์ อธิบายเรื่องนี้ครับ

"...ว่าด้วยเรื่อง 'เคลมผลงาน' อธิบายให้ชัดในโพสต์นี้ เพราะจริงๆ แล้ว สิ่งที่อยากสื่อมีไม่กี่เรื่อง และเป็นเรื่องที่สำคัญกับทั้งสังคม ขอสรุปเป็น ๕ ประเด็น ที่อยากชวนทุกคน อ่านอย่างมีสติ เพราะการจัดการ scammer ไม่ใช่การเมืองแบบแพ้-ชนะ แต่เป็นบททดสอบว่าเราทุกฝ่ายพร้อมปกป้องประเทศมากแค่ไหน

.พรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่-ไม่ได้อ้างว่าแก้ปัญหาทั้งหมด-เราทำในส่วนที่เราทำได้ ค้นหาข้อมูล ตรวจสอบ ยื่นเรื่อง ติดตาม และชี้ให้เห็นความผิดปกติ เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาที่เป็นระบบ เราไม่ได้บอกว่าเราคือผู้ลงมือแก้ทุกอย่าง แต่เรากำลังทำในสิ่งที่ควรทำในฐานะพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งเห็นว่าปัญหานี้สำคัญกับประเทศ

.การเล่าการทำงาน = ความโปร่งใสทางการเมือง ไม่ใช่การแย่งเครดิต-เวลาเราสื่อสารสิ่งที่เราทำ ไม่ใช่เพื่อเอาหน้า แต่เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ ซึ่งการเปิดเผยผลงานของพรรคการเมือง คือความโปร่งใส เป็นหลักการประชาธิปไตยพื้นฐาน ใครทำอะไรดี พรรคไหนทำดี ก็เป็นเรื่องที่ควรชื่นชมทั้งนั้น สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น คือการตัดสินด้วยอารมณ์ว่า 'พูด = เคลม' เพราะจริงๆ แล้ว การที่พรรคการเมืองรายงานงานสิ่งที่ทำ เป็นวัฒนธรรมทางการเมืองที่ ประชาชนควรสนับสนุน เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าใครทำจริง ใครแค่พูด ...อยากชวนทุกคนมองการเมืองด้วยเหตุผล มากกว่าอารมณ์ค่ะ

.หยุดคิดแบบแบ่งฝ่าย 'คนนี้ใช่-คนนั้นไม่ใช่' เพราะไม่ช่วยแก้ปัญหา-แนวคิดว่าต้องเลือกข้างว่าใครทำ ใครไม่ได้ทำ ทำให้สังคมถอยหลัง ปัญหาระดับประเทศอย่าง scammer ไม่มีใครคนเดียวหรือพรรคเดียวทำได้หมด ถ้าเราอยากเห็นการเมืองสร้างสรรค์ ประชาชนกับนักการเมืองต้องเดินไปด้วยกัน มองข้ามอคติ และดีใจด้วยซ้ำเมื่อหลายฝ่ายร่วมมือกัน การแข่งขันที่ถูกต้องควรเป็น 'ใครทำให้ประเทศดีขึ้นได้มากกว่า' ไม่ใช่ 'ใครได้เครดิตมากกว่า'

.ถ้าจะให้เครดิตจริงๆ ต้องให้รัฐบาลและหน่วยงานรัฐที่ลงมือทำ-ไม่ว่าจะเป็น ปปง. ก.ล.ต. หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ-คือผู้ที่ลงมือจัดการกับเครือข่ายทุนสีเทาได้อย่างจริงจัง... ต่อให้ สส.อภิปรายจนหมดแรง หรือพรรคไหนยื่นเอกสารกี่ครั้ง ถ้ารัฐไม่ไฟเขียว หน่วยงานไม่ทำ ทุกอย่างก็ไม่ขยับ ดังนั้นการลงมือทำของรัฐและหน่วยงาน คือหัวใจสำคัญที่ต้องยกเครดิตให้

.ปัญหาใหญ่แบบนี้จะแก้ได้ หากเรามีเป้าหมายเดียวกัน-หน้าที่ของประชาชนตอนนี้คือช่วยกันรักษา 'แรงกดดันทางสังคม' ให้ต่อเนื่อง การจัดการทุนสีเทาไม่ใช่งานระยะสั้น เพราะมันโยงกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาล สิ่งที่ช่วยได้มากที่สุดคือการตามดู ตั้งคำถาม และตรวจสอบอย่างมีเหตุผล เพื่อให้หน่วยงานรัฐทำงานอย่างต่อเนื่อง และไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ-อายัดทรัพย์แล้วยังไงต่อ ปล่อยไหม หรือดำเนินการให้ถึงที่สุด

สุดท้ายนี้ การแก้ปัญหา scammer ไม่ใช่ชัยชนะของพรรคใดพรรคหนึ่ง

แต่เป็นชัยชนะของประชาชนทั้งประเทศ ที่เลือกจะปกป้องบ้านเมืองด้วยสติ และไม่ยอมให้เครือข่ายสีเทามาทำลายอนาคตของเรา

ขอชวนทุกคนมาร่วมกันทำให้ประเทศเดินหน้าไปพร้อมกัน..."

อ่อนน้อมถ่อมตน!

ใช่ครับต้องให้เครดิตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ถ้าวัดเรื่องเคลม พรรคส้มถนัดกว่าเยอะครับ ไปดูกรณีน้ำท่วมหาดใหญ่เป็นตัวอย่าง

ช่วยชาวบ้านไปเคลมไป เกทับ เป็นระยะๆ

เพราะมันคืองานถนัด

แต่กรณีสแกมเมอร์ถือว่าพรรคส้มพลาดอย่างมาก ที่ไม่เล่นให้ครบวงจร คิดว่าปั่นในโซเชียลแล้วจบตรงนั้น กระแสจะทะลัก รองรับแลนด์สไลด์

คิดผิดครับ!

“ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ” ถึงกับยอมรับสภาพ

"...เรื่องสแกมเมอร์เป็นเรื่องที่กระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งตอนนี้มีหลายภาคส่วนเข้ามาเอาจริงเอาจัง เข้ามาร่วมกันตรวจสอบเรื่องนี้ย่อมเป็นเรื่องที่ดี..."

ดีแล้วครับที่คิดแบบนี้และขอให้คิดเช่นนี้ในทุกๆ เรื่อง

ชมคนทำงานบ้าง อย่าเอาแต่คิดว่าพรรคตัวเองเก่งกว่าใคร

เลือกตั้งคราวหน้าขอให้ได้เป็นรัฐบาล แล้วช่วยจัดการแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา กัมพูชา ให้สิ้นซากด้วยนะครับ

อย่าฉลาดเฉพาะตอนเป็นฝ่ายค้าน พอเป็นรัฐบาล ส้มสีซีดเป็นเทา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' ไม่ไปต่อ

พรรคเพื่อไทยจะยื่นซักฟอกรัฐบาลหรือไม่? คำถามนี้เกิดจากคำตอบของนายกฯ อนุทิน วานนี้ (๓ ธันวาคม) "...คาดเข็มขัดนิรภัย..."

รอวันส้มเป็นรัฐบาล

ราคาคุยเยอะจริงๆ... ไม่มีพรรคไหนเก่งไปกว่าพรรคส้มแล้วครับ ไม่ได้ประชด แต่ตามรูปการณ์มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ

พันศพ! เละเป็นโจ๊ก

กู่ไม่กลับ... "บิ๊กโจ๊ก" กำลังจะเละเป็นโจ๊ก ไม่รู้ไปเอาข้อมูลมาจากไหนว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ จำนวนมากเกินหลักพัน เน้นนะครับ เฉพาะที่หาดใหญ่

ควรโทษใครดี

น้ำท่วมว่าหนักแล้ว น้ำท่วมใจยังหนักกว่า ช่วยชาวบ้านเป็นเรื่องดีครับ แต่ช่วยไปช่วงชิงกันไป เที่ยวไปประกาศว่าช่วยได้กี่คนแล้ว บลั๊ฟกันไปมามันน่าอนาถจริงๆ