ศูนย์ PCT ชี้แจง กรณี พล.ต.ต.อังกูร อาทรไผท อดีตผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเสียงเพื่อนสนิทหลอกโอนเงิน เป็นอุทธาหรณ์เตือนภัย
30 ก.ค.2565 - เวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT ชี้แจงกรณี พลตำรวจตรีอังกูร อาทรไผท อดีต ผบก.ทล. แชร์ข้อมูลเพื่อเป็นวิทยาทาน รำพันถึงประสบการณ์ที่ตนเองถูกแก๊ง Call Center ปลอมเสียงเป็นเพื่อนสนิทโทรมาหลอกยืมเงิน โดยให้ข้อสังเกตไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า ที่ตนหลงเชื่อเพราะ 1.น้ำเสียงเหมือนคนที่แอบอ้าง 2.โทรมาแจ้งเบอร์โทรศัพท์ใหม่ให้ทราบแล้วทิ้งระยะวันนึงแล้วจึงเริ่มปฏิบัติการ 3.อ้างเรื่องซื้อโทรศัพท์ใหม่(เรื่องที่เป็นไปได้) 4.ใช้เบอร์บัญชีผู้อื่นรับโอน(ทำให้คิดว่าเป็นเบอร์คนขาย) 5.คนที่ถูกแอบอ้างมีฐานะสามารถใช้คืนได้
ต่อมาเมื่อรู้ตัวว่าเป็นเหยื่อมิจฉาชีพและประสงค์ดำเนินคดี พบว่ามีปัญหาในระบบจัดการกับแก๊ง Call Center เช่น เมื่อโทรไปแจ้งความก็พบกับระบบรับโทรศัพท์แบบอัตโนมัติ ของศูนย์ปราบปรามไซเบอร์ ,โทรไปที่หน่วยงานต่างๆ ไม่มีผู้รับสาย หรือแจ้งว่าจะติดต่อกลับ สุดท้ายไปพบ พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคนร้าย ได้รับฟังปัญหาจากพนักงานสอบสวนท้องที่ว่า หน่วยงานเฉพาะทางไม่ทำ โยนให้ท้องที่หมด นั้น
ขอเรียนชี้แจงในเรื่องนี้ว่า ศูนย์ PCT ได้ให้ฝ่ายสืบสวนประสานสนับสนุนข้อมูลกับตำรวจพื้นที่แล้ว และทำเรื่องอายัดบัญชีกับทางธนาคารเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปจะเร่งติดตามจากบัญชีม้า ตรวจสอบความเชื่อมโยง และรายงานไปยัง ปปง. เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ที่เกี่ยวข้องหากมีความคืบหน้าในคดีจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว
เราได้มีการประชาสัมพันธ์เตือนภัยเรื่องการปลอมหรือแฮก Line หรือ Facebook ทักข้อความไปหลอกยืมเงิน โดยแนะนำว่าควรโทรศัพท์ หรือวีดีโอคอลตรวจสอบตัวตนว่าใช่เจ้าตัวหรือไม่
กรณีการหลอก โดยการเลียนเสียงเพื่อนโทรหลอกยืมเงิน ยังไม่พบว่าเคยมีมาก่อนและไม่ทราบว่าคนร้ายเลียนเสียงได้จริงหรือไม่ ต้องรอให้ชุดสืบสวนของ PCT สืบสวนและตรวจสอบข้อมูลในรายละเอียดก่อน ซึ่งถ้าเป็นจริง จะถือเป็นรูปแบบใหม่ที่ทางศูนย์ PCT จะต้องทำการประชาสัมพันธ์เตือนภัยกันต่อไป ขอย้ำเตือนให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัด ก่อนโอนเงินให้ใคร เช่น สอบถามข้อมูลส่วนตัว วีดีโอคอลเพื่อให้เห็นใบหน้า เป็นต้น
นอกจากนี้ควรระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว การตั้งรหัสใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ ควรปกปิด ใช้รหัสคาดเดาได้ยาก หรือเปลี่ยนรหัสเป็นประจำ อีกทั้งไม่กดลิงก์แปลกๆ หลอกเอาข้อมูล หรือที่เรียกว่า Phishing ป้องกันการถูกแฮกบัญชีออนไลน์ต่างๆ
ส่วนกรณีที่โทรมาแจ้งความ แต่เป็นระบบอัตโนมัติ ได้โทรไปสอบถาม พล.ต.ต.อังกูร ฯ แล้ว ทราบว่าเป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อน เนื่องจากเป็นเบอร์โทรศัพท์ 02-2527883 ที่ค้นหาจาก กูเกิ้ล ไม่ใช่สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ซึ่งทาง ศปอส.ตร. ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบมาโดยตลอด และมีการเปิดระบบรับแจ้งความออนไลน์ผ่าน www.thaipoliceonline.com ไปตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบวันละประมาณ 300-400 ราย
สำหรับกรณีพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เอ่ยว่า "ท่านครับ หน่วยปราบไซเบอร์เค้าไม่ทำละครับ มันเยอะ โยนมาให้ท้องที่หมด" นั้น สอบถามไปยังพนักงานสอบสวนรายนี้แล้ว ยอมรับว่าเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีหนังสือสั่งการที่ ตร.ที่ 322/2565 ลง 6 ก.ค.2565 แบ่งงานให้ บช.สอท. ,บช.ก. และหน่วยพื้นที่ตามลักษณะคดี เพื่อให้การดำเนินคดี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในลักษณะคดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของโรงพัก แต่ก็จะมีการประสานความร่วมมือระหว่างสถานีตำรวจท้องที่ กับ บช.สอท. และ บช.ก. บูรณาการทำงานเป็นสถานีตำรวจประเทศไทยเพื่อรองรับรูปแบบคดีประเภทต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
‘ดีอี’เตือนภัยโจรออนไลน์หลอก’ทำใบขับขี่คนต่างด้าว’ประชาชนอย่าหลงเชื่อ
‘ดีอี’ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ สูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “รับทำใบขับขี่ถูกกฎหมายแบบเร่งด่วนสำหรับคนต่างด้าว ผ่านเพจ รับทำใบขับขี่แบบถูกกฏหมาย100%” ตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน
อย่าลงทะเบียนผ่านเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ แนะ 3 ช่องทางขอเงินคืนจาก ปปง.
รัฐบาลย้ำ ปปง. ไม่มีระบบคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ทางเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อลงทะเบียนขอรับเงินคืน แนะ 3 ช่องทางที่ถูกต้อง
บุกทลายแก๊งคอลฯ เช่าตึกแถวกลางเมืองมุกดาหาร ยึดซิมบ็อกซ์ คนร้ายไหวตัวหนีทัน
ชุดปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เข้าตรวจค้นตึกแถวห้องหนึ่งบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดมุกดาหาร สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่าที่ตึกห้องแถวบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดมุกดาหาร จ


