กัดไม่ปล่อย

ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา

ซึ่งหลังเกิดสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา “พีระพันธุ์” ในฐานะอดีตมือกำกับพลังงาน ได้จับข้อพิรุธปมการขนส่งน้ำมันผ่านรถบรรทุกทางช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี โดยตั้งข้อสังเกตว่าปลายทางการขนส่งอยู่ที่ใด ใช่กัมพูชาโดยใช้ สปป.ลาวเป็นทางผ่านหรือไม่? เนื่องจากน้ำมันถือเป็นอีกยุทธปัจจัยสำคัญของการรบ

ล่าสุด “หัวหน้าตุ๋ย” ยังฟาดเดือดรัฐบาล เรื่องยุทธปัจจัยที่สังคมจับตาว่าอาจถูกส่งไปเพื่อเสริมกำลังให้กัมพูชาโดยเฉพาะน้ำมัน หลังบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการส่งน้ำมันไปกัมพูชา และกระทรวงพลังงานออกมายืนยันว่าน้ำมันที่ส่งผ่านด่านช่องเม็ก อุบลราชธานี ไปยัง สปป.ลาว มีปริมาณปกติ

โดยเจ้าตัวบอกว่า “เมื่อเกิดข้อสงสัยว่ามีการกระทำความผิด วิธีการที่จะทำให้เกิดความกระจ่างคือ ต้องมีการตรวจสอบและสอบสวน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่ปกติจากการสู้รบ เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ เมื่อมีการส่งน้ำมันผ่านด่านช่องเม็กไปลาวก็มีโอกาสส่งต่อไปยังกัมพูชาได้ อย่าอ้างว่าช่วงนี้ลาวทำเหมือง เพราะเขาทำทุกปีอยู่แล้ว”

และขณะนี้ นายพีระพันธุ์กำลังหารือเพื่อดำเนินการเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 122 โดยมองว่าแม้ไม่มีคนกล่าวโทษร้องทุกข์ ตำรวจก็ต้องสอบสวนให้ประชาชนสิ้นสงสัยถึงน้ำมันที่ถูกส่งออก

ก่อนย้อนเจ็บรัฐบาล “ผมไม่เข้าใจบริหารประเทศกันโดยไม่รู้กฎหมายหรือ!”

พร้อมฝากถึงนายกรัฐมนตรีด้วยว่า สถานการณ์แบบนี้เราต้องร่วมมือกับกองทัพ แต่การกระทำของรัฐบาลกลับย้อนแย้ง กองทัพภาค 2 ประกาศห้ามส่งน้ำมันทางช่องเม็ก แต่นายกรัฐมนตรีกลับบอกส่งได้ สถานการณ์แบบนี้ทหารต้องเป็นคนตัดสินใจ รัฐบาลต้องเป็นคนสนับสนุน ไม่ใช่ขัดขวางกองทัพ ซึ่งเรื่องแบบนี้นายกรัฐมนตรีต้องรู้ดีด้วยประสบการณ์ 

งานนี้ “หัวหน้าตุ๋ย” กัดไม่ปล่อย ในฐานะอดีตเจ้ากระทรวงพลังงาน เมื่อเจอข้อพิรุธก็ต้องท้วงและไขให้กระจ่าง!.           

บรรจง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป

การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

'เสือกระดาษ' ยามสงคราม

สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

“พบกันในสนามอ่างทอง”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สู้เต็มที่

เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ

‘เสี่ยโอ๋’ ทำพรรคเอง

ปลีกตัวออกจาก ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังอยู่ช่วยงานพรรคมาตั้งแต่ปี 2562 ทุ่มเทไม่ว่าจะสวมบทบาทฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหาร