'ผบ.ตร.' บินด่วนลงใต้! รวบแล้ว 2 มือบึ้มแฟลตตำรวจ

‘ผบ.ตร.’ บินด่วนลงใต้ รวบแล้ว 2 มือคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจนราธิวาส เร่งขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 7 ราย

2 ม.ค. 2566 – พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9), พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.), นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ รอง ผบช.ตชด., พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา , น.อ.พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นย.ทร. ร่วมกับแถลงข่าวจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องคดีลอบวางระเบิดแฟลตตำรวจนราธิวาส และความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดทางรถไฟพื้นที่สงขลา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อ 22 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 25 นาย และครอบครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ บาดเจ็บ 18 ราย แฟลตและบ้านพักทางราชการได้รับความเสียหาย 70 ห้อง และทรัพย์สินส่วนตัวได้รับความเสียหายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยต่อสถานการณ์ สั่งการให้เร่งสืบสวนติดตามผู้กระทำผิด และดูแลขวัญกำลังใจตำรวจให้ดี ตนได้สั่งระดมชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจนพบว่า คนร้ายขับรถยนต์กระบะคันประกอบระเบิด หรือ คาร์บอมบ์ มาจอดภายในบริเวณแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ แล้วเดินลงจากรถออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่มารอรับด้านหน้าแล้วหลบหนีไป

ตรวจสอบทางทะเบียนรถยนต์ที่นำมาใช้ก่อเหตุ เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU สีดำ ทะเบียน กค6961 ตรัง พบว่ามีการโอนขายลอยกันเป็นทอด ๆ ตั้งแต่ปี 2564 และนางสาวไซนะ เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้ายก่อนที่จะได้มีการประกาศขายทางเฟสบุ๊ค ต่อมามีคนมาติดต่อซื้อนัด ส่งมอบรถกันบริเวณตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 โดยมีชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับรถมีพยานยืนยันว่า 1 ใน 2 คน ที่มารับรถเป็นนายฮัสบูเล๊าะ สะนิ

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่ใช้ในการก่อเหตุพบว่าคนร้าย เดินทางออกมาจากพื้นที่อำเภอตากใบ มียานพาหนะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจำนวน 6 คัน ตรวจยึดแล้ว 5 คัน และขยายผลควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 คน คือ นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ และ นายอุสมัน สะนิ ซึ่งให้การรับสารภาพว่าร่วมกันกับพวกก่อเหตุคดีนี้สามารถพิสูจน์ทราบรู้ตัวบุคคลที่ร่วมกระทำผิดแล้ว 9 คน

ขณะนี้ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีนี้แล้วจำนวน 9 คน ประกอบด้วย 1.นายฮัสบูเลาะ สะนิ 2.นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ 3.นายอับดุลมาทิน มามะ 4.นายอุสมัน สะนิ 5.นายอับดุลฮาฟิซ ดือเระ 6.นายวาฟี สะปาดี 7.นายอีซาล สาและ 8.นายไซปูรูสมัน มามะ และ 9.นายมูฮำหมัดฮาฟิส เจะดือราแม ซึ่งตำรวจจับกุมได้ 2 ราย ส่วนอีก 7 ราย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

คดีที่ 2 ความคืบหน้า คดีลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้า ระหว่างสถานีรถไฟคลองแงะ – ปาดังเบซาร์ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ทำให้ขบวนรถไฟตกราง รางรถไฟ และสินค้าได้รับความเสียหายไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

และกรณีเหตุ วันที่ 6 ธ.ค.65 ขณะเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าทำการเก็บกู้รางและขบวนรถไฟ ได้เกิดระเบิดอีกหนึ่งลูก ทำให้เจ้าหน้าที่การรถไฟ เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย จากการตรวจที่เกิดเหตุ พบชิ้นส่วนถังแก๊ส และชิ้นส่วนองค์ประกอบระเบิดบางส่วน เชื่อว่าเป็นระเบิดแบบเหยียบโดยที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลอบวางระเบิดแบบเหยียบที่มีการก่อเหตุต่อรางและขบวนรถไฟ ที่มีลักษณะคล้ายกับคดีนี้ มีการออกหมายจับนายอัซมัน เปาะเลาะ กับพวก คนร้ายที่ก่อเหตุในช่วงปี 2564

ซึ่งจากการเปรียบเทียบวัตถุพยานและแผนประทุษกรรมคดีนี้พบว่า เหมือนกันกับคดีที่นาย อัซมัน เปาะเลาะ เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้และจากกรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมตัว นายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ พร้อมกับอาวุธปืน 4 กระบอก พื้นที่ อำเภอจะนะ เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ผลการซักถามของนายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ ให้การยอมรับว่าก่อนถูกควบคุมได้รับคำสั่งจาก นายอับดุล ให้ตนกับนายอัซมัน เปาะเลาะ สำรวจดูเส้นทางรถไฟสายหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ บริเวณบ้านท่าโพธิ์ เพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุ ซึ่งได้มีการชี้จุดไว้ในแผน และได้มีการแจ้งเตือนให้หน่วยเฝ้าระวัง

นอกจากนี้ นายจิรศักดิ์ยังให้การรับว่า กลุ่มเครือข่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มนายจิรศักดิ์ ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ จังหวัดสงขลา มีจำนวน 17 คน จับกุมแล้ว 2 คน วิสามัญ 4 คน หลบหนี 10 คน รวมทั้งนายอัซมัน เป๊าะเลาะ ที่มีหมายจับ ป.วิ อาญา 18 หมาย คนเดียวด้วย

สำหรับคดีนี้ก่อนเกิดเหตุมีพยานยืนยันว่าวันเกิดเหตุมีพยานพบเห็นและได้มีการพูดคุยกับนายอัซมันฯ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กับพวก 2 คน ออกจากที่เกิดเหตุก่อนเกิดระเบิดประมาณ 30 นาที

โดยในส่วนของนายอัซมัน ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับไว้แล้ว ส่วนกลุ่มขบวนที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป

ด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จ.นราธิวาส ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านร่างกายไปแล้ว จำนวน 46 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 950,000 บาท เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 65 แบ่งเป็น กรณีเสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 500,000 บาท กรณีบาดเจ็บ จำนวน 45 ราย เป็นเงิน 450,000 บาท และวันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จำนวน 46 ราย ทั้งสิ้น 6,146,414 บาท

ผบ.ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญในการสืบสวนติดตาม รวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และฐานข้อมูลความเชื่อมโยงของคดี จนนำไปสู่การออกหมายจับ ต้องขอบคุณและชมเชยคณะทำงานที่สามารถคลี่คลายทั้ง 2 คดี โดยได้สั่งการขยายผลติดตามผู้กระทำผิดที่ถูกออกหมายจับมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งขวัญกำลังใจ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่าย' ยันไม่กระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นผบ.ตร. ไม่ติดใจถูกกล่าวหาหลอกนายกฯ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้กล่าวพาดพิงจากประเด็นที่ลงนามคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนว่า

โจรใต้ป่วนหนัก! เผาโรงไฟฟ้าปัตตานี-สงขลา

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานว่า เมื่อเวลา 23.3. น. วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาโรงไฟฟ้าชีวมวล

เหยื่อ 'แก๊งนักรบ' โผล่อีก! ผู้บังคับบัญชาพาพลทหารมอบตัวแล้ว

จากกรณีที่นายวิ่งและนางสาวกุลนันท์ ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ นายระพีพัฒน์ หรือแพต อายุ 16 ปี ได้นำคลิปหลักฐานขณะลูกชายถูกรุมทำร้ายร่างกาย

ชาวบ้านผวา! แจ้งตำรวจช่วย โจ๋ปาประทัดลูกบอล ยิงปืนทางเข้าชุมชน

พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากนายประเทศ เข็มนิล อายุ 65 ปี ชาว ตำบลสำโรงกลาง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ