สาว 17 เตือนภัยสั่งซื้อโทรศัพท์โอนเงินครบบล็อกเพจหนี พิลึกตำรวจไม่ตามให้อ้างยุ่งยาก

24 ต.ค.2566- เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง หมู่ที่ 7 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ. ตรัง หลังจากที่น้องแก้ม(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แจ้งว่าตนเองโดนมิจฉาชีพหลอกขายโทรศัพท์ I Phone ทางเพจเฟสบุ๊คสูญเงินกว่า 6,500 บาท

โดยน้องแก้ม(นามสมมุติ) เปิดเผยเล่าเหตุการณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองได้เข้าไปในเพจที่ใช้ชื่อว่า Big Phone ผ่อนได้ทุกจังหวัด ซึ่งมีการขายโทรศัพท์ไอโฟน ซึ่งหน้าโปรไฟล์เป็นหญิงสาวผมสั้น ตนเองได้ทักเชตเพื่อติดต่อสั่งซื้อโทรศัพท์ I Phone XR ราคาอยู่ที่ 6,500 บาท ซึ่งทางเพจได้ส่งข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ส่งมาให้อ่าน และชี้แจงว่า สามารถผ่อนไปใช้ไป แต่ถ้าซื้อเงินสดจะเหลือราคาเครื่องละ 5,000 บาท ตนจึงตัดสินใจซื้อเงินสด และโอนเงินจำนวน 5,000 บาท ชื่อบัญชี ไอยดา ธนาคารทหารไทย เลขที่บัญชี 919-7-38673-4

แต่ต่อมาทางเพจติดต่อมาแจ้งว่าสินค้าตัวดังกล่าวราคาสด 5,000 บาทไม่มีแล้ว ให้โอนเงินเพิ่มอีก 1,500 บาท ซึ่งตนก็โอนไปอีกครั้ง รวมเป็น 6,500 บาท แต่ต่อมาได้แจ้งว่าได้เลขพัสดุแล้วแต่ต้องโอนเงินจ่ายเงินค่าภาษีเพิ่มอีก 3,000 บาท หากไม่โอนมาให้สินค้าจะโดนตีกลับ

ซึ่งหลังจากโอนเงินให้ครบก็มีการบล็อกเฟสหนี ซึ่งตนเองไม่คิดว่าจะโดนปล็อกเพราะเพจของเขาน่าเชื่อถือมากมีผู้ติดตามเป็นหลักพัน อยู่ที่ 8.3 พัน 8,300 กว่าคน ทั้งนี้ทางเพจได้ขอหลักฐานอย่างหน้าบัตรประชาชน เลขสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่งดูแล้วรัดกุมและประกอบกับข้อมูลดูน่าเชื่อถือ ถ้าถามว่าตนคิดว่าจะโดนหลอกบ้างมั๊ยตนก็คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดกับตนเองสักวัน เพราะที่ผ่านมาตนเองก็โดนไปหลายกรณีจากเพจเฟสบุ๊ค ซึ่งครั้งนี้ถือว่าจำนวนเงินมากที่สุด 6,500 บาท ซึ่งหลังจากโอนเงินไปแล้ว 6,500 บาท ทางเพจให้โอนเงินเพิ่มอีก 3,000 บาท ซึ่งตนเองก็ไม่ได้โอนเงินเพิ่มไปให้ เนื่องจากตนเองมีรายได้ไม่มาก จ่ายไป 6,500 แล้ว เงินที่ตัวก็เหลือไม่มากที่จะโอนเพิ่มให้อีก จึงเกิดความระแรงแคลงใจ เริ่มไม่เชื่อแล้ว ว่าทำไมต้องจ่ายเงินค่าขนส่งเพิ่มอีก 3,000 ซึ่งเรารับสินค้าปลายทางอาจจะจ่ายเพิ่มอีกเล็ก ๆ น้อย หน้าบ้านก็ได้

หลังจากแน่ใจแล้วว่าโดนหลอกแน่ ๆ ตนก็ได้พยายามติดตามสืบหาข้อมูลจนไปพบกับเพจเฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า วิศาล สามารถการ ได้ลงเฟสแจ้งเตือนให้ระวังมีเพจแอบอ้างใช้รูปโปรไฟล์ภรรยาของตน ชื่อ Wanni Nuwor เปิดเพจจำหน่ายสินค้า ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งเมื่อได้คุยกับคุณวิศาล สามารถการ ก็บอกให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดี เนื่องจากไม่ใช่เพจของเขา และขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความหลายรายแล้ว ซึ่งในจังหวัดตรังตนยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายจำนวนกี่คน แต่ที่ทราบต่างจังหวัดโดนไปหลายรายทั่วประเทศ

และทราบมาว่า มิจฉาชีพเปิดบัญชีหลายบัญชีเยอะมาก หลังจากเกิดเหตุ ตนได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองตรัง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับเรื่อง แต่แจ้งตนให้ไปปิดบัญชีเพราะเขาได้ข้อมูลบัตรประชาชน เลขบัญชีของเราแล้วไปหลอกคนอื่นต่อ ส่วนจะเป็นบัญชีม้าหรือไม่นั้นตนเองก็ไม่ทราบได้

แต่ทางเจ้าหน้าที่อ้างว่า สำหรับการแจ้งความเรื่องนี้ค่อนข้างยุ่งยาก เนื่องจากตนเองยังเรียนหนังสือ กลัวว่าไม่สะดวกที่จะเดินทางมาให้สอบปากคำ เพราะต้องเดินทางมาบ่อย ๆ แต่ต่อมามีบุคคลแอบอ้างว่าเป็นทนายความเข้ามาทักไลน์ขอรับเรื่องดังกล่าวไว้ แต่ขอให้กรอกข้อมูลส่วนตัวของตนลงไปในเอกสาที่ส่งมาให้ ซึ่งตอนนั้นตนมีความระแวงไม่เชื่อใครแล้วจึงได้ลบข้อมูลทิ้งทั้งหมด ซึ่งขณะที่ได้นั่งคุยกับผู้สื่อข่าว แล้วทักไลน์หาทนายความคนดังกล่าว เพื่อขอเอกสารใหม่

ปรากฏว่าทางทนายความได้ปฏิเสธการส่งข้อมูลให้ แจ้งว่า คิดว่าได้เงินคืนแล้วทางทนายได้ลบข้อมูลทิ้งไปแล้วเช่นกัน ต่อมาตนเองได้เข้าไปแจ้งความทางเพจตำรวจไซเบอร์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ต้องโอนเงินให้ทางเพจตำรวจไซเบอร์จำนวน 1,000 บาท ค่าโจมตีเฟลสฟอร์มเพื่อจะโยกเงินกลับมาจากต่างประเทศ

ตอนนี้ตนเองสับสนมากไม่รู้อันไหนจริงอันไหนปลอม ตนมองว่า กระบวนการดังกล่าวเขาทำกันแบบขบวนการใหญ่มากและสลับซับซ้อน หากเราใจร้อนวู่วามก็จะโดนกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้หว่านล้อมหลอกเราได้ทุกทาง พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ และมีข่าวที่มีน้องคนหนึ่งต้องมาเสียชีวิตด้วยเรื่องแบบนี้ รู้สึกหดหู่ใจมาก แต่สำหรับตนเองมองว่า ถ้าโดนหลอกไปแล้วก็ไม่ต้องคิดสั้น เพราะชีวิตเราสามารถหาเงินได้มากกว่าที่โดนหลอกไป ซึ่งมาถึงตอนนี้ตนมั่นใจว่าเงินที่ถูกมิจฉาชีพหลอกไปตนไม่ได้คืนแน่นอน

ซึ่งตนเองอยากจะฝากเตือนคนที่นิยมสั่งของออนไลน์ กรณีแรกเราต้องพิสูจน์ก่อนว่าเพจจริงหรือปลอม เมื่อโดนหลอกแล้วก็ไม่ควรคิดอะไรสั้นเกินไป ตั้งสติให้ได้ แล้วค่อยคิดหาวีธีในการแก้ปัญหา.