เปิด 3 ขั้นตอนใช้ 'ESS Help Me' บริการแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคมรูปแบบใหม่

เปิด 3 ขั้นตอนใช้ 'ESS Help Me' บริการแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคมรูปแบบใหม่ช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างแม่นยำ พร้อมเตือนอย่าก่อกวนเจ้าหน้าที่ด้วยการแจ้งเหตุเท็จ มีโทษอาญาทั้งจำทั้งปรับ

5 เม.ย.2566- น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ 4 หน่วยงานประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกองทุนเสมอภาคทางการศึกษา ได้พัฒนาระบบการแจ้งเหตุทางสังคมรูปแบบใหม่ ESS Help Me (Emergency Social Services) ล่าสุดระบบดังกล่าวได้เริ่มเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 66 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ “Ess Help Me ปักหมุด หยุดเหตุฉุกเฉินทางสังคม” ได้รับการพัฒนาให้ใช้งานได้บนแอปพลิเคชัน Line เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนที่ปัจจุบันมีการใช้บริการแอปพลิเคชันนี้อยู่มาก โดยระบบจะช่วยทั้งในด้านรวดเร็วในการแจ้งเหตุ มีการแชร์พิกัดจุดเกิดเหตุ ให้เจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลือได้อย่างแม่นยำ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การใช้งานระบบนั้นเริ่มต้นด้วยการเพิ่มเพื่อนระบบในแอปพลิเคชัน Line โดยการค้นหาในช่องค้นหาเพื่อนด้วยคำว่า @esshelpme หลังจากนั้นก็สามารถดำเนินการแจ้งเหตุได้ด้วย 3 ขั้นตอนง่ายๆ คือ 1)กดปุ่มแจ้งเหตุด่วน เมื่อกดแล้วระบบจะขึ้นตัวเลือกปัญหาที่ท่านพบโดยให้เลือก 1 ปัญหาจาก 5 ปัญหา ได้แก่ ข่มขู่ว่าจะทำร้ายหรือทำร้าย, กักขังหน่วงเหนี่ยว, เสี่ยงถูกล่วงละเมิดทางเพศ, ผู้คลุ้มคลั่งก่อให้เกิดเหตุร้าย และ มั่วสุมจนก่อให้เกิดเหตุร้าย

2)แจ้งตำแหน่งเกิดเหตุ เมื่อเลือกปัญหาที่พบแล้วระบบจะขึ้นปุ่ม “แชร์พิกัดตำแหน่ง” ให้กดและเลือกตำแหน่งที่เกิดเหตุเพื่อให้เจ้าหน้าที่มายังจุดเกิดเหตุได้อย่างแม่นยำ และ 3) กรอกเบอร์ติดต่อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เมื่อประชาชนผู้แจ้งเหตุดำเนินการครบทั้ง 3 ขั้นตอนระบบจะดำเนินการส่งข้อมูลการแจ้งเหตุไปยังสถานีตำรวจที่ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุด พร้อมกับแจ้งข้อความมายังผู้แจ้งเหตุ และเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบแล้วระบบจะแจ้งเตือนสถานะการรับทราบมายังผู้แจ้งเหตุอีกครั้งเพื่อให้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงทีมสหวิชาชีพจะถึงจุดเกิดเหตุในเวลาเท่าใด

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเพิ่มเพื่อนระบบ Ess Help Me ติดตัวไว้ แม้ยังไม่จำเป็นต้องแจ้งเหตุ เพื่อว่าเมื่อเกิดเหตุจะได้สามารถใช้งานระบบได้ทันที และแนะนำว่าให้ปักหมดข้อความในแอปพลิเคชัน Line ไว้บนสุดเพื่อการค้นหาที่รวดเร็วเมื่อประสบเหตุ โดยผู้ใช้ระบบ iOS ให้เลื่อนแชทไปทางขวาจะพบเครื่องหมายปักหมุดขึ้นมาที่ด้านซ้ายของข้อความ ส่วนระบบ Android ให้กดค้างที่แชทจะมีคำสั่งปักหมุดเด้งขึ้นมา เมื่อกดแล้วจะมีสัญลักษณ์ปักหมุดสีฟ้าอยู่

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หน่วยงานผู้พัฒนาและดูแลระบบได้เน้นย้ำและเตือนว่า ขอให้ประชาชนที่ใช้ระบบแจ้งเหตุตามความเป็นจริง อย่าเข้าใช้ระบบเพื่อก่อกวนเจ้าหน้าที่เพื่อความสนุกสนานหรือคึกคะนอง เพราะนอกจากจะกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จนส่งผลต่อการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีความเดือดร้อนจริงแล้ว การแจ้งเหตุอันเป็นเท็จโดยเจตนา จะถูกตั้งข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 384 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เก้าอี้ 'ผบช.น.'

ได้ฤกษ์งามยามดี 27 ก.ย. เวลา 13.30 น. วงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี นายกฯ นิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง นั่งเป็นประธาน ก.ตร.ครั้งแรก วาระสำคัญถูกโฟกัสไปที่การแต่งตั้งตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ"

ยุติศึก! 'บิ๊กโจ๊ก' บุกเคลียร์ใจ แสดงความยินดี 'บิ๊กต่อ'

หลังจากที่เกิดการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ศึกแย่งเก้าอี้ “ผบ.ตร.” คนที่ 14 ระหว่าง “บิ๊กโจ๊ก” - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.อาวุโส อันดับ 2 กับ “บิ๊กต่อ” -พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.อ

ชำแหละวงการตำรวจ 'จตุพร' จี้ 'บิ๊กต่อ' ต้องแก้ปัญหา 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดข้อมูลสีเทา

“จตุพร” แนะ “บิ๊กต่อ” ผบ.ตร.คนใหม่ รุกแก้ระบบเพี้ยนของตำรวจให้สิ้นซาก จี้ปฎิรูปองค์กร ขจัดเส้นสายวิ่งเต้นซื้อตำแหน่ง เชื่อระบบตำรวจเปลี่ยน ประเทศจะเปลี่ยนตามด้วย ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” เปิดข้อมูลตำรวจเทาๆ ออกมาให้หมด ล้างบางพวกหากินกับสิ่งผิด กม.

'นิพิฏฐ์' ชี้ฝ่ายบิ๊กโจ๊กประกาศชักธงรบ แต่หากจะพ่ายแพ้ในสงคราม ก็เพราะกำลังรบ 'พูดมาก'

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า รบเถิด..อรชุน...ผมติดตามความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ติดตามรายละเอียดมากนัก ที่ไม่ได้ติดตามรายละเอียดเพราะรู้ว่า สักวันหนึ่ง