
'อนุทิน' ลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับถอดโรคโควิด19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นแค่โรคที่ต้องเฝ้าระวังแล้ว ให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
21 ก.ย.2565 - เมื่อวันที่ 20 ก.ย.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับเกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ประกอบด้วย ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 พ.ศ.2565 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
สำหรับประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 พ.ศ.2565 มีเนื้อหาระบุว่า ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID - 19)) ทั่วโลก มีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตลดลง รวมถึงการแพร่ระบาดและความรุนแรงของโรคในท้องที่นอกราชอาณาจักรมีแนวโน้มลดลงเช่นกันประกอบกับจำนวนวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในราชอาณาจักรมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และประชาชนในราชอาณาจักรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในระดับความครอบคลุมสูงซึ่งส่งผลให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันโรคเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เพื่อให้มาตรการทางกฎหมายสอดคล้องกับการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในราชอาณาจักรและมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันจึงเห็นสมควรยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 เพื่อประโยชน์และความเหมาะสมในการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุม
โรคติดต่อ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 พ.ศ.2565”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2565 เป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563
ส่วนประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง ชื่อและอาการสาคัญของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 มีเนื้อหาว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีการประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID - 19)) เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคติดต่ออาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคาแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2565 เป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (57) ของข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง ชื่อและอาการสาคัญของโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง พ.ศ.2562
“(57) โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID - 19)) มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบ ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิต”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ เยี่ยมนาวิกโยธินเหยียบกับระเบิด ฝาก 'นานาชาติ' อย่าเอาแต่บอกไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร
นายกฯเยี่ยมนาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บ ฝากถึงนานาชาติ อย่าเอาแต่บอกให้ไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร ลั่นเลิกเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม เดินหน้าสถาปนาอธิปไตยเหนือชายแดนโดยเร็วที่สุด
'อนุทิน' ลั่นไม่ปล่อยกำลังพลเจ็บ-ตายฟรี ยันทหารมียุทธวิธีตอบโต้ หลังนาวิกโยธินเหยียบกับระเบิดรายที่ 8
‘อนุทิน’ ลั่น ไม่มีทางปล่อยกำลังพล เจ็บ - ตายฟรี ยัน ทหารมียุทธวิธีในการดำเนินการตอบโต้ หลังกำลังพลนาวิกโยธิน เหยียบกับระเบิดเป็นรายที่ 8 ชี้ สิ่งที่กัมพูชาพยายามแสดงให้ชาวโลกเห็นเป็นเพียงการโกหก
นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพ จ.สุรินทร์ นั่งระบายสี 'รถฮัมวี่ติดปืนกล' ร่วมกับเด็ก ลั่นรบ.จะดูแลเต็มที่
นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพที่สุรินทร์ นั่งระบายสี ‘รถฮัมวี่ติดปืนกล’ ร่วมกับเด็กๆ เดินทักทาย-ให้กำลังใจชาวบ้าน-จนท. พร้อมขอให้อยู่ที่ศูนย์ไปก่อน รัฐบาลจะดูแลเต็มที่ ก่อนไปเยี่ยมทหารเหยียบระเบิดที่จันทบุรีต่อ
เสี่ยหนูรับผวาไปหมด! ถูกรุมซักเรื่องแคนดิเดตนายกฯ พรรค ภท.
'อนุทิน' รับสื่อฯถามเรื่อง แคนดิเดตนายกฯ ภท. จนผวาไปหมด รับกำลังคุยและไม่มีเซอร์ไพร์เพิ่ม จากรายชื่อที่เปิดไปแล้ว ปัดประเมินเป้า สส. เคารพเสียงประชาชน ย้ำไม่เคยมีเรื่องต่อรอง
นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอิเหนาร่วมมือปราบสแกมเมอร์
นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือเหยื่อสแกมเมอร์ชาวอินโดนีเซียกลับประเทศ พร้อมเดินหน้าร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและต่อต้านลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
'อนุทิน' ย้ำไม่ทราบเรื่องทูตจีน! ลั่นปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ไทยทำทั้ง 4 ข้อแต่เขมรแทบไม่ทำ
นายกฯ ไม่ทราบ ทูตจีนประสานเป็นตัวกลางสถานการณ์ ไทย- กัมพูชา บอก ใครจะพูด ให้ไปบอกกัมพูชา หยุดทำร้ายประเทศไทย ย้อนถามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ไทยทำหมด 4 ข้อ แต่กัมพูชาไม่เคยปฏิบัติเลย



