9 พ.ย.2566 - ที่ สน.พระขโนง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบงานจราจร เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับกรณีเหตุรถบรรทุกดินเหยียบฝาท่อระบายน้ำบนถนนสุขุมวิท 64/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.จนทรุดได้รับความเสียหายทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก และพบว่ารถบรรทุกดังกล่าวมีสติกเกอร์หน้ารถเป็นรูปดาวตัวอักษรบีสีเขียว ที่สังคมสงสัยเป็นส่วยสติกเกอร์อำนวยความสะดวกในการบรรทุกดินเกินน้ำหนัก
ถายหลังการประชุม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ในคดีนี้ ผกก.สน.พระโขนงได้ลงมากำกับดูแลเอง ประเด็นเรื่องสติกเกอร์ตัวบี พบว่าเจ้าของมีรถบรรทุกประมาณ 5 คัน ไม่เยอะไม่เหมือนรถที่วิ่งต่างจังหวัดบนทางหลวง จากการสอบถาม ผกก.ทราบว่าสติกเกอร์ตัวบีเป็นสัญลักษณ์ในการวิ่งเข้าไซต์งานของเขา อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ รอง ผกก.สืบสวน ไปตรวจสอบต่อว่าเป็นสติกเกอร์ส่วยหรือไม่ ส่วนประเด็นที่เอาดินออกจากรถวานนี้ เป็นการเอาดินออกเพื่อให้น้ำหนักลดสามารถยกรถออกได้ ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือ แต่ตอนนี้ได้นำดินกลับมาใส่รถเหมือนเดิมแล้ว ถ้าน้ำหนักเกินก็เป็นความผิด
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนที่สังคมกำลังตั้งคำถามคือส่วยสติกเกอร์ เราต้องมาสอบให้ได้ว่าเขาใช้เพื่ออะไร ใช้เพื่อจ่ายหรือใช้เพื่อเข้าไซต์งาน แต่เบื้องต้นจากการสอบถามเขาบอกว่าเพื่อเข้าไซต์งาน เรารับฟังแต่ต้องไปตรวจสอบ เหตุการ์แบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ไม่ใช่วัวหายล้อมคอกมันต้องไม่เกิดแล้ว ต่อไปรถบรรทุกที่วิ่งเข้ากรุงเทพฯต้องซีนทั้งหมด ต้องเข้าตามเวลา และรถคันที่เกิดเหตุนี้ก็ผิดเรื่องเวลาด้วย วันนี้จะมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องรถบรรทุกทั่วประเทศ ถ้าเมืองหลวงแก้ได้ทั่วประเทศก็แก้ได้ โดยเฉพาะต่างจังหวัดมีด่านชั่งถาวร ตราชั่งลอย แต่ในกรุงเทพฯไม่เคยชั่งเพราะไม่มีตราชั่ง ต้องอาศัยการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อประชาชนสงสัยต้องทำให้ชัดเจน
“ส่วนการชั่งน้ำหนักยอมรับว่าดินเปียกกับดินไม่เปียกน้ำหนักมันต่างกัน เพราะเราไม่ได้ชั่งตั้งแต่เมื่อวาน (8 พ.ย.) เพราะตำรวจไม่ได้มีความพร้อมเรื่องเครื่องมือ แต่ได้ประสานนำตราชั่งมาชั่งแล้ววันนี้จะได้รู้ว่าน้ำหนักเกินหรือไม่ ถ้าเกิน 25 ตัน มีความผิดแน่นอน เกิน 1 ตันหรือ 10 ตัน โทษเท่ากัน เบื้องต้นการดำเนินคดีกับรถบรรทุกได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาทเจ็บทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ส่วนนำหนักถ้าชั่งแล้วน้ำหนักเกินก็แจ้งข้อหาเพิ่ม รวมทั้งการวิ่งนอกเวลา” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกี่ยวข้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน แต่เรื่องการแก้ปัญหาการบังคับคดีผมลงมากำกับดูแล ส่วนเรื่องส่วยสติกเกอร์ วันนี้ตนไม่มีอำนาจไปตรวจสอบเรื่องส่วยสติกเกอร์ อำนาจต้องให้ ผบ.ตร.มอบหมาย ถ้า ผบ.ตร.แต่งตั้งผมทำได้ ต้องดูว่า ผบ.ตร.จะมอบให้ใครแต่ผมจะดูเรื่องคดีที่เกิดและแก้ปัญหาการจราจร การเป็นรอง ผบ.ตร.จะทำหน้าที่อะไรต้องให้ ผบ.ตร.มอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว 'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้าน ระวังทำรัฐบาลพัง
'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้านระวังทำรัฐบาลพัง แนะน้ำท่วมใต้จากพายุชื่อเหมือนกันต้องเป็นธรรม ชดเชยเท่ากัน อย่าคิดแบบเขลาๆ แถเอาแต่สถานการณ์ฉุกเฉินมาอ้าง จะเกิดเหตุไม่พอใจ ลุกลามไปกันใหญ่
รมว.สธ. ตอก 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดเว็บรับแจ้งศพน้ำท่วม ชี้วัดอะไรไม่ได้ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร
"พัฒนา" เมิน "บิ๊กโจ๊ก" ปูดตัวเลขผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้หลักพัน ชี้ตัวเลข 140 รายของสธ. ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง บอก หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร ตัวเลขในเว็บไซต์ชี้ชัดอะไรไม่ได้
อีกแล้ว ‘โจ๊ก’ จะแฉข่าวใหญ่! หลังโผล่กองปราบ ยันไม่หนีคดีหมิ่น สตช.
อดีตรอง ผบ.ตร. เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง ระบุคดีนี้เป็นการแจ้งความเพื่อปิดปาก ย้ำยังไม่มีหมายเรียก-ไม่มีข้อหาใด พร้อมตั้งคำถามกลับถึงเหตุฟ้องร้อง ชี้ตล
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
'อนุทิน' เมินดรามา 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอกเรื่องปกติถูกโจมตี
นายกฯ เมิน ดรามา ‘บิ๊กโจ๊ก’เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอก ‘ผมมาทำงาน อยู่แวดวงการเมืองมานาน’ มองเรื่องปกติถูกโจมตี
ผงะ 'บิ๊กโจ๊ก' นับได้ 550 ศพ! จี้นายกฯ เปิดเผยตัวเลขจริงของผู้เสียชีวิต
“บิ๊กโจ๊ก-สุรเชชษฐ์ หักพาล” จี้นายกฯอนุทิน เปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมอย่างตรงไปตรงมา ระบุข้อมูลที่มีนับได้ 550 ราย พร้อมขอให้รัฐเร่งจัดระบบส่งมอบศพ เยียวยา และอธิบายขั้นตอนช่วยเหลือให้ประชาชนเชื่อมั่น


