ไม่กลัวอิทธิพล! ‘ผบ.ตร.’ โดดลุยทำคดี ‘ตู้ห่าว’ เอง ลบข้อครหาคดีไม่คืบ

‘บิ๊กเด่น’แจงยิบประเด็นคดีทุนจีนสีเทา‘ตู้ห่าว’ ยันทำตรงไปตรงมา ไม่กลัวอิทธิพล แต่ตำรวจต้องสั่งคดีตามพยานหลักฐาน โดยทำงานร่วมทั้ง ปปส., ป.ป.ง. และ อัยการ

11 ธ.ค.2565-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัทร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณียายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวคดีกลุ่มทุนจีนสีเทาระบุตำรวจทำคดีตู้ห่าวตั้งข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดแต่ไร้ข้อหาฟอกเงิน พร้อมตั้งคำถามถึงผบ.ตร.อาจจะกลัวอิทธิพลตู้ห่าวว่า  นายชูวิทย์อาจจะมีการเข้าใจผิดในหลายเรื่องที่อาจจะทำให้ไม่มั่นใจในตำรวจขึ้นมา เริ่มต้นคดีผับจินหลิงเกิดจากพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เนื่องจากมีการสืบทางลึกมาและได้ใช้กำลังที่ไม่เกี่ยวกับท้องที่ เพื่อไม่ให้มีการข่าวรั่ว

“หากถามว่าทำไมยังไม่ดำเนินคดีฟอกเงินต้องชี้แจงว่าคดียาเสพติดข้อหาสมคบตามพ.ร.บ.มาตรการ เจ้าพนักงานป.ป.ส.สามารถยึดและอายัดทรัพย์สินได้ครอบคลุมอยู่แล้วตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ซึ่งสะดวก รวดเร็ว ครอบคลุม เมื่อยึดอายัดทรัพย์สินแล้ว ภาระการพิสูจน์ทรัพย์สินของนายตู้ห่าวทั้งหมด นายตู้ห่าวจะต้องมาแสดงว่าได้ทรัพย์สินมาได้อย่างไร ถูกต้องหรือไม่อย่างไร ส่วนปปง.ก็ไม่ได้ทิ้งก็จะตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินที่ถ่ายทอดไปยังบุคคลอื่นอย่างไร โดยได้ทำงานคู่ขนานกันไป พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่ปปง.มาร่วมตรวจสอบด้วย ทั้งนี้กรณีที่มีผู้จัดหาผลประโยชน์ รับเงิน โอนเงิน หรือฟอกเงิน ไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เรามีการแจ้งแน่นอน  แต่จะใช้ กม เน้นปราบปราม ตัดวงจร ซึ่งขอระยะเวลาในการรวบรวม”

ถามว่าทำไมถึงไม่ใช่คดีนอกราชอาณาจักรและอัยการสูงสุดยังไม่เข้ามาควบคุมการสอบสวน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้จากพยานหลักฐานยังเป็นคดีในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นคดีที่ตำรวจต้องเป็นผู้ดำเนินการแต่เราไม่ได้ละเลยความสำคัญของท่านอัยการ เพราะเป็นคดีสำคัญ เป็นคดีที่จะทำอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เราได้ขอความร่วมมือไปทางสำนักงานอัยการคดียาเสพติดเป็นการประสานงานให้ส่วนราชการ ต้องหารืออยู่แล้ว เพราะต้องส่งสำนวนคดี ทั้งหมดให้พนักงานอัยการพิจารณาดำเนินคดี ทั้งหมดเป็นความคืบหน้าซึ่งจริงๆ แล้วคดียาเสพติดทั้งหมด หรือคดีที่เกี่ยวข้องต่างๆ เป็นไปตามนโยบายที่ผมได้มีนโยบายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 แล้ว ทั้งเรื่องยาเสพติดต่างๆ ไม่ใช่จะดูที่รายนี้เพียงรายเดียวจะดูทุกมิติ ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด นายกรัฐมนตรีได้กำชับคดีจินหลิงทุนจีน ให้ทำงานตรงไปตรงมา และให้นำเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูเป็นจุดที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาป้องกันปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ เพื่อให้ชาวบ้านในทุกพื้นที่เกิดความสบายใจมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่

“เราทำอย่างตรงไปตรงมา ผมขอยืนยันให้มั่นใจได้ และขอบอกนายชูวิทย์ว่า ถ้าท่านต้องการที่จะให้ข้อมูล ผมยินดี ท่านจะนำมาให้ผมโดยตรง หรือจะไปคุยหารือกับผบช.น.ก็ได้ ถ้าท่านสบายใจ หรือจะรองผบ.ตร. ทั้งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ก็ได้ แต่ผมยินดีท่านติดต่อผมได้โดยตรงได้ ผมยินดีจะรับข้อมูล ตอนนี้ผมก็ดูแลอย่างใกล้ชิด”

ถามถึงกระบวนการแจ้งข้อหาฟอกเงินจะล่าช้าหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้เริ่มต้นจากคดีเสพ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 โดยได้ขอออกหมายจับช่วงประมาณวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2565 ใช้เวลาเพียง 1-2 สัปดาห์ ในเรื่องนี้ยังต้องพิจารณาเรื่องเส้นทางการเงินและอะไรต่างๆ อีกเยอะรวมถึงการสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งได้มีการสอบพยานไปจำนวนมากแล้ว ผมเรียนตรงๆ ว่าผบช.น.ท่านนี้ มีบุคลิกเงียบ ท่านอาจจะไม่ชอบให้ข่าว แต่ผมได้สั่งการแล้วว่าต่อไปขอให้รายงานความคืบหน้าทางคดีให้กับสื่อมวลชนได้รับทราบผ่านไปยังพี่น้องประชาชนให้มีความคืบหน้าเป็นระยะๆ เพื่อจะได้ให้เกิดความสบายใจว่า ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมาและมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ประเด็นใดที่มีความสงสัยฝากแนะนำมาก็จะไปสอบปากคำให้ครบจนเสร็จสิ้นกระบวนข้อสงสัยต่างๆ จริงๆ แล้วตำรวจพยายามทำอย่างเต็มที่

“ในฐานะผบ.ตร. ก็ต้องดูในภาพรวม ผมไม่ได้มีเพียงคดีเดียว ตอนนี้ได้โฟกัสไปที่ภาพรวมของการแก้ไขปัญหายาเสพติดในมิติของการป้องกันปราบปรามและบำบัดที่จะเข้าไปดูแลในภาพรวมของแต่ละชุมชน และอยู่ระหว่างร่วมกับอัยการแก้ปัญหาเรื่องปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ ซึ่งทุกคนคงทราบว่าตัวการใหญ่ ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ เราก็แก้ไป ส่วนในประเทศอยู่ระหว่างการร่างพ.ร.ก.ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ เพื่อเข้าสู่ครม. ให้ได้โดยเร็วตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาบัญชีม้า ซิมม้า เพื่อทำให้การโอนเงินที่อาจจะถูกหลอกลวงจากคนร้ายทำได้ยากขึ้น รวมถึงมีการยกระดับการทำงานของตำรวจในการบริการบนสถานีตำรวจและนอกสถานีตำรวจ ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้มีการดำเนินการในหลายเรื่อง รวมถึงคดีนี้ ไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญ ทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพล.ต.ท.ธิติ ได้รายงานความคืบหน้ากับผมมาโดยตลอด แต่ต่อไปนี้เพื่อความสบายใจผมจะเข้ามากำกับดูแลให้ใกล้ชิดและหากมีข่าวก็อาจจะพูดเอง หรือมอบให้คนอื่นพูดบ้าง”

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ ได้ตั้งคำถามถึงผบ.ตร.ว่าเกรงกลัวอิทธิพลของนายตู้ห่าวหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนเห็นทางนายชูวิทย์ไว้ใจ รองผบ.ตร.ทั้ง 2 ก็คิดว่าเพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้ต้องการให้ตนลงมา เรียกร้องตนก็จะลงมาเพื่อให้เกิดความสบายใจ จริงๆก็ดูอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้รายงานความคืบหน้าเป็นระยะๆ โดยที่ไม่ได้เป็นข่าว แต่ตอนนี้ก็อาจจะต้องออกข่าวบ้าง ซึ่งจะเน้นย้ำให้ผบช.น.ให้ข่าวเป็นระยะๆ ตามความคืบหน้า ส่วนตัวผมมั่นใจคดีและหลักฐาน ไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน

ถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ระบุว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่มีอำนาจเปรียบเหมือนยักษ์ไม่มีกระบองนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงตามที่นายชูวิทย์เข้าใจ ทุกคดีที่ทำคดีทั่วประเทศ รองผบ.ตร.ที่รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวนทำแทนผบ.ตร.ได้อยู่แล้ว รองผบ.ตร.ทุกท่านผมมอบอำนาจไปแล้ว ท่านทำได้อยู่แล้วทุกคดี คดีนี้ถือเป็นคดีแรกด้วยซ้ำของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ผมยกระดับให้ผบช.น.เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ปกติในคดีสำคัญใหญ่ๆ จะเป็นแค่รองผู้การ หรือรองผู้บัญชาการ ซึ่งผมมองว่าผบช.น.ทราบปัญหาตั้งแต่ต้น ได้เข้าไปตรวจค้นจับกุมด้วยตนเอง ท่านรู้มากที่สุด ท่านแสดงให้เห็นแล้วว่าทราบข้อมูลเชิงลึกจึงไปจับกุมโดยที่ไม่บอกท้องที่ ท่านไม่มั่นใจใคร ท่านไปทำเอง เพราะฉะนั้นผม จึงต้องให้ความไว้วางใจผบช.น. อย่างไรก็ตามเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับสั่งการมาให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา และรอบคอบ รวดเร็ว ซึ่งคงไม่มีอิทธิพลใดๆ ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวได้อยู่แล้วขอยืนยัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดคำสั่งให้ 'บิ๊กโจ๊ก-4 ลูกน้อง' ออกจากราชการ ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 177/67

'เศรษฐา' ว่าไง 'บิ๊กโจ๊ก' ให้ถามนายกฯ เซ็นคำสั่งปลดออกจากราชการจริง-ไม่จริง?

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 12.10 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน

ผู้ช่วยผบ.ตร. พอใจอุบัติเหตุลดลง คาดวันนี้เดินทางกลับสูงสุด 6 แสนคัน

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการจราจรและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลประจำปี 2567 ร่วมกับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ทั่วประเทศ

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ทุกหน่วยเร่งรัดผลตรวจแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ หากเกิดอุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการจราจรและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนช่วงเทศกสงกรานต์ ประจำปี 2567

ผบก.น.2 ไม่ฟันธงพยานหลักฐานของ 'ทนายตั้ม' เชื่อถือได้หรือไม่

พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เข้าร่วมประชุมและติดตามความคืบหน้าในคดีฟอกเงินเว็บพนัน BNK Master ของคณะพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน หลังจากที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำเอาพยาน