สาวโดดตึกชั้น 4 หนีตาย หลังถูกสามีเมายาคลั่งทำร้ายร่างกาย

สาวโดดตึกชั้น4 หนีตาย หลังถูกสามีเมายาคลั่งเอาน้ำร้อนราดตัว ใช้ขวดเบียร์ยัดอวัยวะเพศและตีหัว บาดเจ็บสาหัส

9 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 เมษายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีหญิงสาวถูกสามีเอาน้ำร้อนราดใส่ตัวได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ภายในสถานที่ตรวจสภาพรถของเอกชนปากซอยบางปลา 22 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้านหลังสถานตรวจสภาพรถ ตรอ.พบ นาง นริศรา อุพันทา อายุ 27 ปี นั่งอยู่ที่รถยนต์กระบะ ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด มีอาการปวดแสบปวดร้อนทั่วร่างกาย สภาพเนื้อตัวเปียกชุ่มด้วยน้ำ และเศษดินโคลน จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลจากการถูกน้ำร้อนลวกตามร่างกายหลายแห่ง และบาดแผลที่ศีรษะจากการถูกตีด้วยของแข็ง เจ้าหน้าที่จึงให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางพลี

จากการสอบถาม นาง นริศรา ผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าทั้งน้ำตาว่า คนที่ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นสามีเธอเอง  ชื่อ นาย ไพศาล อุพันทา อายุ 33 ปี ที่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียงปีเศษ สาเหตุที่สามีลงมือทำมาจากเมายาบ้าจนประสาทหลอนและระแวงว่าเธอจะมีชายอื่น สามีจึงใช้มีดขู่บังคับให้เธออยู่ในห้อง และล็อกประตูขัง  พร้อมสั่งห้าม หากลุกหนีจะเอามีดแทงให้ตาย  ซึ่งในขณะนั้นฝ่ายสามีได้ต้มน้ำกับเตาแก๊สในห้องและบอกว่าจะเอาเทราดใส่เธอ เธอจึงตัดสินใจเลือกที่จะถูกน้ำร้อนเทราดเพราะหากลุกหนีเธอคงถูกมีดแทงตาย ระหว่างรอน้ำร้อนเดือดฝ่ายสามีได้คลุ้มคลั่งใช้ขวดเบียร์ยัดที่หว่างขาแล้วตบกระแทกซ้ำจนเธอจุกและเจ็บปวดมาก แต่ยังไม่หนำใจ ฝ่ายสามีใช้ขวดใบเดียวกันตีซ้ำที่ศีรษะจนแตกเลือดไหลแล้วเดินไปเอาน้ำร้อนที่ต้มไว้เดือด ๆ มาเทราดตัว จนปวดแสบปวดร้อนอย่างทรมาน พอก่อเหตุเสร็จฝ่ายสามีออกจากห้องแล้วล็อกจากด้านนอกขังเธอให้นอนทรมานอยู่ภายในห้อง เธอจึงตัดสินใจกระโดดหนีตายลงมาจากชั้น 4  ของห้องเช่า จนหล่นลงมาในป่า กระเสือกกระสนปีนข้ามรั้วสังกะสีมาที่แคมป์พักคนงานที่อยู่ข้าง ๆ ในซอยถัดไป เพื่อขอให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือตนเอง แต่กลับถูกคนงานในแคมป์ ปฏิเสธและไล่ให้ไปขอความช่วยเหลือที่อื่น เธอจึงตัดสินใจกระโดดลงคลองว่ายน้ำข้ามคลองขึ้นอีกฝั่งปีนข้ามรั้วมาขอความช่วยเหลือจากร้านตรวจสภาพรถจนได้รับความช่วยเหลือ

นาง นริศรา  ยังเปิดใจอีกว่า เธอกับสามีคบกันได้เพียง 9 วัน แล้วถูกฝ่ายสามีไปขอแต่งงานด้วย จึงตัดสินใจคบหาอยู่กินด้วยกันมา โดยที่ไม่รู้ในตอนแรกว่าสามีติดยาเสพติด พอแต่งงานอยู่กินกันแล้วถึงได้รู้ทาสแท้ของสามี ตนพยายามขอเลิกหลายครั้งแต่ก็ถูกขู่ฆ่า ที่ผ่านมาเคยถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง พอเมายาหรืออยากยาขึ้นมาก็มักลงมือทุบตี ครั้งก่อนเคยเอาไฟฟ้าจากหม้อแปลงช็อตปลา มาช็อตเธอแล้วครั้งหนึ่ง กระทั่งมาก่อเหตุซ้ำอีกในครั้งนี้  เธอเสียใจที่ไม่เชื่อฟังคำเตือนของแม่ หลังรักษาตัวเสร็จจะขอกลับไปอยู่กับแม่ และจะขอเลิกอย่างเด็ดขาดกับอดีตสามีคนนี้  ส่วนเรื่องทางคดียืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและหากวันนี้เธอไม่ตัดสินใจกระโดดลงมาคงถูกขังในห้องนอนทรมานจนตาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้เดินทางไปสอบปากคำเบื้องต้น นาง นริศรา ที่โรงพยาบาล และจะเชิญตัวมาสอบปากคำอีกครั้งหลังรักษาตัวจนหายแล้วที่สถานีตำรวจ และจะเชิญตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนุ่มขับรถขโมยท่อน้ำเทศบาล พลเมืองดีช่วยกันจับได้ทัน

พ.ต.ท.ดำรงค์ สุชชูศรี สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว รับแจ้งเหตุมีโจรขโมยตัดท่อสูบน้ำเหล็กที่ต่อไว้กับท่อยางของเทศบาลเมืองบางแก้ว

โฆษก ทบ. แจงปมเจ้ากรมยุทธฯทำร้ายทหาร รอสอบพยานเพิ่ม ชี้บทลงโทษด้านวินัย

พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชาว่า ขณะนี้การสอบพยานหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีคำสั่งให้เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก

หนุ่มสมุทรปราการโร่แจ้งความ มือมืดปาถุงเลือดใส่หน้าบ้าน

นายปริญญา ไกรกิจธนโรจน์ อายุ 24 ปี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อเวลา 00.20 น. ได้มีผู้ก่อเหตุมาขว้างปาถุงเลือดสด

สลด! หนุ่มเมียนมา ชะตาขาด ไฟดูดดับคาไซต์งานก่อสร้าง

ร.ต.อ.เกษม เพชรพิมานสมุทร รองสารวัตรสอบสวน สภ.คลองด่าน รับแจ้งเหตุมีคนถูกไฟฟ้าดูด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดหน้าไซต์งานก่อสร้างทางลอดสายไฟฟ้าใต้ดิน

พ่อสุดทน! ใช้ขวานจามหัวลูกสาหัส หลังโดนทำร้ายมานาน

พ่อเหลืออด! รองรับอารมณ์ลูกชายมานาน หลังลูกอาละวาดขู่ฟันคอพ่อกับแม่ที่ป่วยติดเตียง ใช้ขวานฟันหัวลูก สาหัส สารภาพสิ้นกะฟันให้ตายคามือ

พฤติกรรมแย่! เก๋งไม่ยอมหลบรถกู้ชีพ แถมเบรกใส่ ไปถึงผู้ป่วยเสียชีวิต

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า "ในขณะที่กำลังจะไปเคสผู้ป่วยหมดสติ ทั้งเสียง ทั้งไฟ ทั้งประกาศไมค์ ทั้งบีบแตร ก็ยังไม่หลบ