
27 มี.ค.2565-นายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี บิดา นายพัสยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.ปี 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ซึ่งถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต กล่าวหลังคณะกรรมการปกครอง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน สั่งลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ 30 คน ความผิดแตกต่างกันไป ที่รุนแรงที่สุด คือ สั่งให้ออก รุ่นพี่ 15 ราย ฐานความผิดร่วมกันฝ่าฝืนประกาศมหาวิทยาลัย วางแผน สั่งการ ควบคุมการดำเนินกิจกรรม ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยการใช้ไม้ฟาด ชกต่อย และใช้เท้าถีบยัน เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะเดียวกัน รุ่นพี่ปี 2 อีก 10 ราย มีโทษผลการสอบของภาคการศึกษานั้นเป็นโมฆะ โดยให้บันทึกผลการศึกษาเป็น W ฐานความผิดมีส่วนร่วมวางแผน สั่งการ ควบคุมการดำเนินกิจกรรมให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้า หมอบ คลาน และใช้ศีรษะปักพื้น เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 ที่เหลืออีก 5 ราย ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน ฐานความผิดร่วมสนับสนุนให้เกิดกิจกรรม นอกจากนี้ ยังสั่งลงโทษนักศึกษา ปี 1 จำนวน 37 ราย ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน ฐานความผิดมีส่วนร่วมในการสนับสนุนและเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องว่า หลังทราบผลการสอบสวนวินัยของทางมหาวิทยาลัยฯ เห็นชัดเจนว่า มีรุ่นพี่ 15 คน ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายน้องเปรมจนเสียชีวิต ถูกลงโทษให้ออก
“ผมเห็นว่าเป็นโทษไม่ไม่ค่อยสาสม จริงๆอยากให้ลงโทษสูงสุดถึงไล่ออก แต่ก็เคารพการทำงานของมหาวิทยาลัย ผลที่ออกมาสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานของตนเองตั้งแต่แรกว่า อาจมีมากกว่า 7 คน ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้องเปรม ซึ่งในคดีอาญาพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแค่ 7 คน แต่ผลสอบของมหาวิทยาลัยพบว่ามี 15 คนที่ทำผิดรุนแรง จึงอยากเรียกร้องให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับรุ่นพี่อีก 8 คน ให้เอาผิดให้ครบทั้ง 15 คน บนฐานความผิดเดียวกัน คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย”
ด้านพ.ต.ท.สุพีร์ ชัยสูงเนิน รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.มะเริง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การดำเนินคดีตำรวจแจ้บข้อให้ไปทั้งหมด 25 คน ซึ่งทาง มทร.อีสานสรุปความผิด 15 คน และพ่อของน้องเปรมฯเห็นว่าตำรวจดำนินคดีก่อนหน้านี้ 7 คนที่ทำร้ายน้องเปรมฯ จึงออกมาเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีเพิ่มอีก 8 คนที่มีส่วนรู้เห็นนั้น เรื่องนี้ตำรวจก็ดำเนินคดีทั้งหมด 25 คน ตามที่ มทร.อีสานส่งรายชื่อมาให้พนักงานสอบสวน ซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้งรุ่นพี่น้อง 8 คนด้วย
“ตอนแรกตำรวจแจ้งข้อหาไป 7 คน และเพิ่มอีก 18 คน รวมเป็น 25 คน ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ได้แจ้งข้อหาไป 2 ข้อหาไปแล้ว ส่วนการจะแจ้งเพิ่มเติมอะไรก็คงจะต้องรอผลการสอบสวน คดีนี้ตำรวจทำตามพยานหลักฐานขั้นตอนไปตามปรกติก็ไม่รู้สึกหนักใจอะไรเลย ตำรวจรอผลตรวจชันสูตร ผลตรวจอีเอ็นเอ ผลตรวจลายนิ้วมือแฝง การพิมพ์ลายนิ้วมือ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มอบรางวัล สารวัตร ปคม. ไล่จับคนร้ายชิงทองได้ทันควันขณะเดินอยู่ในห้าง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัลโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ สารวัตร ปคม. ช่วยจับคนร้ายชิงทอง
‘ชูวิทย์’ จี้ ‘ผบช.น.’ พูดความจริง ฮึ่ม! หากโกหกอีกโชว์หลักฐานแฉแน่
'ผมรอฟังความจริงจาก ผบช.น. หลังฟังคำโกหกหลอกลวง หาเรื่องสาวไต้หวันคนพูดความจริง'
กลับลำแทบไม่ทัน! ‘บช.น.’ ออกข่าวประชาสัมพันธ์ ขอโทษประชาชน
ทาง บช.น. ต้องขอโทษมายังประชาชนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กระทำการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้เกิดผลกระทบต่อส่วนรวม
งามไส้! ตร.รับรีดเงินสาวไต้หวัน 2.7 หมื่น ชุดจับกุมร่วมปกปิดข้อมูล
จากการสอบสวนปากคำอย่างละเอียดของตำรวจแต่ละนายทำให้มีผู้ยอมรับสารภาพว่าในวันดังกล่าวมีการเรียกเก็บเงินจริง และมีการแบ่งเงินกันที่บริเวณด่านในคืนเกิดเหตุ
หนุ่มคลั่ง! ถือมีดปีนหลังคาไล่ทำลายทรัพย์สินชาวบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีชายคลุ้มคลั่งถือมีดปีนหลังคาทำลายทรัพย์สินชาวบ้าน ภายในซอยแพรกษา 2 หมู่ 3 ตำบลแพรกษา
สัตหีบ ‘หนุ่มใหญ่’ ขี่มอเตอร์ไซด์แหกโค้งพลิกคว่ำเสียชีวิต
เวลา 04.00 น. ร.ต.อ.พัฒนนันท์ สมนวล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์แหกโค้งเสียหลักพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิต ริมถนนใกล้บ่อขยะเขาเพชร ซอยบ่อนไก่ ม.5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี