ไทย 'พระเอกโลก'

ไม่คิดว่าจะมีภาพนี้ให้เห็นได้จากนายกฯ คนไหนๆ

แต่เมื่อวาน (๒๑ ธ.ค.๖๘) ก็ได้เห็น.....

“นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล” คุกเข่ากราบ ๒ ร่างวีรชน “จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน” และ “พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา”

มันเป็นกราบที่สะท้อนว่า

 “เกียรติยศ” ไม่ได้อยู่ที่ใครมียศศักดิ์และตำแหน่ง-ฐานะสูง

“เกียรติยศ-เกียรติศักดิ์” ที่แท้จริง....

 อยู่ที่ใครมีคุณงามความดี สละได้แม้ชีวิต เพื่อประเทศชาติและสังคมอันเป็นส่วนรวมมากกว่า

จ่าสำเริงและพลทหารภานุพัฒน์ มีสิ่งนี้พร้อมเป็นที่ประจักษ์ สละชีวิตเข้าแลกกับการเอาแผ่นดินไทยคืน ในสมรภูมิ “เนิน ๓๕๐”

ทั้ง ๒ ท่าน จึงเป็นผู้มีเกียรติคู่ควรกับการได้รับการคารวะยกย่องจากผู้อื่นครบถ้วน

นายกฯ “ผู้แคร์คนในความดี” ท่านเป็นรวงข้าวที่สมบูรณ์ จึงค้อมรวงลงคารวะ ๒ ผู้สละชีวิต เพื่อพิทักษ์รักษาแผ่นดิน โดยไม่หลงติดในยศ-ในศักดิ์ ของตัวเอง

“วีรอาจหาญ” ของจ่าสำเริง-พลฯ ภานุพัฒน์ มันประทับอยู่ในใจคนไทยรักชาติทุกคน

บทบาทการต่อสู้ของท่าน จะได้รับการเล่าขานคู่กับตำนาน “เนิน ๓๕๐” ตลอดไป!

แต่ก็ดูซี....

แล้วอย่างนี้ จะนั่งโต๊ะเจรจาสันติภาพกันได้อย่างไร?

 ๒๒ ธันวา.คือวันนี้ จะประชุม “รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน” สมัยพิเศษกัน ที่มาเลย์ หัวข้อหลักหนีไม่พ้น เกลี้ยกล่อม “สงบศึก” ไทย-เขมร

แต่ปรากฏว่า ๒๑ ธันวา. "จ่าเอก เทอดพงษ์ ผมนะรา" หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด

“เหยียบทุ่นระเบิด” ที่บ้านสามหลัง ตำบลชำราก เมืองตราด ข้อเท้าขวาจ่าเอกเทอดพงษ์ “ขาดทันที”

นับเป็นขาที่ ๘!!!

ถามทรัมป์ซิ ถ้าเกิดในสหรัฐฯ กับทหารอเมริกัน คุณยอมมั้ย?

ถามท่านสี จิ้นผิงซิ ถ้าเกิดในจีนกับทหารจีน คุณยอมมั้ย?

ก็เช่นเดียวกัน ไทยเข้าใจและซาบซึ้งในความปรารถนาของทั้ง ๒ มหาอำนาจ ไม่อยากให้รบกัน อยากให้นั่งคุยสันติภาพกัน

นายกฯ อนุทิน ก็ไม่ต่าง “ซูเปอร์แมน”

เหาะไปโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน สุรินทร์ เพื่อส่งร่าง ๒ นักรบกล้าสู่มาตุภูมิ แล้วก็เหาะไปเยี่ยมให้กำลังใจ “จ่าเอกเทอดพงษ์” ที่ “โรงพยาบาลพระปกเกล้า” จันทบุรี

นายกฯ เปรยกับนักข่าวผ่านแสงแดดและสายลมลวง แบบปวดร้าวใน “อธรรมอำนาจ” รังแกว่า

“นานาชาติที่โทร.หาผม บอกให้หยุดยิงๆ ให้กลับไปทำนั่น-ทำนี่ ให้ประเทศไทย เคารพนั่น-เคารพนี่

แล้วดูซิว่า....มีใครเคารพประเทศไทยบ้าง!?

ขอให้ไปบอกคนที่ 'ทำร้ายประเทศไทย' เถอะ

ไม่ใช่มาบอกประเทศไทยให้ทำนั่น-ทำนี่ 

ต่อไป ประเทศไทยจะไม่เชื่อใคร เราจะทำของเราเอง ตามที่เราเห็นว่าสมควร

เราจะปล่อยให้ทหารของเราถูกรังแกแบบนี้ไม่ได้ นี่คือส่วนหนึ่งของอธิปไตย”

ฉะนั้น วันนี้ เราติดตามดูบทบาทท่านสีหศักดิ์ในเวทีประชุมรัฐมนตรีอาเซียนกันให้ดี เมื่อเผชิญหน้ากับ “ปรัก สุคน” รัฐมนตรีต่างประเทศเขมร

“คมไทย” จะข่ม “คมเขมร” ได้ข้อสรุปเป็นเช่นไร ในเมื่อนายกฯ อนุทิน ลั่นคำ “สั่งฟ้า-ฝากดิน” ชัดเจนซะขนาดนั้น!

แต่ผมดูแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไป ไทยมีแต่บวก ส่วนจะบวกมาก, บวกน้อย ตามสถานการณ์

การเดินเกมอันชาญฉลาดของรัฐบาลและกองทัพ ที่จับเรื่องเขมรเบี้ยวสัญญากับเรื่องปราบสแกมเมอร์มามัดรวมกันครั้งนี้

ไทยได้ “แต้มบวก” จากประชาคมโลกท่วมท้น

Around the World” เขาโพสต์ว่า....

“สื่อมวลชนต่างประเทศ” ตีข่าว “กองทัพไทยปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์” ของเหตุปะทะนองเลือดกับกัมพูชา

เป็นการต่อสู้กับพวก “อาชญากรรมทางไซเบอร์”!

“แรงจูงใจใหม่” สำหรับการทิ้งบอมบ์ถล่มสถานที่ต่างๆ ตามแนวชายแดนเวลานี้ เป้าหมายอยู่ที่การ “ขุดรากถอนโคน” พวกสแกมเมอร์

และบ่งชี้เป็นนัยว่าทั้ง “สหรัฐฯ และจีน” ดูจะไฟเขียวปฏิบัติการ

 “บลูมเบิร์ก” รายงาน ในปฏิบัติการที่เรียกว่า "การทำสงครามกับกองทัพสแกม" กองกำลังหนึ่งของไทย ที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบตามแนวชายแดน ระบุ....

ในสัปดาห์นี้ พวกเขาส่งกำลังพลเข้าไปแนวหน้าเพื่อต่อสู้กับ “แก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ” ที่เป็นภัยคุกคามโลก

ที่ปฏิบัติการอยู่ตามประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “กัมพูชา-ลาวและพม่า”

 “บลูมเบิร์ก” ระบุ บทบาทใหม่ของไทยคือ การ “ดึง ๒ วิกฤต” ที่กำลังคุกรุ่นในอุษาคเนย์ มารวมเป็น “หนึ่งเดียวกัน”

นั่นคือ “สงครามตามแนวชายแดน” ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่สังหารผู้คนไปหลายสิบราย และประชาชนต้องพลัดถิ่นฐานเกือบครึ่งล้านคน

กับการต่อสู้กับ “ระบบนิเวศอาชญากรรมไซเบอร์” อันใหญ่โต ที่ฉ้อโกงคนทั่วโลกไปหลายพัน-หลายหมื่นล้านดอลลาร์

หลักๆ จากเล่ห์ฉ้อโกงการลงทุนที่เรียกว่า "pig-butchering" และกลลวง “คอลเซ็นเตอร์”

 รายงานของบลูมเบิร์ก ระบุการวางกรอบดังกล่าวของไทย แสดงให้เห็นว่า กรุงเทพฯ กำลังหาทางเป็น “แนวร่วมกับทั้งสหรัฐฯ และจีน”

ที่ต่างผลักดันให้บรรดาชาติต่างๆ ในอุษาคเนย์ปราบปรามปฏิบัติการสแกม

 ในถ้อยแถลง ๒ ฉบับแยกกันในสัปดาห์นี้ กองทัพภาคที่ ๒ ของไทย ที่รับผิดชอบการสู้รบ ๔ จาก ๗ จังหวัดตามแนวชายแดน ระบุ

เป้าหมายบางส่วนของกองทัพไทย ที่เล่นงานกัมพูชาในเดือนนี้ คือ “เขตล้อมรั้วสแกม” ที่ถูกใช้งานโดย “กองกำลังกัมพูชา”

หลังจากก่อนหน้านี้ กองทัพไทยมุ่งเน้นเฉพาะ “เป้าหมายด้านการทหาร” เท่านั้น

"ไทยตัดสายเลี้ยงชีพทาง 'โลจิสติกส์' และปฏิบัติการ รวมถึงรื้อถอนโครงสร้างสนับสนุนอาชญากรรมข้ามชาติ"

กองทัพภาคที่ ๒ ระบุในแถลงที่เผยแพร่ในวันพุธ (๑๗ ธ.ค.) ตามรายงานของบลูมเบิร์ก

"ศัตรูที่แท้จริงคือ 'เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ' และโครงสร้างอำนาจที่ประคับประคอง 'ผลประโยชน์ผิดกฎหมาย' ผ่านความรุนแรง"

ทั้งนี้ ถ้อยแถลงอีกฉบับที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (๑๘ ธ.ค.)

กองทัพภาคที่ ๒ เผยว่า กองกำลังของไทยได้ “ทำลายที่ตั้ง” ที่เกี่ยวข้องกับ “พวกสแกมเมอร์” อย่างน้อย ๖ แห่ง ซึ่งถูกกล่าวอ้างว่าเป็นกาสิโนเช่นกัน

 ในนั้น รวมถึง ๒ แห่ง ที่เคยถูกคว่ำบาตรโดยรัฐบาลสหรัฐฯ

 “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” ดูเหมือนให้ความสนใจกับการสู้รบตามแนวชายแดนระหว่าง ๒ ชาติ ที่เคยปะทุขึ้นมาแล้วไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

เขาขู่กำหนด “ข้อจำกัดทางการค้า” กับทั้ง ๒ ประเทศ ในช่วงปลายกรกฎาคม เพื่อหยุดการสู้รบ จากนั้นก็ร่วมเป็นสักขีพยานใน “ปฏิญญาสันติภาพ” ในเดือนตุลาคม

ทรัมป์ บอกว่า “ผู้นำทั้ง ๒ ประเทศ” รับปากหยุดการสู้รบ แต่บลูมเบิร์กระบุว่า ....

ในถ้อยแถลงของไทยในสัปดาห์นี้ บ่งชี้เป็นนัยว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ ไฟเขียว” โดยปริยาย

ให้ไทย “เดินหน้าโจมตี” ต่อไป!

 "นี่อธิบายได้ว่า ทำไมหลายประเทศ แม้ส่งเสียงเรียกร้องข้อตกลงหยุดยิง แต่ไม่ได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย

ในนั้น รวมถึงสหรัฐฯ ซึ่งดูเหมือนว่า 'เอ่ยปากเตือนอย่างนุ่มนวล' ในฐานะผู้สนับสนุนสันติภาพ"

ทหารไทยบอกกับบลูมเบิร์ก อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

 บลูมเบิร์กรายงานว่า ไทยใช้เครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 และกริพเพน ทิ้งบอมบ์อาคารและสะพานที่ถูกใช้งานโดยกองทัพกัมพูชา มาตั้งแต่ความขัดแย้งตามแนวชายแดนปะทุขึ้นอีกครั้งในวันที่ ๗ ธันวาคม

ในเป้าหมายเหล่านี้ รวมไปถึง “กาสิโนร้าง” ที่กลายเป็นศูนย์บัญชาการโดรน คลังเก็บอาวุธ ที่ตั้งกองบัญชาการทหารและพลซุ่มยิง

บลูมเบิร์ก รายงานต่อว่า ในวันพฤหัสบดี (๑๘ ธ.ค.) กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุ

ไทยใช้เอฟ-16 ทิ้งระเบิด ๒ ลูกในปอยเปต แหล่งกาสิโนซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นที่ตั้งของปฏิบัติการ “อาชญากรรมไซเบอร์”

กระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ได้บอกว่า ระเบิดลงที่กาสิโนหนึ่งใดหรือไม่ ในขณะที่กองทัพอากาศไทยยืนยัน “พวกเขาเล็งเป้าหมายไปที่คลังเก็บจรวด”

 “พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์” รองโฆษกกองทัพบก ตอบคำถามหนึ่งที่สอบถามว่า “ไทยกำลังเล็งเป้าหมายเจาะจงไปที่กาสิโนของกัมพูชาใช่หรือไม่?

 ซึ่งเขาตอบว่า “เป้าหมายทั้งหมดนี้ ผ่านการตรวจสอบแล้วว่า เป็นเป้าหมายด้านการทหาร"

การโจมตีไม่ได้มุ่งเน้นแต่เพียงกาสิโนและสแกมเมอร์เพียงอย่างเดียว ทุกเป้าหมายถูกระบุอย่างชัดเจนว่า

ถูกใช้เป็น “ฐานทหาร” บ่อยครั้ง รวมถึงเป็น “ศูนย์บัญชาการโดรนและคลังอาวุธ"

 รายงานข่าวของบลูมเบิร์กระบุว่า

นับตั้งแต่ต้นปี ไทยยกระดับปราบปรามเครือข่ายสแกมเมอร์ที่ปฏิบัติการจากบรรดาชาติเพื่อนบ้านในอาเซียน

ความเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเปิดเผย จาก “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” ของจีน

ขณะเดียวกัน ในวันพฤหัสบดี (๑๘ ธ.ค.) จีนได้ส่งทูตพิเศษไปกัมพูชาและไทย เพื่อเป็น “คนกลาง” หาทางยุติความข้ดแย้ง

 ปฏิบัติการของกองทัพไทยที่เล็งเป้าไปยังกาสิโนของกัมพูชา มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ ได้ใช้มาตรการต่างๆ นานาในการเล่นงานเศรษฐกิจผิดกฎหมาย

ไทยยังระงับการ “ส่งออกสินค้า” ไปยังกัมพูชา หนึ่งในนั้นรวมถึงเชื้อเพลิงที่เชื่อว่าถูกใช้ส่งเสริมกิจกรรม “อาชญากรรมข้ามชาติ” และห้ามคนไทยเดินทางไปทำงานในปอยเปต

 มาตรการต่างๆ เหล่านี้ มีขึ้นหลังไทยตัดไฟ-ตัดอินเทอร์เน็ต และอุปทานเชื้อเพลิงในบางพื้นที่ของพม่า ที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่ตั้งของปฏิบัติการ “อาชญากรรมไซเบอร์”

นอกจากนี้แล้ว ไทยและกัมพูชายังร่วมมือกันรื้อถอนศูนย์สแกมเมอร์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแหล่งที่พักของแรงงานต่างด้าวเหยื่อค้ามนุษย์หลายร้อยคนในปอยเปต

 กองทัพไทยยังเผยด้วยว่า ระหว่างการเดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ ของ “หลิว จงอี้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันพุธ (๑๗ ธ.ค.)

พวก “เจ้าหน้าที่จีน” ให้มุมมองที่มีต่อรัฐบาลกัมพูชาว่า "มีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับปฏิบัติการสแกมเมอร์บางส่วน"

คำพูดนี้ รัฐบาล “ฮุน มาเนต” ในพนมเปญ ปฏิเสธเกี่ยวกับความสัมพันธ์ดังกล่าว

(ที่มา:บลูมเบิร์ก)

....................................................

เอาอีกซักเจ้า จะได้ ชัด-ครบ-จบบริบูรณ์

Chonburi Update : 

จุดจบ “ทุนเทา” ประเทศรังโจร สื่อนอกยกนิ้ว ทัพไทยทลาย "เมืองสแกมเมอร์" ด่านหน้ากำจัด “โจรไซเบอร์ระดับโลก”

กลายเป็นประเด็นที่คนทั้งโลกให้ความสนใจ สื่อต่างชาติยักษ์ใหญ่อย่าง ABC News (ออสเตรเลีย) และ The Wall Street Journal

ต่างออกมาชื่นชมและวิเคราะห์ปฏิบัติการของกองทัพไทยในครั้งนี้ว่า "ไม่ใช่แค่การสู้รบชายแดนธรรมดา"

แต่คือการ “ทำสงครามกับอาชญากรรมข้ามชาติ” อย่างเต็มรูปแบบ

สู้เพื่อเหยื่อทั่วโลกทลาย "Scam City" สื่อนอกมองว่า พื้นที่บริเวณชายแดนที่มีการปะทะกัน คือที่ตั้งของ "สแกมซิตี"

หรือ “ศูนย์รวมแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่สร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก

ไทยถูกยกให้เป็น "ด่านหน้า" (Frontline) ที่กำลังทำหน้าที่กำจัดฐานที่มั่นของเหล่าสแกมเมอร์ “แทนเหยื่อทั่วโลก” ที่เคยถูกหลอกลวง

การถล่มฐานปฏิบัติการครั้งนี้ คือ การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน (ไฟฟ้า, อินเทอร์เน็ต, ระบบสื่อสาร) ที่กลุ่มทุนเทาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจผิดกฎหมาย

การยิงตอบโต้ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงของ "ประเทศรังโจร" ที่ให้ที่พักพิงกับเหล่าอาชญากร

..........................................

สรุป เพื่อสร้างบุญกุศลให้ชาวโลก

อย่าหยุดกระทืบ

มัน “หลาบตีน” เมื่อไหร่ ค่อยให้มันถือพานคลานเข่ามาร้องขอชีวิต!

-เปลว สีเงิน

๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๘

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

🛑LIVE ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2568

'อนุทิน' เท่านั้น 'นายกฯ'

ช่วงนี้... เสียง “โม้เพื่อชาติ” ของนักเลือกตั้ง ผู้สร้างปัญหาให้ชาติ เริ่มดังกลบ “เสียงนักรบ” ในสมรภูมิเลือด ที่กำลังเอาชีวิตเข้าแลกอธิปไตย

‘วันเกิดไทย-วันตายเขมร’

“จะเอาแผ่นดินไทยกลับคืนมาให้หมด ไทยจะต้องจัดการเขมรให้สิ้นซาก ไม่ให้คิดที่จะเข้ามารุกล้ำดินแดนไทยอีกในอนาคต” ‎ ‎ ‎

'ยุทธการชิงเนิน ๓๕๐'

“นักยุทธศาสตร์การศึก” ทั่วโลกขณะนี้ จับจ้องไปที่ “สมรภูมิ เนิน ๓๕๐”! อยากรู้ว่า ด้วย “ชัยภูมิที่เสียเปรียบ” สุดๆ

มีปาก 'อย่าสักแต่พูด'

“หายอยากกันแล้วละซีท่า!?” เมื่อวาน ถึงมีคนโพสต์ถามลอยๆ “สงครามจะจบเมื่อไหร่?” “นายกฯ อนุทิน” เคยบอก