ผบ.ตร. นำทีมแถลง 'สันติ' ฆ่า 4 ศพที่ไต้หวัน ชำระคดีที่ศาลไทย ไม่ต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน

17 มิ.ย.2565 - ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายสันติ ศุภอภิรดีไพลินอายุ 35 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญาที่ 1155/2565 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” จับกุมได้ที่ที่จับกุม บ้านอรุโณทัย หมู่ที่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 8 มิ.ย.นายสันติ ได้ก่อเหตุฆ่าสองสามีภรรยาชาวไทย ซึ่งภรรยาผู้เสียชีวิตกำลังตั้งครรภ์แฝด อายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน เหตุเกิดที่บริเวณสำนักงานของนายสันติ ในเขตถู่เฉิง เมืองซินเป่ย ไต้หวัน จากนั้นนายสันติ ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายใส่ไว้ในรถยนต์ของผู้เสียชีวิต แล้วขับขี่รถยนต์นำไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถบริเวณ เขตถู่เฉิง เมืองซินเป่ย ไต้หวัน แล้วหลบหนีไป ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าหลังเกิดเหตุ ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 13.00 น. นายสันติ ผู้ต้องหานี้ ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางโดยเครื่องบินต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ ในวันเดียวกันจากนั้นหลบหนีไป

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงมอบหมายให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้สอบปากคำพ่อและพี่ชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้เสียหาย และประสานกับทางการไต้หวันเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหานี้ ตามหมายจับที่ 1155/2565 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2565 พร้อมกับได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามมาโดยตลอด

จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 17 มิถุนายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้รับการติดต่อจากบิดาของผู้ต้องหาซึ่งขอเจรจานัดหมาย เพื่อนำตัวผู้ต้องหาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่หมู่บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบตามที่นัดหมาย พบ นายสันติ สอบถามรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง จึงได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยขอให้การในชั้นสอบสวน

พล.ต.อ.สุวัฒน์เปิดเผยอีกว่า สำหรับคดีนี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคดีนี้ถือเป็นความผิดต่อชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เป็นกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นคนไทย และต่อมาบิดาของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย ได้ร้องขอให้ลงโทษผู้ต้องหา จากความผิดดังกล่าว นายสันติ ผู้ต้องหาจะต้องได้รับโทษในราชอาณาจักร ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 (ก) วรรคสอง (4) ดังนั้นคดีดังกล่าวจำต้องชำระคดีที่ศาลไทย ไม่จำเป็นต้องส่งตัวผู้ต้องหาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้กองบังคับปราบปราม สามารถทำการสอบสวนดำเนินคดีกับนายสันติฯ ได้ตามกฎหมาย โดยจะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาฟ้องร้องที่ศาลอาญา ซึ่งศาลอาญามีอำนาจลงโทษนายสันติฯ ได้เช่นเดียวกับคดีอาญาทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม ความผิดในคดีนี้ถือเป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 ได้บัญญัติให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาราชการแทน เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ซึ่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จะได้รายงานให้สำนักงานอัยการสูงสุดทราบเป็นลำดับต่อไป

ในกรณีที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าเป็นบุคคลต่างด้าวนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 (ข) สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากในคดีนี้มีคนไทยเป็นผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้มีการร้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่าย' ไม่รู้ข้อเท็จจริง 'ทนายตั้ม' แฉปมส่วยเว็บพนัน แต่ต้องรับผิดชอบคำพูด

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวว่า ไม่ได้ให้ผู้ใต้บังคับการบัญชาที่เป็นนายตำรวจระดับผู้กำกับการโทรศัพท์ไปขอข้อมูลกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก่อนที่ทนายตั้ม

ตายตกไปตามกัน! 'ทนายตั้ม' แฉเส้นเงินโยง 'บิ๊กตำรวจ-3 หน่วยงาน' เก็บส่วยเว็บพนัน

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เปิดโปงขบวนการส่วยของกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (คอมมานโด) , กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ที่มีคนสนิทของบิ๊กตำรวจเกี่ยวของด้วย

ทนาย 'บิ๊กโจ๊ก' ร้อง รรท.ผบ.ตร. อีกฝ่ายไม่ยอมจบ พนง.สอบสวนยังออกหมายเรียก

นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพช็ร รักษาการแทน ผบ.ตร. เพื่อขอให้ดำเนินการตามคำสั่งของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่เคยร่วมแถลงข่าวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฟัน 'นครบาล' บี้ สน.เตาปูน ยุติสอบ โอนคดีไป ปปช.

ทนาย 'บิ๊กโจ๊ก' บุก สน.เตาปูน พบพนักงานสอบสวน ให้ยุติสอบคดีเว็บพนันบีเอ็นเค รวบรวมสำนวนส่ง ป.ป.ช. โวยทำไมยังออกหมายเรียก 'รอง ผบ.ตร.' จ่อฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฟันยกชุด

โปรดทราบ 'บิ๊กต่าย' ยืนยันตำรวจไม่มีขั้วต่อ-โจ๊ก

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการแห่งชาติ รักษาการแทน ผบ.ตร. กล่าวถึงสถานการณ์ภายในสำนักงานแห่งชาติ เป็นอย่างไรบ้าง หลัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.

'บิ๊กโจ๊ก' ชิ่งหมายเรียก ลายาวบินอังกฤษ กลับ 1 เม.ย.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกครั้งที่ 2 คดีเว็บพนันบีเอ็นเคว่า