ผบ.ตร.ลั่น เอาจริงเดินหน้ากวาดล้างทุนจีนสีเทา ยันไม่มีมวยล้ม ขอ3 สัปดาห์ต้องชัดใครเกี่ยวข้องมีเอี่ยวอยู่เบื้องหลัง ย้ำพร้อมกวาดบ้านตัวเอง
5 ธ.ค. 2565 – พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับ”ไทยโพสต์” ถึงการทำงานของตำรวจในการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายธุรกิจจีนสีเทาของตำรวจในขณะนี้ โดยบอกว่า เรื่องนี้เริ่มมาจากการไปตรวจพบการกระทำความผิดในสถานบริการ เช่นที่ ผับท็อปวัน -สถานบันเทิง “จินหลิง”ซึ่งตั้งแต่ผมเข้ารับตำแหน่ง ผมได้เน้นมาตลอดว่าตำรวจต้องไปตรวจสถานบริการ เพราะแต่ก่อนผมก็ยอมรับว่าตำรวจมักจะละเลย ฝ่ายปกครองไปตรวจจับเมื่อไหร่ ก็เจอเด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์เข้าไปเป็นร้อย จึงมองว่าเรื่องนี้ต้องเข้มงวด
โดยหลังเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้สั่งให้ต้องมีการตรวจสถานบริการ ต้องมีการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง อย่าให้มีเด็กเข้าไปเที่ยว อย่าให้มียาเสพติด ต้องไม่ให้เปิดเกินเวลา เลยไปเกิดเหตุที่พัทยา ที่เจ้าของโวยวายว่า เคลียร์กับตำรวจ-ผู้ว่าฯแล้ว ซึ่งต่อมาก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่จริง แต่ก็ได้มีการดำเนินคดีในข้อหาปลอมบัตรประชาชน
ต่อมากับกรณี สถานบันเทิงจินหลิง เกิดจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สืบทราบมาว่าสถานบริการแห่งนี้ น่าจะมีการทำผิดกฎหมายเพราะแอบเปิดในที่ลับ และใช้ระบบ member ที่เข้าข่ายต้องสงสัย ตำรวจจึงเข้าไปตรวจค้นและพบการเสพยาเสพติดจำนวนมากที่เป็นกลุ่มคนจีน ทางนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ก็มีการนำข้อมูลมาให้เพิ่มเติมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ที่ผมได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ท่านรับผิดชอบด้านการปราบปราม ผมบอกให้ไปช่วยกันดูเรื่องนี้ ทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เข้ามา ซึ่งตอนนี้ช่วยกันทำงาน ใครมีข้อมูลอะไรก็ทำกันไป
ที่ตอนนี้ถือว่าได้มีการขยายผลอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการตรวจค้นผับจินหลิง จนพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับ”ตู้ห่าว”เลยมีการดำเนินคดีกับตู้ห่าวในข้อหาร่วมกันสมคบกระทำความผิด มีการยึด-อายัดทรัพย์สิน เครื่องบินส่วนตัวต่างๆ ตามที่เป็นข่าวโดยฝ่ายป.ป.ส. ที่ก็เป็นความคืบหน้าในการดำเนินการและเราจะขยายผลว่าหากอะไรที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสถานบริการผิดกฎหมาย การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การปลอมแปลงบัตรประชาชน การใช้วีซ่าผิดประเภทเข้ามาแล้วมาหลอกเจ้าหน้าที่เช่นขอเข้ามาทำงานในมูลนิธิ แต่ว่าไม่ได้ทำจริง ต่อไปเราจะมีการตรวจสอบทั้งระบบ โดยเราจะเพิ่มความเข้มในเรื่องของชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัว มาทำอะไรในเมืองไทยที่เป็นลักษณะไม่ใช่สีขาว แต่เป็นสีเทา สีดำ เราจะดูแลอย่างเข้มงวด เน้นหนักไปแล้วว่าต่อไปต้องเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ใครที่เกี่ยวข้องถึงแม้จะไม่สามารถดำเนินคดีได้อย่างชัดเจน แต่จะต้องถูกโยกย้ายในคำสั่งหน้านี้ พวกตำรวจ ตม.อะไรต่างๆ เราก็อยากจะกวาดบ้านตัวเอง
เมื่อถามถึงว่า คดีนี้สังคมจับตามองกันมากเพราะตามข่าวอาจจะมีการเชื่อมโยงกับนักการเมือง คนเลยมองกันว่าตำรวจจะเอาจริงเอาจังแค่ไหน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยืนยันว่า ตำรวจเอาจริง แต่ขอให้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน หากพยานหลักฐานถึงก็ต้องเอาจริง เพราะตอนนี้ผมก็ได้เร่งรัดแล้วว่าขออย่าให้นาน หลักฐานถึงหรือไม่ถึง ขอให้ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ขอให้จบ อย่าให้นานเกินไป หากนานเกินไป ก็จะหาว่าอะไรอีก หาก2-3 อาทิตย์ผ่านไปแล้ว ถ้าไม่ถึง ก็ต้องบอกว่าไม่ถึง ถึงก็บอกถึง ชัดเจน เพราะหากค่อยๆหายไป เดี๋ยวหาว่ามวยล้มต้มคนดูอีก เป็นไปตามพยานหลักฐานทางคดี เพราะตอนนี้สังคมถูกตรวจสอบด้วยประชาชน
ถามต่อไปว่า นอกจากกลุ่มทุนจีนสีเทาแล้ว ในส่วนของกลุ่มทุนข้ามชาติที่เข้ามาทำเรื่องสีเทาๆในประเทศไทยจะดำเนินการอย่างไร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตอนนี้มีกระแสเรื่องกลุ่มทุนจีน ก็เป็นสิ่งที่ดี จะได้ทำให้เราสำรวจทุกด้านเลย ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ตาม ที่ใช้เมืองไทยเป็นที่พักพิงในการทำผิดกฎหมาย เราจะไปดูในทุกมิติ ถือโอกาสกวาดล้างสิ่งพวกนี้ให้หมด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กต่ายผงาด! ก.ตร. มีมติเอกฉันท์ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เป็น ผบ.ตร. คนที่ 15
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) วาระพิเศษพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.
นายกฯ ตรวจแถวกองเกียรติยศ นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร. แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 8/2567 หนึ่งในวาระการประชุมที่สำคัญคือ การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชติ (ผบ.ตร.)
‘ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ’ เตือน ‘นายกฯอิ๊งค์’ เลือก ‘ผบ.ตร.’ ตามกม. หากไม่อยากโดนร้องเรียน
‘บิ๊กเอก’ เผยนายกฯอิ๊งค์ นัด 7 ต.ค.นี้ ประชุม ก.ตร. เชื่อจะเสนอชื่อ ผบ.ตร. ตามหลักเกณฑ์ เตือน ไม่อย่างนั้นมีปัญหาแน่ โดนร้องเรียน
'บิ๊กต่อ' ส่งมอบหน้าที่ ผบ.ตร. ตอบแล้วหลังเกษียณอายุราชการจะทำอะไร
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จัดพิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2567
‘ดร.อานนท์’ เล่าเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
การเมืองจะเข้าแทรกแซงกิจการตำรวจมากเกินไปหรือไม่ ลำดับอาวุโส จะข้ามกันอย่างนี้ใช่หรือไม่
ก.ตร.นัดประชุม 7 ต.ค. คาด ‘บิ๊กต่าย’ ผงาด ผบ.ตร.คนที่ 15
ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. แจ้งนัดประชุม ก.ตร.นัดพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 7 ต.ค.2567 ห้องประชุม 1