
27 พ.ค. 2565 – ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เพื่อกล่าวโทษ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 และพวก ฐานร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยการแก้ไขเวลาคลิปกล้องวงจรปิดนาทีที่ 22.18 พร้อมกับร้องกล่าวโทษ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ฐานแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา โดยมีพ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. เป็นตัวแทนรับเรื่องดังกล่าว
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ในวันนี้มากล่าวโทษให้ดำเนินคดี พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา ในกรณีที่แจ้งความตนข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 และพวก จากการใช้ภาพวิดิโอที่เป็นเท็จในการแถลงเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา เนื่องจากมีภาพและเวลาไม่ตรงกัน โดยนำหลักฐานคลิปวิดิโอที่ใช้ในการแถลงข่าว ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเอาผิดได้ โดยหลักฐานของตนนั้นอิงตามกูเกิลแมพ และพบว่านาทีที่ 22.18 นั้น เรืออยู่ที่วัดจันทร์ ไม่ใช่สะพานซังฮี้ ซึ่งห่างกันประมาณ 1.6 กิโลเมตร ถือว่าไกลมาก และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเวลา ก็จะทำให้ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเปลี่ยนแปลงและขัดแย้งกัน
ส่วนการเป็นที่ปรึกษาในคดีนั้น เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้คุยกับนางพนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม แล้ว โดยให้ตนเป็นที่ปรึกษา มีหน้าที่รับผิดชอบด้านกฎหมาย โดยมีทนายวินัย ชุมสวัสดิ์ และ ทนายสุธีพงศ์ ชีวิตเจริญ เข้าร่วมด้วย ส่วนนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ คอยดูแลและอำนวยความสะดวกนางพนิดา ทั้งนี้สาเหตุที่นางพนิดาเชื่อตนนั้น เพราะมีหลักฐานบางอย่างที่ยังสงสัย เนื่องจากหลังเกิดเหตุ กลุ่มคนบนเรือมีการนำโทรศัพท์ของแตงโมไป และมีภาพในโทรศัพท์ถูกลบถึง 500 กว่าภาพ และคลิปวิดิโอ 2 คลิป นางพนิดาจึงไม่รู้ว่าจะปรึกษาใคร ทนายความเองก็ให้เชื่อแต่ตำรวจ จนกระทั่งบังแจ็คติดต่อมาว่าสามารถกู้ภาพได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าภาพที่กู้มาเป็นภาพอะไร เพราะไม่ได้ติดต่อกับบังแจ็ค ส่วนหลักฐานสำคัญที่ตนมีนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้ แต่จะนำไปให้นางพนิดาดู ซึ่งเท่าที่พูดคุยกัน นางพนิดาก็เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม
นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า หลังจากนี้จะไม่มีการฟ้องร้องผู้สื่อข่าวหรือทนายความคนใด แม้กระทั่งทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด โดยในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ จะพานางพนิดาเข้าพบผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยจะไม่มีเรื่องข้อหาการเป็นผู้สนับสนุน เพราะนางพนิดาไม่ได้อนุญาติให้บังแจ็คนำภาพไปเผยแพร่ โดยการนัดฟังคำสั่งของอัยการนั้น แม้จะมีความเห็นสั่งฟ้องตนก็ไม่กังวล เพราะเป็นหลักฐานและคดีคนละส่วนกัน โดยของตนเป็นคดีฆาตกรรม
ส่วนการฟ้องค่าเสียหาย 200 ล้านบาทกับผู้ต้องหา ที่นายมงคลกิตติ์พูดนั้น คิดว่าคงพูดสนุกๆ ไป เนื่องจากต้องรอผลคำพิพากษาในคดีอาญาก่อน จึงจะดำเนินการฟ้องแพ่งได้ ซึ่งการกระทำของ ส.ส.เต้ นั้น ต้องเข้าใจว่าเป็นการทำงานสไตล์นักการเมือง ซึ่งไม่สามารถก้าวล่วงได้ เพราะหน้าที่ของตนคือการรวบรวมพยานหลักฐานและการทำคดี และอาจมีการปรึกษากับ ส.ส.เต้ เช่นกัน ซึ่งมั่นใจว่าขณะนี้เดินมาถูกทางแล้ว ทั้งนี้ คิดว่าการที่นางพนิดาเปลี่ยนทนายความนั้นเป็นเพราะเรื่องการให้คำปรึกษา เนื่องจากทนายความคนแรกก็ไม่มีประสบการณ์ ส่วนคนที่สองก็ให้เชื่อแต่ตำรวจ หากมีที่ปรึกษาดี นางพนิดาก็คงมีทัศนะคติอีกแบบหนึ่ง คิดว่าขึ้นอยู่กับที่ปรึกษามากกว่า ที่ผ่านมาคงไม่มีใครให้นางพนิดาดูหลักฐานที่เชื่อมโยงกับฆาตกรรม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พบศพเฒ่าอเมริกัน ถุงดำคลุมหัว มือไพล่หลังใส่กุญแจ ดับปริศนาในโรงแรม
ทิ้งปมปริศนา! พบศพพ่อเฒ่าอเมริกัน ถูกคลุมหัวใส่กุญแจมือ คาห้องพักโรงแรมหรูย่านนาจอมเทียน
บิ๊กต่ายสั่งแจ้งความ‘โจ๊ก’
“อัจฉริยะ” ร้อง ก.ร.ตร. สอบ “บิ๊กต่าย” เอี่ยวซื้อขายตำแหน่งภาค 4
ผบ.ตร. โต้ 'โจ๊ก-อัจฉริยะ' จับมือถล่มแต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น นรต.41 ไปทำเลทอง
ผบ.ตร.ยันไม่ปวดใจ แม้ "บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ" จับมือโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยันไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์ ย้ำข้อมูลเว็บพนันที่ร้องเรียน ‘ไม่ใช่ยุคของผม’ พร้อมเร่งตรวจสอบโปร่งใส
'อัจฉริยะ' ขีดเส้น 10 พ.ย. บี้ 'บิ๊กต่าย' ปิดเว็บพนันให้หมด
'อัจฉริยะ' ขีดเส้น 'ผบ.ตร.' ปิดเว็บพนัน ภายในวันที่ 10 พ.ย. ขู่ไม่ทำจะนั่งประท้วงกลางถนนหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
รวบแล้ว สองพ่อลูกหัวร้อน ยิงเพื่อนบ้านเจ็บ-ตาย กลางงานบวช ทั้งคู่ยังปฏิเสธ
จากกรณีนายสมควร อายุ 35 ปี จ.ขอนแก่น ใช้อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ดัดแปลง ขนาดกระสุน .380 ยิงใส่เพื่อนบ้าน และนายมวน อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นบิดานายสมควร ได้ใช้อาวุธมีดฟันซ้ำ จนทำให้นายธีรวัฒน์ นามวิเศษ อายุ 27
เปิดคำวินิจฉัย ศาลยกฟ้องข้อหาประมาท คดีแตงโม
เปิดคำพิพากษาศาลจังหวัดนนทบุรี คดีหมายเลขดำ อ.292/2566 ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ ยื่นฟ้องนายวิศาพัชหรือแซน มโนมัยรัตน์ จำเลยที่ 1 นายนิทัศน์หรือจ๊อบหรือจ็อบ กีรติสุทธิสาธร จำเลยที่ 2 นางสาวอิจศรินทร์หรือกระติก


